สุวินัยถอดคู่มือ CIA ปอกเปลือกม็อบร่าน จาบจ้วงเบื้องสูง มั่นใจธนาธรทิ้งชุมนุมปลดแอก

เกาะติดสถานการณ์อย่างต่อเนื่องจากกรณีกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ใช้เวทีการชุมนุมทางการเมือง  ยื่นข้อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ และ เปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหาษัตริย์ในหลายประเด็น   จนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์และเคลื่อนไหวตอบโต้กลับจากหลายฝ่าย  กระทั่งเกิดความหวั่นเกรงจะนำไปสู่การปะทะของคนไทยกันเองรอบใหม่  โดยมีนักการเมืองบางกลุ่มที่เคยแสดงออก ถึงทัศนติเพื่อนำไปสู่เปลี่ยนแปลงการปกครอง  ออกมาสนับสนุนการกระทำในครั้งนี้

ในหนังสือคู่มือการปฏิวัติของซีไอเอที่มีจุดประสงค์เพื่อบ่อนทำลายรากฐานของประเทศที่เป็นเป้าหมายปฏิบัติการ ... ได้สอนวิธีก่อการปฏิวัติเพื่อรื้อทำลายระดับฐานราก (fundamental collapse) ว่า #ผู้ที่ชักใยบงการอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติปลดแอกลุกฮือจะต้องทำงาน 4 ส่วนอย่างเป็นระบบ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน และอย่างอดทนยาวนานกว่าเงื่อนไขการลุกฮือของประชาชนในประเทศเป้าหมายจะสุกงอมดังต่อไปนี้

ส่วนที่ (1) ต้องหยิบยกหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งขึ้นมาเป็นใจกลางในการจัดตั้งขบวนการปฏิวัติของพวกตน
คือต้องสถาปนาสัจธรรมระดับหัวใจ (central truth) ของความคิดปฏิวัติลุกฮือของพวกตนให้ได้ก่อน ยกตัวอย่างเช่นถ้าเป็นโมเดลฮ่องกง ก็จะชูประเด็นขอเป็นอิสระจากจีนแผ่นดินใหญ่

แต่ถ้าเป็นโมเดลไทย ก็จะ #ชูประเด็นการสานต่อการปฏิวัติ2475 โค่นล้มสถาบันกษัตริย์เป็นแก่นความคิดของพวกตน พอหาแกนกลางความคิดที่จะใช้จัดตั้งขบวนการปฏิวัติปลดแอกเพื่อลุกฮือได้แล้ว ก็จะสร้างชุดความคิดหรือชุดวาทกรรมขึ้นมา เพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่พวกตนเองว่าทำไมพวกตนถึงต้องการการปฏิวัติปลดแอก จากนั้นก็ต้องประดิษฐ์คำพูดที่ชูขึ้นมาแล้ว "โดนใจชาวบ้านหรือเยาวชน" ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในการจัดตั้ง เพื่อให้เกิดความรู้สึกร่วมและคล้อยตาม มีท่อน้ำเลี้ยงสนับสนุนการเคลื่อนไหวปฏิบัติปลดแอกของพวกตน

หาแนวร่วมหรือพันธมิตรมาร่วมเคลื่อนไหวปฏิวัติปลดแอกกับพวกตน ... โดยเฉพาะพวกสื่อ นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย นักเคลื่อนไหว นักการเมือง รวมทั้งคนดังในวงการต่างๆ โดยเฉพาะวงการบันเทิง

ส่วนที่ (2) ต้องดึง "คนที่ใช่" เข้ามาร่วมในขบวนการปฏิวัติปลดแอก หลักๆ คือต้องผลักดันหนุนหลังคนที่มีศักยภาพเป็นผู้นำมาเป็นสัญลักษณ์ของขบวนการปฏิวัติปลดแอก สร้างเครือข่ายสื่อของตนเองเพื่อสามารถปลุกระดมมวลชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถระดมมวลชนฝ่ายตนมาลงถนน สร้างม็อบได้ทุกเมื่อ

ส่วนที่ (3) ใช้พลังของดนตรีและสื่อใหม่โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียเพื่อครอบงำจิตใจของชาวบ้านและเยาวชนให้จงได้
ส่วนที่ (4) ต้องวางแผนล่วงหน้าเป็นปีๆ เตรียมคนไว้ล่วงหน้าเป็นปีๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดหน้าชก

คู่มือการปฏิวัติปลดแอกลุกฮือข้างต้นนี้ สะท้อนแนวคิดเชิงยุทธศาสตร์ "ล่อฝูงผึ้งให้ไปในทิศทางที่ผู้ชักใยบงการอยู่เบื้องหลังต้องการ" กล่าวคือมันต้องใช้ทั้งเวลา เงิน กำลังคน และเครือข่ายในการสร้างขบวนการชี้นำทางความคิดขึ้นมาก่อนให้เป็น "หัวเชื้อการปฏิวัติปลดแอก" จากนั้นจึงค่อยใช้สื่อฝ่ายตนช่วยกันโหม ประโคม ปลุกระดม ... เพื่อให้เกิดความไม่สงบตามมา ลองไปทบทวนก็แล้วกันว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ เป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่

แต่เดชะบุญที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงในบ้านเมืองนี้ จึงทำให้พวกอัตวิสัยนิยมไร้เดียงสา เข้ามายึดการนำม็อบปลดแอกเสียก่อน จึงเกิดการโป๊ะแตก ทั้งๆที่เงื่อนไขปฏิวัติลุกฮือยังไม่สุกงอมเลย" 

โดยก่อนหน้านั้น ดร.สุวินัย ภรณวลัย ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยระบุว่า "วันนี้สมศักดิ์เจียมได้เขียนจดหมายเปิดผนึกยื่นคำขาดต่อธนาธร โดยขีดเส้นตายถึงวันพรุ่งนี้ เพื่อบีบให้ธนาธรเข้าร่วมม็อบประชาชนปลดแอกในวันพรุ่งนี้ ซึ่งผมขอฟันธงว่าธนาธรจะทิ้งม็อบประชาชนปลดแอกวันพรุ่งนี้เพื่อเอาตัวรอด" พร้อมทั้งแนบรูปภาพข้อความ

อ่านโพสต์ต้นฉบับ