- 13 ก.ค. 2563
หลังจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร อ้างมติเสียงข้างมากกมธ. พิจารณาเรื่องกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการ ส่งต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการเอาผิดในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 แม้ว่าก่อนหน้าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าวไปแล้ว
หลังจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร อ้างมติเสียงข้างมากกมธ. พิจารณาเรื่องกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการ ส่งต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการเอาผิดในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 แม้ว่าก่อนหน้าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าวไปแล้ว
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : สว.สมชาย ชี้ชัดการตรวจสอบ ปมถวายสัตย์ทำไม่ได้แล้ว ด้วยผลผูกพันตามคำวินิจฉัยศาลรธน.)
ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประกาศจะดำเนินการทางกฎหมายกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เช่นกัน "เมื่อท่านไม่ยอมหยุด ผมก็ต้องหยุดท่านโดยเสียงของสภา โดยในญัตติที่ผมได้เสนอเข้าสภาระบุชัดเจนว่าการดำเนินการของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นการดำเนินการมิชอบ หากสภาฯเห็นด้วยก็ย่อมมีผลผูกพันและมีผลให้มติที่ยื่นประธานสภาฯไปนั้นมิชอบด้วยกฎหมาย การพิจารณาของสภาฯเท่ากับเป็นการวินิจฉัยและรับรองไปด้วย หมดทางเลือกแล้วเพราะต้องเป็นหน้าที่ของสภาฯ"
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : ไพบูลย์ เดินหน้าชน เสรีพิศุทธ์ รวบรัดมติกมธ. ฟ้องนายกฯปมถวายสัตย์ฯ ผิดม. 157)
ล่าสุดที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษา ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คดีหมายเลขดำ อ.577/2563 ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเว ส ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นโจทก์ฟ้องนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ และบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
กรณีเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันใส่ร้ายหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ โดยจำเลยที่ 1 ได้ให้สัมภาษณ์ทำนองว่า โจทก์เล่นไม่เลิก ถึงปัญหาการถวายสัตย์ของนายกรัฐมนตรี สร้างความปั่นป่วนเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง ควรต้องรับผิดชอบกับพฤติกรรมของตัวเองด้วย และอื่นๆ ก่อนที่จำเลยที่ 2 จะนำไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ www.nationtv.com สื่อเนชั่นทีวี 22 ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ประชาชนเข้าใจว่า โจทก์เป็นคนไม่ดี ขาดความเชื่อมั่นในตัวโจทก์ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายด้วย
โดยการนัดชั้นไต่สวนมูลฟ้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นโจทก์ และ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ จำเลย ไม่ได้ต้องเดินทางมาศาล โดยมีเพียงทนายความและผู้แทนเดินทางมาศาล
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 1 ให้สัมภาษณ์ทำนองไม่เห็นด้วยกับโจทก์ ปัญหาการถวายสัตย์ไม่มีแล้ว โดยอ้างถึงคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ และนำข้อความสุภาษิตวิพากษ์วิจารณ์เปรียบเปรยโดยทั่วไป ไม่ได้ยืนยันหรือทำให้วิญญูชนทั่วไปคิดถึงขนาดว่าโจทก์ทำหน้าที่โดยไม่มีคุณธรรม จึงไม่ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ส่วนจำเลยที่ 2 กระทำในฐานะสื่อมวลชน ไม่ได้ตัดเติมแก้ไข จึงไม่ผิดหมิ่นประมาทตามฟ้อง ฟ้องโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง