- 19 พ.ค. 2563
เดินทางมาถึงจุดสำคัญของการแก้ไขปัญหาการขาดทุนสะสมของบมจ.การบินไทย ที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าสถานะทางการเงิน กอรปกับภาวะผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด -19 จะทำให้สายการบินแห่งชาติ เดินมาจุดทางตัน ก่อนที่ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) จะมีมติเห็นชอบให้ บมจ.การบินไทย เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยเลือกไม่ปล่อยให้เกิดภาวะล้มละลาย
เดินทางมาถึงจุดสำคัญของการแก้ไขปัญหาการขาดทุนสะสมของบมจ.การบินไทย ที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าสถานะทางการเงิน กอรปกับภาวะผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด -19 จะทำให้สายการบินแห่งชาติ เดินมาจุดทางตัน ก่อนที่ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) จะมีมติเห็นชอบให้ บมจ.การบินไทย เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยเลือกไม่ปล่อยให้เกิดภาวะล้มละลาย
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : สหภาพบินไทย ออกโรงค้านแนวคิดฟื้นฟู ก.คลังลดสัดส่วนถือหุ้น เจ้าจำปีขยายงดบินต่ออีก 1 เดือน )
ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมครม.ผ่านไลฟ์สดเพจไทยคู่ฟ้า ว่า ขอแจ้งให้ทราบการตัดสินใจเรื่องแนวทางการแก้ไขวิกฤตการบินไทย ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่เป็นการตัดสินใจที่ตนรู้ว่าจะช่วยรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนทุกคนได้อย่างไร
ทั้งนี้ในส่วนของปัญหาดังกล่าว ทุกคนทราบดีอยู่แล้วบมจ.การบินไทยมีหนี้สินต่างๆมากพอสมควร ซึ่งแนวทางการดำเนินการมีอยู่ 3 ทางเลือกด้วยกัน คือ 1.การหาเงินให้การบินไทยดำเนินการต่อไป 2.ปล่อยให้เข้าสู่สถานการณ์ล้มละลาย และ 3.เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูของศาล แต่ที่ผ่านมาการจัดการอาจจะการฟื้นฟูไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนัก เพราะมีข้อกฎหมายอยู่หลายประการ โดยเฉพาะอย่างพ.ร.บ.แรงงานและพ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจ ดังนั้นวันนี้เราจำเป็นต้องหามาตรการที่เหมาะสม และรัฐบาลได้มีการพิจารณาร่วมกันในคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และครม.แล้ว
"พวกเราทุกคนตัดสินใจว่าเราจะเลือกทางที่ 3 เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูของศาล ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และจะต้องมีการดำเนินการอีกหลายขั้นตอนต่อไป เพื่อแก้ปัญหาภายในองค์กร และเรื่องประกอบการต่อไป เพื่อให้ฟื้นฟูขึ้นมาอย่างที่พวกเราคาดหวังไว้ ผมอยากให้ทุกคนกลับไปคิดดูว่า เรามีการบินไทยเพื่ออะไรในช่วงที่ผ่านมา และการบินไทยควรที่จะเป็นองค์กรที่จะสร้างชื่อเสียง และรายได้ให้กับคนไทย และมีความสามารถในการแข่งขัน เข้มแข็งในตัวเองได้อย่างไร นี้คือพื้นฐานในการตัดสินใจของผม และนำเข้าสู่การพิจารณาของครม.ในวันนี้ ซึ่งวันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องกล้า ที่จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูโดยการยื่นขอเข้ากระบวนการต่อศาล ซึ่งได้มีการหารือกันอย่างรัดกุมในรายละเอียดต่างๆทั้งหมด"
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า ยิ่งโดยเฉพาะช่วงเวลานี้ประเทศไทยและทั้งโลกกำลังเผชิญวิกฤติ รายได้ของทุกคนกำลังหายไปจากหายนะของโควิด-19 เราจำเป็นต้องรักษาเงินตราของประเทศไทยเอาไว้ เพื่อใช้ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในช่วงเวลาข้างหน้าต่อจากนี้ต้องช่วยเหลือเกษตรกรที่ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่างๆที่เผชิญวิกฤติทางเศรษฐกิจทางธุรกิจ หรือช่วยเหลือคนหาเช้ากินค่ำ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือประชาชนทั่วไปที่ทำงานหนักในขณะนี้ เพื่อมีเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวของตัวเอง รัฐบาลต้องมองอย่างรอบครอบในทุกมิติดังกล่าวที่ว่ามา
แม้วันนี้เราจะอยู่ในจุดที่สามารถควบคุมวิกฤติทางด้านสุขภาพได้ดีในระดับหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับหลายๆประเทศ แต่ปัญหาโควิด-19 กราบเรียนว่าจะยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะปัญหาที่หนักกว่านั้นซึ่งรัฐบาลกำลังหาหนทางปฏิบัติแก้ปัญหาดังกล่าวคือ ปัญหาการทำมาหากินเลี้ยงปากท้องของประชาชนที่ทุกคนในประเทศไทยล้วนได้รับผลกระทบทั้งสิ้น และยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสามารถกลับมาทำมาหากินสร้างรายได้เหมือนปกติอย่างเคย นี่คือวิกฤติทางเศรษฐกิจที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต เราจำเป็นต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนในการใช้จ่ายงบประมาณอีกจำนวนมากหลังจากช่วงวิกฤติโควิด-19 เพื่อให้ประชาชนอยู่รอด สร้างชีวิตสร้างรายได้กลับสู่ภาวะปกติ และสร้างเศรษฐกิจประเทศกลับคืนมา และเข้มแข็งในระยะต่อไป รัฐบาลจึงต้องมองในทุกมิติ
"ผมเองรู้สึกว่าการที่ตัดสินใจเข้าสู่แผนการฟื้นฟูโดยไม่ปล่อยให้การบินไทยเข้าสู่สถานะล้มละลาย ซึ่งอาจจะทำให้พนักงานมากกว่า 2หมื่นคนต้องถูกลอยแพ พวกเราคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น คงไม่อยากเห็น ฉะนั้นรัฐบาลยืนยันว่าจะสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่อไปได้แม้จะไม่ได้รับเงินจากรัฐบาล จึงขออนุญาติให้การบินไทยเข้าไปอยู่ภายใต้การคุ้มครองของศาลและเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูภายใต้คำสั่งของศาล ซึ่งศาลจะมีการพิจารณาแต่งตั้งมืออาชีพมาบริหารจัดการการฟื้นฟูการบินไทย ผมเองและพี่น้องประชาชนทุกคนคงคาดหวังเช่นเดียวกัน ว่าเมื่อมีมืออาชีพเข้ามาบริหารจัดการแล้ว การบินไทยจะสามารถกลับมาเป็นสายการบินแห่งชาติที่คนไทยเคยภาคภูมิใจ และกลับมาเป็นองค์กร ที่ช่วยสร้างความรุ่งเรืองให้กับประเทศไทยได้
ด้วยวิธีการนี้เป็นวิธีการเดียวที่การบินไทยจะยังคงสามารถประกอบกิจการและดำเนินการต่อได้ พนักงานการบินไทยจะมีงานทำต่อไป ขณะเดียวกันการปรับโครงสร้างของการบินไทยหลายๆอย่างที่ควรจะสำเร็จนานแล้วก็จะเกิดขึ้นได้ด้วยในการเข้าสู่มาตรการฟื้นฟู นั่นคือการตัดสินใจของผมและเป็นทิศทางที่รัฐบาลจะยึดมั่นปฏิบัติต่อกรณีของการบินไทยส่วนในอดีตต่างๆจะเป็นไปตามที่ศาลกำหนด และคาดว่าจะแจ้งให้ทุกท่านทราบในโอกาสต่อไป ซึ่งตนได้ให้กระทรวงคมนาคมและหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวถึงรายละเอียดอีกครั้ง"
ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การบินไทยถือว่าเป็นทูตที่ดีทางวัฒนธรรมที่ช่วยโปรโมทประเทศไทยมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า60 ปี ผ่านการทุ่มเทการทำงานของคนมากมาย จากรุ่นสู่รุ่น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน วิศวกร ช่าง พนักงานภาคพื้นรวมถึงพนักงานอื่นๆของการบินไทย ตนหวังเช่นเดียวกับคนไทยทุกคนว่าการช่วยเหลือให้การบินไทยเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู ภายใต้คำสั่งศาลลจะช่วยให้การบินไทยกลับมาเป็นสายการบินที่มีความแข็งแกร่งได้อีกครั้ง ขอบคุณอีกครั้ง นี่คือการตัดสินใจของตนและครม.ในวันนี้ ( 19 พ.ค. 2563)