เพนกวิน คุยเขื่องเป็นผู้จุดกระแสวิจารณ์ ก้าวล่วงสถาบันฯ ลั่นไม่มีใครปิดปากได้ ล่าสุดโดนฟ้องม.112

ถือเป็นแกนหลักไปแล้ว  สำหรับ  นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน   แกนนำสหภาพ นักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.)     ทั้งการเคลื่่อนไหวผลักดันให้เกิดเวทีการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์    จนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก   ถึงการประกาศ 10  ข้อเรียกร้อง  ที่มีลักษณะก้าวล่วงพระราชอำนาจสถาบันพระมหากษัตริย์   จนมาถึงการตอบโต้บรรดาผู้เห็นต่าง ๆ ที่ออกมาเตือนเรื่องพฤติกรรมการจาบจ้วง ล่วงละเมิด เบื้องสูง

 

( คลิกอ่านข่าวประกอบ :  เพนกวิน ไม่ไว้หน้า สวนปากสุดารัตน์ เตือนม็อบอย่าก้าวล่วง เหน็บสุดแรงผู้บริหารมธ. )

ล่าสุด  นายพริษฐ์  หรือ เพนกวิน   ซึ่งอดีตเคยเข้าร่วมกับพรรคอนาคตใหม่  ในช่วงเริ่มต้นก่อตั้ง  ในฐานะผู้สนับสนุน    ยังคงเดินหน้าลากดึงสถาบันเบื้องสูง   มาโยงความขัดแย้งทางการเมือง  ว่าด้วยการต่อสู้กับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  โดยเฉพาะกับข้อความโพสต์  หลังจากออกมาประโคมข่าวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุกคาม  บางช่วงตอน  ว่า   ตอนนี้พวกผมยังปลอดภัยนะครับ ขอขอบคุณทุก ๆ คนที่เป็นหูเป็นตาให้ในระหว่างค่ำคืนอันตรายที่ผ่านมา

 

 

เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้เพราะหมายจับเราก็ยังคงมี เราโดนคุกคามเช่นนี้มาสองคืนแล้ว และเราไม่รู้เลยว่าคืนนี้เจ้าหน้าที่จะมาก่อกวนเราถึงที่พักเหมือนในสองคืนที่ผ่านมาหรือเปล่า แต่วัตถุประสงค์ในการคุกคามครั้งนี้ชัดเจน คือไม่ต้องการให้เราพูดในสิ่งที่เป็นรากเหง้าของปัญหาการเมืองไทย ก็คือประเด็นของสถาบันกษัตริย์

 

 

เราไม่ยอมหยุดพูดหรอกครับ และอย่ามาดหมายว่าจะมีวิธีการใดปิดปากประชาชนให้หยุดพูด เราทำให้เรื่องสถาบันกลายเป็นเรื่องบนดินไปแล้วหลังจากที่ผู้คนได้แต่นินทาเงียบ ๆ มานาน ดังนั้น ต่อให้คุณพรากเสียงของเรา คนอื่นก็จะยังพูดต่อไป

"มีรายงานข่าวแจ้งมาหาผมแทบทั้งวันว่ามีการเตรียมจับพวกเรา  และข่าวก็ดูจะมีมูลเพราะตั้งแต่เมื่อวานถึงวันนี้  มีคนสังเกตเห็นตำรวจนอกเครื่องแบบเต็มไปหมด รวมถึงมีมาเฝ้าถึงหน้าหอพักตั้งแต่เมื่อคืนด้วย โดยมูลเหตุของการจับนั้น มีผู้สันทัดกรณีให้ความเห็นว่า “เขา” โกรธจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 มากจนสั่งให้ลูกน้องต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสั่งสอนเ รา  ผมไม่ทราบว่าจะมีใครนำโพสต์นี้ให้เขาอ่านหรือไม่ แต่สิ่งที่เราทำเมื่อวันก่อนคือการสะกิดตักเตือนให้คุณเห็นถึงปัญหาที่รู้กันทั้งสังคมแต่ถูกซุกไว้ใต้พรมมานาน  เราพูดเพื่อให้เขาสามารถปรับตัวให้อยู่กับสถาบันประชาชนได้ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยสากล...."

 

ขณะที่ก่อนหน้านั้น  นายพริษฐ  หรือ เพนกวิน   ได้ปลุกเร้าเครือข่ายให้กระจายแนวคิด การแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์  ทั้ง 10 ข้อ   ว่า  "ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่แน่นอน แต่ถ้าโดนจับหรือทำอะไรกันมาจริง ๆ ไม่ต้องตามเซฟผมหรือรุ้งที่สถานีตำรวจหรือที่ศาล  แต่ขอให้ช่วยกันยืนยันข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์  10  ข้อ  อาทิ    ยกเลิกมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ ที่ว่าผู้ใดจะกล่าวฟ้องร้องกษัตริย์มิได้ และเพิ่มบทบัญญัติให้สภาผู้แทนราษฎรสามารถพิจารณาความผิดของกษัตริย์ได้ เช่นเดียวกับที่เคยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับคณะราษฎร   การยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมถึงเปิดให้ประชาชนได้ใช้เสรีภาพแสดงความคิดเห็นต่อสถาบันกษัตริย์ได้ และนิรโทษกรรมผู้ถูกดำเนินคดีเพราะวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ทุกคน

 

 

ทางด้าน  นายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ   แกนนำคณะก้าวหน้ า และ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  เ ลือกโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์   ว่า   การจับกุมนักศึกษาเป็นสิ่งที่ผิดอย่างร้ายแรง และไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา สิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้คือการรับรองสิทธิของพวกเขา ฟังสิ่งที่เขาต้องการพูดอย่างมีวุฒิภาวะ ตรงไปตรงมา   "ร่วมกันปกป้องคุณรุ้งและคุณเพนกวิน การแสดงออกของประชาชน ไม่ใช่อาชญากรรม แต่คือการทำหน้าที่พลเมือง"

 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ :   ช่อ พรรณิการ์ ประสานเสียง พิธา ก้าวไกล หนุนเต็มสูบ 10 ข้อม็อบมธ.เรียกร้องพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่อาชญากรรม ไม่ใช่การล้มล้าง )

 

อย่างไรก็ตาม  "กลุ่มประชาชนไทยผู้รักชาติศาสน์กษัตริย์"   ได้มีการออกแถลงการณ์  ฉบับที่ 1  เช่นกัน โดยระบุว่า  ตามที่มีการชุมนุมของนักศึกษากลุ่ม “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต  เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา มีการปราศรัย และใช้สื่อมัลติมีเดียต่างๆ จัดแสดงประกอบการปราศรัยบนเวที 

 

ตลอดจนนำเสนอแถลงการณ์ข้อเรียกร้อง 10 ประการ ซึ่งมีเนื้อหาล้วนแล้วแต่ล้อเลียน จาบจ้วง บิดเบือน และหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรง ประชาชนไทยผู้รักชาติศาสน์กษัตริย์ที่ได้รับทราบและเห็นภาพการกระทำที่บังอาจเหิมเกริมของคนกลุ่มผู้ชุมนุมนี้แล้ว มีความรู้สึกห่วงใยและกังวลใจอย่างยิ่ง ที่เยาวชนของชาติกลุ่มนี้มีทัศนคติและการแสดงออกที่จาบจ้วงบังอาจเช่นนี ้ และปรากฎต่อมาภายหลังว่ามีกลุ่มอาจารย์และอดีตคณาจารย์มหาวิทยาลัยจำนวน 120 คน ออกแถลงการณ์สนับสนุนการกระทำของนักศึกษาเหล่านี้ โดยอ้างว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายแล้ว

 

พวกเราประชาชนไทยผู้รักชาติศาสน์กษัตริย์ ดังรายนามข้างท้ายนี้ มีความเห็นว่า การกระทำจาบจ้วงล่วงละเมิดที่ปรากฏและข้อเรียกร้อง 10 ทั้งประการของกลุ่ม “ ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” และกลุ่มอาจารย์ที่ลงนามสนับสนุนนั้น นับว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพแสดงออกอย่างไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และผิดกฎหมายอย่างชัดแจ้ง เพราะเป็นการแสดงออกที่บิดเบือน ใส่ร้าย ละเมิด จาบจ้างสถาบันกษัตริย์อย่างรุนแรง จนถึงขั้นเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจและความไม่สบายใจอย่างรุนแรงเป็นวงกว้างในหมู่ประชาชนไทย 

 

พวกเราจึงขอใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกว่า ทนไม่ได้อีกต่อไปกับการกระทำของนักศึกษาและอาจารย์เหล่านี้ ตลอดจนผู้ที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง จึงขอคัดค้านการกระทำและข้อเรียกร้องทั้ง10 ประการดังกล่าวของคนกลุ่มนี้   และขอเรียกร้องให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการต่อกับผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาดและรวดเร็วภายใต้ตัวบทกฎหมายด้วยความเคร่งครัด ทั้งนี้ เพื่อธำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และเพื่อระงับความแตกแยกที่จะเกิดขึ้นในสังคมไทยตามที่กลุ่มคนเบื้องหลังทุกกลุ่มร่วมกันวางแผนให้เป็นเช่นนั้น
 

ทางด้าน  นายพริษฐ์  หรือ เพนกวิน  โพสต์ข้อความว่า   "ผมโดนแจ้งความข้อหามาตรา 112 แล้วครับ"