บุญเกื้อลุยชน ช่อ พรรณิการ์ ขึ้นโรงพักร้องสอบเงินบริจาค เมย์เดย์ เมย์เดย์ 7.2 ล้าน คณะก้าวหน้าส่อพิรุธ

สืบเนื่องจากกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ทวิตข้อความผ่านบัญชีทวิตเตอร์ Thanathorn FWP ประกาศเชิญชวนให้บุคคลทั่วไปที่เดือดร้อนอินบอกซ์มาขอรับเงินทันทีรายละ 3,000 บาท โดยอ้างว่าไม่ต้องพิสูจน์ความจน กระทั่งต่อมา เสี่ยโป้ หรือ นาย อภิรักษ์ ชัชอานนท์ ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่งทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก 
 

แต่ดูทีท่าว่า เรื่องนี้จะกลายเป็นดราม่าซะแล้ว เมื่อมีคนออกมาเปิดโปงปมเงินบริจาคโครงการเมย์เดย์ ของคณะก้าวหน้า โดยว่าที่ร้อยตรีบุญเกื้อ ปุสสเทโว อดีตผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จะฟ้อง ช่อ พรรณิการ์ พร้อมมีการหลักฐานไปแจ้งความกับตำรวจนครบาลโคกคราม ให้ดำเนินคดีฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

โดย ว่าที่ร้อยตรีบุญเกื้อ ปุสสเทโว อตีตผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม เพื่อขอลงบันทึกประจำวันพร้อมมอบหลักฐาน เป็นรายชื่อผู้บริจาคและจำนวนเงินของผู้บริจาค ให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ กรณีเงินบริจาคโครงการเมย์เดย์ เมย์เดย์ 7.2 ล้านบาท ของคณะก้าวหน้า ที่เปิดรับบริจาคช่วยเหลือประชาชนช่วง "โควิด-19" ที่มีข้อพิรุธและความไม่โปร่งใส

ทั้งนี้ ว่าที่ร้อยตรีบุญเกื้อ เปิดเผยว่า วันนี้นำหลักฐานเป็นบัญชีรายชื่อ และสเตทเมนต์ ของผู้บริจาคในโครงการเมย์เดย์ เมย์เดย์ ของคณะก้าวหน้า ซึ่งตนติดตามโครงการนี้มาโดยตลอด โดยโครงการนนี้เกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งตนก็เป็นประชาชนธรรมดาและเป็นหนึ่งในผู้ร่วมบริจาคโดยตนบริจาคไป 1 สตางค์ ที่บริจาคแค่นี้เพราะเห็นว่าได้ยอดเยอะแล้ว ถึงจะเป็นเงินไม่มากก็น่าจะมีสิทธิ์ตรวจสอบความโปร่งใส ที่มีกระแสข่าวว่าตนรับงานมาจากใครหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าตนมาทำหน้าที่ขอประชาชนไม่มีใครสามารถมาสั่งให้ตนทำอะไรได้ 

สำหรับโครงการนี้ตนตั้งข้อสังเกตหลายอย่าง เช่นการเปิดรับบริจาคไม่ควรจะใช้บัญชีส่วนตัวของคุณช่อพรรณิการ์ การรับบริจาคขนาดนี้น่าจะเปิดบัญชีในรูปแบบขององค์กร ที่จะต้องมีคนร่วมเปิดบัญชีร่วมกัน 3 - 4 คน รวมถึงเพิ่งมีการประกาศรายชื่อผู้ร่วมบริจาคทั้งๆที่แถลงข่าวปิดโครงการไปนานแล้ว เป็นต้น และหากน.ส.พรรณิการ์ จะนำสเตสเม้นมาชี้แจงน่าจะเชิญนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม มาดูด้วยก็น่าจะมีความชัดเจน และน่าจะจบด้วยดี อย่างไรก็ตามตนไม่ได้กังวลว่าจะถูกดำเนินคดีกลับ ซึ่งได้เตรียมโฉนดที่ดินไว้หากถูกฟ้องร้องขึ้นมา

เบื้องต้นตำรวจรับเอกสารไว้ตรวจสอบและเชิญตัวนางสาวพรรณิการ์ รวมถึงคณะทำงานของโครงการมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมนำหลักฐานต่างๆมาตรวจสอบ ซึ่งหากเป็นไปตามที่ผู้ยื่นเรื่องตรวจสอบอ้างว่าผู้ถูกร้องยินดีที่จะเข้ามาพบพนักงานสอบสวนพร้อมกันกับผู้ร้อง ก็ยินดี ทั้งนี้หากตรวจสอบแล้วไม่พบข้อพิรุจในส่วนนี้ก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ และถ้าหากพบข้อพิรุจส่วนใดก็ต้องรอให้ผู้ร้องมาแจ้งความดำเนินคดีในภายหลังอีกครั้ง

ก่อนหน้านั้น ว่าที่ร้อยตรีบุญเกื้อ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า "พอเธอได้ข่าวว่าผมจะฟ้องเธอ เพราะเธอไม่เปิดเผยสเตทเมนต์ เธอก็รีบประกาศให้ทนาย "ฟ้องแก้เกี้ยว" ทันที ได้สิครับ..สรุปว่านักการเมืองรุ่นใหม่ห้ามตรวจสอบหรือครับ 55"