- 15 มิ.ย. 2563
คงไม่จบง่ายๆเมื่อประเมินจากสถานการณ์การเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการออกมากดดันให้รับผิดชอบการหายตัวไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ แอดมินเพจ “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ” ในฐานะเป็นคนไทย ทั้ง ๆ ที่มีข้อมูลชัดเจนว่า นายวันเฉลิม เลือกจะเป็นผู้หลบหนีเข้าเมือง และอาจมีความเกี่ยวโยงกับธุรกิจนอกรีต จึงไม่ใช่ผู้ลี้ภัยจากกรณีที่มีการกล่าวอ้าง ตามรายละเอียดที่กัมพูชาตอบเป็นทางการต่อกระทรวงต่างประเทศของไทย
คงไม่จบง่ายๆเมื่อประเมินจากสถานการณ์การเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการออกมากดดันให้รับผิดชอบการหายตัวไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ แอดมินเพจ “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ” ในฐานะเป็นคนไทย ทั้ง ๆ ที่มีข้อมูลชัดเจนว่า นายวันเฉลิม เลือกจะเป็นผู้หลบหนีเข้าเมือง และอาจมีความเกี่ยวโยงกับธุรกิจนอกรีต จึงไม่ใช่ผู้ลี้ภัยจากกรณีที่มีการกล่าวอ้าง ตามรายละเอียดที่กัมพูชาตอบเป็นทางการต่อกระทรวงต่างประเทศของไทย
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : ตอบทางการครั้งแรก กัมพูชายันไร้เบาะแส วันเฉลิม หายตัวไปไหน )
ขณะที่ล่าสุด กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมือง อย่าง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย อดีตผู้ต้องหาตามความผิดอาญา มาตรา 112 ได้ไปรวมตัวอีกครั้งที่บริเวณหน้าสถานทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย เพื่อแสดงออกกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องให้มีการสอบสวน กรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม พร้อมอ่านแถลงการณ์เน้นย้ำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอความเป็นธรรมให้มีการสอบสวนกรณีนี้ แม้ว่าก่อนหน้ากลุ่มผู้ชุมนุมในลักษณะดังกล่าว จะมีหมายเรียกของสถานีตำรวจนครบาล วังทองหลาง กล่าวโทษกลุ่มผู้จัดกิจกรรมที่หน้าสถานทูตฯกัมพูชา ในความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาหนึ่งครั้งแล้ว
อย่างไรก็ตามอีกประเด็นหนึ่งที่เป็นข้อมูลของหน่วยความมั่นคง ก็คือ มีความพยายามนำกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม เชื่อมโยงกับคดีความผิดมาตรา 112 เพื่อก้าวล่วงไปถึงสถาบันเบื้องสูง ทั้ง ๆ ที่โดยข้อเท็จจริง นายวันเฉลิม ไม่เคยโดนข้อกล่าวหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า สิ่งที่กังวลที่สุดคือการละเมิด การก้าวล่วงสถาบัน ฉะนั้นขอร้องทุกคนด้วยในฐานะที่เราเป็นคนไทย อย่าไปเชื่อฟังคำบิดเบือนที่เผยแพร่ต่างๆที่สร้างความเกลียดชัง ยึดโยงนู่นนี่กันมา มันไม่มีความเป็นไปได้อยู่แล้ว
ในส่วนที่เกิดขึ้นต้องมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เขาต้องการอะไร แล้วเราจะเป็นเครื่องมือให้เขาทำไม ใช่หรือไม่ จะไปแพร่ จะไปดูอะไรต่างๆก็รู้อยู่ว่า เขาเดินหน้าในช่วงนี้หนักขึ้นเพื่ออะไร ใกล้วันอะไรสักอย่างไหม และเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ มันเป็นต่างประเทศมีใครกล้าที่จะไปทำอย่างนั้นบ้าง ในประเทศไทยยังทำกันอยู่ ไม่เห็นมีใครเป็นอะไรเลยสักคน ฉะนั้นกฎหมายทุกตัวมีอยู่ และเราเข้าใจว่าต้องทำให้ทุกคนมีความสบายใจ โดยเฉพาะเด็กนักศึกษาไม่อยากให้เขาเสียอนาคต ไม่ได้ไปขู่เขาเลยนะเนี่ย กฎหมายมีทุกตัวอยู่แล้ว
"สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทุกคนต้องสำนึกอยู่ในวันนี้ เรื่องการบิดเบือนสถาบัน มีกฎหมายมาตรา 112 ใช่หรือไม่ และไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้ใช่มั้ย สิ่งที่อยากจะบอกคนไทยทุกคน วันนี้จะเห็นได้ว่ามาตรา 112 ไม่ได้ใช้เลย เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัว พระองค์ทรงพระเมตตาไม่ให้ใช้ นี่คือสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้แล้ว แล้วคุณก็ละเมิดไปกันเรื่อยเปื่อยอย่างนี้ หมายความว่าอย่างไร คุณต้องการอะไรกัน เข้าใจมั้ย วันนี้ผมจำเป็นต้องพูด เพียงเพราะผมต้องการให้บ้านเมืองสงบ เข้าใจมั้ย"
และเมื่อถามว่า กระแสข่าวที่ยังมีการเคลื่อนไหวในประเทศเพื่อนบ้าน จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ทำหนังสือไปหาเขา ถ้ามีอะไรเขาก็ส่งกลับมา ถ้าเขาไม่ส่งกลับมาแล้วจะทำอย่างไรได้ และทุกคนก็ไปกล่าวอ้างว่าส่งคนไปทำนู่นทำนี่ มันทำได้ที่ไหนในต่างประเทศ กฎหมายเขามีใครจะกล้าไปทำ เข้าใจไหม แล้วคนที่ไปอยู่ต่างประเทศ เขาไปอยู่เพราะอะไร เขาทำความผิดในประเทศไทย ใช่หรือไม่
บางคนเล็กๆน้อยๆก็หนีไป ไม่รู้ว่าหนีไปทำไมทั้งที่คดีนิดหน่อยเท่านั้นเอง คนนี้เรื่องอะไร เรียกตัวแล้วไม่มีแล้วก็หนี แล้วไปด่าคนนู้นคนนี้อยู่ข้างนอก แล้วเขาไปทำธุรกิจอะไรก็ไม่รู้ เข้าใจหรือไม่ ทางกัมพูชาเขาก็พร้อม หากมีใครไปแจ้งความร้องทุกข์กับเขาก็สอบสวนให้ วันนี้เขาก็แจ้งมาแล้ว ทากระทรวงการต่างประเทศเขาคุยกันอยู่ ซึ่งวันนี้ได้ขอความร่วมมือทุกประเทศที่มีคนเหล่านี้เคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งบางคนอยูในลักษณะผู้ลี้ภัย แต่ตามกติดาโดยตรงคนเหล่านี้น่าจะสำนึกเมือเขาให้อยู่ในประเทศเขาแล้ว ก็ไม่ควรจะทำอะไร เดี๋ยววันหน้าจะมีปัญหาอีก เกิดเขาไม่ให้อยู่ก็ไม่รู้จะไปอยู่ไหน
“ผมก็สงสารเขาในนามคนไทย ผมไม่ใช่คนใจร้าย จะไปฆ่าไปแกงกันได้อย่างไร แต่ขอให้สำนึกไว้ด้วยว่า มาตรา112 ทำไมถึงไม่ถูกดำเนินคดี และทำไมถึงมีคนฉวยโอกาสตรงนี้ขึ้นมา พระองค์ท่านมีพระเมตตา มีพระมหากรุณาธิคุณ กำชับมากับผมโดยตรง ตลอดระยะเวลา2-3 ปีที่ผ่านมามีการใช้มั้ย 112 ทำไมไม่คิดตรงนี้ ก็ลามปามกันไปเรื่อย ฉะนั้นประชาชนทุกคนที่อยู่ในประเทศนี้ ที่มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประชาชนต้องช่วยกัน โดยเฉพาะลูกหลานของท่าน ประเทศไทยไม่เหมือนที่อื่น การเปลี่ยนแปลงประเทศต่างๆ เราไม่ได้เปลี่ยนแปลงด้วยความรุนแรงเลย เข้าใจหรือไม่
หลายประเทศที่เป็นประชาธิปไตยในวันนี้เปลี่ยนแปลงด้วยความรุนแรงทั้งสิ้น บาดเจ็บล้มตายไม่รู้เท่าไหร่ แล้วเราจะเอาตัวอย่างแบบเขาทำไม เป็นห่วงที่สุดคือนักศึกษาทุกคนหากมีพฤติกรรมเหล่านี้วันหน้าเขาจะทำงานยาก บริษัทห้างร้าน เขาไม่อยากได้คนมีทัศนคติอย่างนี้ไปทำงาน แล้วจะทำอะไรกินกัน ผมห่วงเขาตรงนี้ต่างหาก เตือนเขาเพราะเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่มันอยู่ที่คนชักนำเขา ฉะนั้นสื่อก็ต้องไม่ช่วยกันประโคมข่าวเหล่านี้ออกไป มันแพร่ไปที่อื่นมันดูไม่ดี ขอให้ช่วยกัน บ้านเมืองจะสำเร็จได้ด้วยมือคนไทยทุกคน ขอบคุณนะครับ”