- 13 ส.ค. 2563
เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบ แอดมินเพจ ""พิษณุโลกคนกล้า ไม่ก้มหน้าให้เผด็จการ" สร้างข่าวปลอม แกนนำม็อบโดนจับ
ท่ามกลางบรรยากาศการปลุกระดมทางการเมือง สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็คือ การปล่อยข่าวของแกนนำเคลื่อนไหว ว่าถูกเจ้าหน้าที่รัฐคุกตาม เพื่อให้เกิดกระแสโจมตีภาครัฐ ผ่านโลกโซเชียล
ล่าสุด พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบช.ภ.6 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นฤชา สุวรรณลาภา รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก , พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ได้แถลงผลการจับกุม นายเวหา หรือ อาร์ท แสนชนชนะศึก อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 20 หมู่ 3 ต.บ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ในฐานะแอดมินเพจเฟซบุ๊ก “พิษณุโลกคนกล้า ไม่ก้มหน้าให้เผด็จการ” ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 183/2563 ลงวันที่ 13 ส.ค.2563 ฐานกระทำความผิดอาญา "นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศหรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน"
ทั้งนี้ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 9 ส.ค.2563 เพจเฟซบุ๊ก "พิษณุโลกคนกล้า ไม่ก้มหน้าให้เผด็จการ" ได้โพสต์ข้อความเพื่อปลุกระดมผู้ชุมนุม ว่า มีแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐ ควบคุมตัวจากบริเวณลานจอดรถวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ไปคุมขังภายในกองร้อย 31 ตชด. พิษณุโลก โดยวัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้มีการชุมนุมทางการเมือง ในวันที่ 9 ส.ค.2563
"แอดมินเพจดังกล่าว มีการโพสต์ข้อความกล่าวหา ว่า มีการนำตัวแกนนำจัดการชุมนุมไปควบคุมไว้ในค่าย ตชด.เจ้าพระยาจักรี (กก.ตชด.31) ก่อนที่จะมีการแชร์ข้อความไปในหมู่ประชาชนจำนวนมาก แต่ต่อมาผลการตรวจสอบ ปรากฏว่า ไม่ได้มีเหตุการณ์ตามที่โพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก "พิษณุโลกคนกล้าไม่ก้มหน้าให้เผด็จการ" แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จนทราบตัวผู้กระทำผิดและศาลได้อนุมัติหมายจับ นายเวหา หรือ อาร์ท แสนชนชนะศึก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามจับกุมตัวนายเวหาเพื่อดำเนินคดี"
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้น นายเวหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิด พบว่า นายเวหา เคยถูกดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และฉ้อโกงประชาชน (กรณีเนินมะปรางมาราธอน) ท้องที่ สภ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เป็นคคีอาญาที่ 149/2560 และศาลจังหวัดพิษณุโลก พิพากษา จำคุก 2 ปี ปรับ 25,000 บาท โทษจำรอลงอาญา 2 ปี ลงคำพิพากษาวันที่ 3 ก.ค.2561
อย่างไรก็ตามนายเวหา ขอใช้สิทธิ์ไม่แสดงตนในการแถลงข่าวครั้งนี้ ตำรวจชุดจับกุมจึงควบคุมตัวนำส่ง พ.ต.ท.เอกชัย พรมทอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป