- 24 ก.ค. 2563
จากจุดเริ่มต้นของการปลุกระดมให้ผู้คนรุ่นใหม่ออกมาขับไล่รัฐบาล โดย "กลุ่มเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH" ที่แปรสภาพมาจาก "สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย" หรือ สนท. โดยการนำขอ ง เพนกวิน หรือ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ , นางสาวจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ และนายชนินทร์ วงษ์ศรี แต่วันนี้กลับปรากฎข้อมูลอีกด้านว่ากิจกรรมที่เกิดขึ้น มีเป้าหมายของการชักชวน ผู้คนให้คิดไกลไปถึงการเปลี่ยนระบอบการปกครอง ผ่านหลักฐานต่าง ๆ ที่แสดงเจตนาจาบจ้วง ล่วงละเมิด สถาบันเบื้องสูง กระทั่งในเพจเฟซบุ๊ก สาธิต เซกัล นักธุรกิจชาวอินเดียที่มีหัวใจรักชาติและจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ได้โพสต์แสดงความเห็นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น "ถึงเวลาแล้วที่จะปรับทุกข์กับท่าน ผู้บัญชาการทหารบก เรื่องการ ดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ วันศุกร์ที่ 24 เวลาบ่ายโมงที่ กองบัญชาการทหารบก"
จากจุดเริ่มต้นของการปลุกระดมให้ผู้คนรุ่นใหม่ออกมาขับไล่รัฐบาล โดย "กลุ่มเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH" ที่แปรสภาพมาจาก "สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย" หรือ สนท. โดยการนำขอ ง เพนกวิน หรือ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ , นางสาวจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ และนายชนินทร์ วงษ์ศรี แต่วันนี้กลับปรากฎข้อมูลอีกด้านว่ากิจกรรมที่เกิดขึ้น มีเป้าหมายของการชักชวน ผู้คนให้คิดไกลไปถึงการเปลี่ยนระบอบการปกครอง ผ่านหลักฐานต่าง ๆ ที่แสดงเจตนาจาบจ้วง ล่วงละเมิด สถาบันเบื้องสูง กระทั่งในเพจเฟซบุ๊ก สาธิต เซกัล นักธุรกิจชาวอินเดียที่มีหัวใจรักชาติและจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ได้โพสต์แสดงความเห็นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น "ถึงเวลาแล้วที่จะปรับทุกข์กับท่าน ผู้บัญชาการทหารบก เรื่องการ ดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ วันศุกร์ที่ 24 เวลาบ่ายโมงที่ กองบัญชาการทหารบก"
อ่านข่าว - สาธิต เซกัล นักธุรกิจอินเดียหัวใจไทย เคลื่อนไหวขอคุย บิ๊กแดง ยอมไม่ได้ให้ใครดูหมิ่นสถาบันฯ
ล่าสุด มีหลากหลายเป็นประเด็นให้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ได้ชี้แจงอีกมากมาย ซึ่งผบ.ทบ.ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 ก.ค. กรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มนิสิตนักศึกษาที่มีการดึงสถาบันมาเกี่ยวข้อง ด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ทุกคนก็เป็นราษฎร ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ไม่ใช่เพียงแค่ทหารเท่านั้น ประชาชนบางคนไม่ได้เกิดเมืองไทย แต่ก็มาอยู่เมืองไทย บางคนเกิดเมืองไทย เกิดมาในหลายตระกูล ตั้งแต่ปู่ย่าตายาย อยู่ในพระบรมโพธิสมภาร ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด หรือเป็นเชื้อชาติใดก็ตาม ก็มีสิทธิเสรีภาพ
“วันนี้เป็นวันดี ไม่อยากจะพูดอะไร ที่จะไปกระทบกระทั่งสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ แต่อยากจะให้ประชาชนชาวไทยทุกคน ได้ลองตั้งจิตให้เป็นกลางดูว่าคำพูด คำเขียน ทั้งที่เราเห็นในการชุมนุม ผมทราบดี และตระหนักในสิทธิเสรีภาพ ในระบอบประชาธิปไตย แต่สิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่คนเห็นทั้งในโซเชียล มีการใช้วาจาผรุสวาท ใช้คำพูดไม่เหมาะสม ไม่บังควร ผมมองว่าหลายคนเห็นคงไม่สบายใจ”
นอกจากนี้ พล.อ.อภิรัชต์ ย้ำว่า กองทัพบกเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคง ขณะนี้เรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หน่วยความมั่นคงก็ต้องทำงาน แต่การกระทำใดที่จะไปกระทบกระเทือนการแสดงสิทธิเสรีภาพ ตนคิดว่าคนที่ทำแบบนั้น ควรคำนึงถึงขอบเขตใช้สิทธิเสรีภาพ ของแต่ท่าน ไม่ว่าจะเป็นสภาผู้แทนราษฎรหรือการชุมนุมต่างๆ เราต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราต้องไม่จาบจ้วง หรือใช้วาจาที่ไม่สุภาพ ต่อบุคคลที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ แม้ตนจะเป็นผู้บัญชาการทหารบก แต่สิ่งที่ตนพูดนั้นในฐานะคนไทย พูดในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ว่าแต่ละท่านจะอะไร ขอให้นึกย้อนกลับไป คงจะรู้สึกเสียใจ แม้ประชาชนบางส่วนบางกลุ่มจะไม่พอใจ ตนขอฝากสื่อมวลชน
พล.อ.อภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ขออนุญาตอ้างถึงสำนักข่าวบีบีซีไทย ซึ่งตนได้ศึกษาเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2561 คือทฤษฎีสมคบคิด หรือเป็นเรื่องที่น่าศึกษาฝากให้ทุกคนไปดู เพราะเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน และปัจจุบันตนมองแล้วว่า มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบเป็นกระบวนการ มีความคล้ายคลึงกับทฤษฎีสมคบคิด มีหลายคนพยายามอธิบายความหมายในทฤษฎีสมคบคิด ซึ่งในข้อมูลของสำนักข่าวบีบีซีไทยได้มีการพูดถึง นิสิต นักศึกษาผู้มีความรู้ นำมาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในส่วนของกองทัพเองได้แต่เฝ้ามอง ติดตามแต่ไม่คุกคาม รวมถึงรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ไม่เคยมีคำสั่ง เพียงแต่ให้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ชุมนุมให้เกิดความเรียบร้อย และประสานงานกับตำรวจแม้แต่จะเดินทางมาชุมนุมที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก เราก็ไม่ได้มีมาตรการอะไรและตนไม่ได้ติดใจอะไร
เมื่อถามว่า ขณะนี้ม็อบมีการชุมนุมขยายวงกว้างและมีการพูดในเชิงลักษณะหมิ่นสถาบันฯ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ขณะนี้มีหน่วยงานความมั่นคง เข้าไปดูจะให้ตนเตือนสติ คงจะลำบาก แต่อยากให้ไปดูว่า ตนเองกลายเป็นหนึ่งในทฤษฎีสมคบคิดหรือไม่
เมื่อถามย้ำว่าทฤษฎีนี้มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว่า ตนเป็นผู้บัญชาการทหารบก จะพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้
เมื่อถามว่า อยากให้ประชาชนแสดงความเห็นในเรื่องของการปกป้องสถาบันอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้วคนดีจะไม่กล้าแสดงออก และกลัว ซึ่งหลายๆคนก็เป็นเช่นนี้ แม้กระทั่งการใช้สื่อโซเชียล ก็ถูกถล่มกลับมา ซึ่งเรื่องนี้มีหน่วยงานด้านการข่าวได้ติดตาม ผู้ใช้ Twitter หรือผู้เปิดแอคเคาท์เอง ได้ใช้ช่องทางทางโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Twitter โดยมีการรีทวิตซึ่งมีค่อนข้างเยอะมากประมาณ 4-5 แอคเคาท์ ที่สามารถทำลักษณะเช่นนี้ได้ ถือว่าเป็นการต่อสู้กันในโลกโซเชียล ซึ่งถนนแห่งความเป็นจริง รัฐบาล กำลังแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ดี และทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือ หากเราทุกคนสามัคคีกันเราจะผ่านจุดเปราะบางตรงนี้ไปให้ได้ก็จะเป็นเรื่องดี
ทั้งนี้ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนได้มีโอกาสอ่านหนังสือ”ปฏิบัติการลับในสมรภูมิรบบันทึกประวัติศาสตร์การทหาร” ที่เขียนโดย ดร.ทิพภานิดา ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา บุตรสาวของ พล.ต.จักรชัย ศุภางคเสน ได้เขียนถึง เรื่องราวของบิดาเคยอยู่ในปี 2475 ว่า ความรักความสามัคคีเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุดในชาติไทย ถึงแม้จำเป็นที่จะต้องทำ แต่ความสามัคคีกันเพื่อให้ผ่านอุปสรรคไปได้ ขณะที่รัฐบาลและกองทัพบก ก็มีเรื่องที่ท้าทาย ที่จะต้องดำเนินการในอนาคต เนื่องจากขณะนี้เรากำลังประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และไทยก็เป็นต้นแบบและตัวอย่างของหลายประเทศ อยากให้มีความสามัคคีและผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้
เมื่อถามว่ามีความพยายามปลุกเหตุการณ์ 2475 ขึ้นมาอีกครั้ง พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายดำเนินการ
เมื่อถามอีกว่า จะมีการซ้ำรอยเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 หรือไม่เพราะนักการเมืองความเป็นห่วง พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า คงไม่หรอก
ส่วนกรณีที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักเคลื่อนไหวการเมือง ฉีกรูป ผบ.ทบ.นั้น พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวติดตลกว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้แบทแมนรีเทินไปจัดการ เพราะเพนกวินแพ้แบทแมน (จากภาพยนต์แบทแมน ตอน ศึกมนุษย์เพนกวินกับนางแมวป่า)
เมื่อถามว่า นายสาธิต เซกัล ประธานหอการค้าไทย-อินเดีย เดินทางเข้ามาพบ พล.อ.อภิรัชต์ แต่ว่าก็ให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการกองทัพบกเป็นผู้ดำเนินการ ตนติดภารกิจ