- 14 พ.ค. 2563
จากที่ก่อนหน้านี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ตลอดระยะเวลา 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้อยู่ในที่พักนานที่สุด ทำให้ได้ใช้เวลาและได้คิดอะไรหลายๆอย่าง ดิฉันก็ขอเล่าและแชร์ให้กับทุกท่านฟังบ้างนะคะ
จากที่ก่อนหน้านี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ตลอดระยะเวลา 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้อยู่ในที่พักนานที่สุด ทำให้ได้ใช้เวลาและได้คิดอะไรหลายๆอย่าง ดิฉันก็ขอเล่าและแชร์ให้กับทุกท่านฟังบ้างนะคะ
อย่างแรกเลยค่ะ ให้เวลากับตัวเองโดยทำร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้นเพื่อจะได้ต่อสู้กับโควิดได้ ด้วยการนอนให้มากขึ้น เพื่อพักร่างกายที่เคยเหน็ดเหนื่อยแบบไม่ได้พักมานาน ฝึกหายใจยาว ๆ แล้วก็ตามด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน เริ่มตั้งแต่การเดินบ้าง ว่ายน้ำบ้าง และเปิดยูทูปเพื่อออกกำลังกายตาม ก็เป็นอะไรที่สนุกดีค่ะ
ทำให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) อดใจไม่ไหว ต้องขอโพสต์รูปภาพพร้อมข้อความระบุว่า #ยิ่งลักษณ์เพ้อ อยู่ในที่พักแสนหรูหรานานครั้งแรกเพราะพิษโควิค ไม่มีไรทำก็ #คิดวิ่งบนลู่ไฟฟ้าเล่น แต่ไม่ #คิดถึงบุญทรง กำลังติดคุก #ยิ่งลักษณ์ นักโทษหญิงหนีคดี โกงเงินหลายแสนล้าน สบายดีค่ะ บุญทรงและประชาชนไทยสบายดีไหมคะ เธอ โพสต์ด้วยว่า เห็นแล้วนะคะว่า นักโทษหนีคดีโกงเงินบ้านเมืองไปหลายแสนล้านยิ่งลักษณ์สบายดีค่ะ ประชาชนสบายดีไหมคะ"
อ่านข่าว - ปารีณาโพสต์ย้อนคำยิ่งลักษณ์ เห็นชีวิตหรูอยู่สบาย แต่ไม่คิดถึงบุญทรงกำลังติดคุก
ล่าสุด สำนักข่าวบีบีซีไทยได้สัมภาษณ์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพักใจกลางกรุงลอนดอน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อถูกขอให้มองภาพการแก้ปัญหาโรคโควิด-19 ของไทย เขาจึงเริ่มต้นด้วยการชื่นชมไทยว่ามีอัตราการเสียชีวิตต่ำ แต่เขาเชื่อว่านั่นเป็นเพราะระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งอยู่ก่อนแล้ว
"ผมเป็นห่วงเรื่องการตรวจ เพราะถ้าเราตรวจน้อย เราพบน้อยแน่นอน แต่การตรวจก็ไม่จำเป็นต้องตรวจทั้งหมดซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง สามารถใช้ทฤษฎีเรื่องการสุ่มตรวจในกลุ่มเสี่ยงบางกลุ่มได้"
เขาบอกว่าเฝ้าติดตามการแก้ปัญหาการระบาดใหญ่ของไวรัสตัวนี้อย่างใกล้ชิด สอบถามที่ปรึกษา นักวิทยาศาสตร์ แพทย์ และนักวิชาการอยู่ตลอดเวลา จนเชื่อว่าเขาเข้าใจเชื้อโรคและการระบาดนี้ได้ดีพอควร
เขาเห็นผู้นำหลายชาติในโลก "ไม่เข้าใจเชื้อโรคนี้อย่างแท้จริง" จึงแก้ปัญหาโดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ และหากเขาได้มีโอกาสแก้ปัญหาประเทศตอนนี้ก็จะ "ไม่ล็อกดาวน์"
อดีตนายกรัฐมนตรีที่เคยเผชิญวิกฤตการระบาดของไข้หวัดนกในช่วงปี 2547-2548 บอกว่าได้ศึกษาเกี่ยวกับเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคไข้หวัดนกและโรคซาร์สที่เคยระบาดครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2546 และไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 แล้ว เขาเชื่อว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไม่ได้ร้ายแรงมากไปกว่าเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคซาร์ส ดังนั้นจึงมองมาตรการล็อกดาวน์กับการเพิ่มระยะห่างทางสังคมที่รัฐบาลทั่วโลกกำลังทำอยู่เป็นสิ่งที่ได้ไม่คุ้มเสีย และหากมีอำนาจเขาจะ "คลายเรื่องของการล็อกดาวน์ทันที"
"เรามาดูทั้งโลกติด (โรคโควิด-19) แล้ว 3 ล้านกว่าคน จากประชากรโลก 7 พันล้านคน…ถือว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ต่ำมาก… เรากำลังเอาเปอร์เซ็นต์ต่ำนี้มาแลกกับเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อคนโดยเฉพาะ ในประเทศกำลังพัฒนาที่ไม่มีแรงอุดหนุนอะไรมากมาย ถามว่าคุ้มไหม ผมว่าไม่คุ้ม…คนข้างล่างเขาจะถามว่าถ้าไม่ติดโคโรนา ถ้าอดตายละ…ทั่วโลกนี่ต้องคิดว่ายังมีคนที่ไม่มีเงินออมและมีหนี้ครัวเรือนจำนวนมาก จะให้เขาเสียสละอย่างไร"