ศิษย์เก่าราชินี ท้วงรร.ยื่นโนติสเด็กก่อวุ่นการเมืองเชิญลาออก อ้างยังไม่เห็นหมิ่นสถาบันฯ

สืบเนื่องจากกรณีที่ โรงเรียนราชินี ได้ออกหนังสือประกาศจากที่โรงเรียนถึงผู้ปกครอง โดยมีหัวข้อถึงการเรียกร้องทางการเมืองของนักเรียน โดยอ้างถึงประชาธิปไตย ซึ่งในหนังสือระบุใจความว่า ขณะนี้มีการเรียกร้องทางการเมือง โดยอ้างประชาธิปไตยโดยนักเรียน นิสิต นักศึกษา ซึ่งมีนักเรียนของโรงเรียนราชินีเข้าร่วมการชุมนุมด้วย ทางโรงเรียนจึงได้ออกประกาศชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

อันเนื่องจากประเด็นทางการเมือง จากกรณีที่นักเรียนหลายๆ โรงเรียนร่วมใจกันผูกโบว์ขาวและชู 3 นิ้ว โดยอ้างว่าเป็นการแสดงจุดยืนในการขับไล่รัฐบาล ซึ่งสอดคล้องกับข้อแนวคิดการเคลื่อนไหวระหว่างข้อเรียกร้อง 1.หยุดคุกคามประชาชน 2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ 3.ยุบสภา  โดยจะต้องไม่มีการรัฐประหารและการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ส่วนประเด็นที่เกี่ยวโยงกับสถาบันพระมหากษัตริย์    กลุ่มคณะประชาชนปลดแอก - Free People ใช้คำว่า  ความฝัน : การมีระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ

อ่านข่าว - เปิดคำประกาศ รร.ราชินี ทำไมต้องป้องเกียรติภูมิ เบื้องหลังมีมากกว่า ห้ามนร.ยุ่งม็อบการเมือง
 

ล่าสุด ที่บริเวณโรงเรียนราชินี ตัวแทนศิษย์เก่าโรงเรียนราชินีจำนวนหนึ่งรวมตัวกันบริเวณด้านหน้าโรงเรียนราชินี  เพื่อนำจดหมายเปิดผนึก เรื่องความกังวลต่อประกาศโรงเรียนราชินี ภายหลังโรงเรียนราชินีมีประกาศเรื่อง "การเรียกร้องทางการเมืองโดยอ้างประชาธิปไตย" ออกจดหมาย เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการรวบรวมรายชื่อศิษย์เก่ากว่า 900 คน ที่ไม่เห็นด้วยกับประกาศดังกล่าว โดยต่อมาทั้งหมดได้เดินทางเข้าไปด้านในของโรงเรียนเพื่อยื่นหนังสือกับผู้บริหาร

สำหรับรายละเอียดในหนังสือ กลุ่มศิษย์เก่าระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับ วัตถุประสงค์ของโรงเรียนในประเด็นดังนี้ คือ 1. ตามที่ปรากฏในจดหมายว่า “..พื้นที่โรงเรียน ไม่เคยใช้ในทางการเมือง และไม่อนุญาตให้กลุ่มบุคคลหรือคณะบุคคลใด มาใช้พื้นที่ โดยผ่านนักเรียน หรือนักเรียนก่า..." ขัดกับข้อเท็จจริงว่า เพราะในอดีตที่ผ่านมา ก็มีบุคคลแอบอ้างนำชื่อของโรงเรียนไปใช้ทางการเมืองตลอด โดยที่โรงเรียนไม่ได้โต้แย้ง ดังนั้น หากโรงเรียนต้องการแสดงออกถึงความเสมอภาคในกลุ่มศิษย์เก่าและนักเรียนปัจจุบันอย่างแท้จริงต้องเปิดโอกาสให้นักเรียนศิษย์ปัจจุบันมีพื้นที่แสดงความคิดเห็นมาตราฐานเดียวกัน

2. ตามหลักสิทธิขั้นพื้นฐานและประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศให้สถานศึกษาคำนึงถึงความปลอดภัยของการแสดงออกนักเรียน โดยปราศจากการคุกคามทุกรูปแบบ

3. สถานศึกษาต้องคุ้มครองนักเรียนในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองแต่ทางโรงเรียนกลับกล่าวหานักเรียนว่า "..ก้าวล่วงสถาบันหลักของประเทศ..." ทั้งที่นักเรียนไม่ได้กระทำการใดอันอาจกล่าวได้ว่าเป็นการก้าวล่วงซึ่งเป็นข้อกล่าวหาอันร้ายแรง ดังนั้นโรงเรียนจึงควรตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนดำเนินการใด ๆที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้

และ 4. ตามที่ประกาศระบุว่ามีปัญหาการกลั่นแกล้งภายในโรงเรียน หากปรากฏว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ทางโรงเรียนต้องจัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขอนักเรียนศิษย์ปัจจุบันแสดงความคิดเห็นทางการเมืองด้วยสันติวิธี โดยปราศจากการคุกคามหรือกลั่นแกล้งผู้เห็นต่างทางความคิด

โดยหนึ่งในตัวแทนศิษย์เก่าระบุว่า วันนี้ได้นำรายชื่อศิษย์จำนวน 999คน ยื่นถึงผู้บริหารโรงเรียน โดยมีข้อเสนอแนะ พร้อมรายละเอียดหนังสือที่ไม่เห็นด้วยกับวัตถุประสงค์ของโรงเรียน นอกจากนั้นทางกลุ่ม สิทธิ์เก่ายังได้รับฟังข้อชี้แจงของทางโรงเรียน ซึ่งไม่ได้คาดหวังว่าประกาศจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ได้พูดคุยหารือในทุกประเด็นแล้วตามรายละเอียดข้างต้น ยืนยันไม่ได้ขัดแย้งเป็นเพียงการพูดคุยในฐานะศิษย์และครู 

ส่วนรายละเอียดเรื่องการเปิดพื้นที่โรงเรียนให้สามารถแสดงออกความคิดเห็นทางการเมืองและบทลงโทษตามประกาศที่เคย ระบุออกมาว่าหากนักเรียนฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษ หรือหากผู้ปกครองไม่เห็นด้วยสามารถนำบุตรหลานไปเรียนสถาบันอื่น ทางโรงเรียนยืนยันว่าเป็นไปตามประกาศจริงแต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องภายในโรงเรียน พร้อมยืนยันว่ารายชื่อศิษย์เก่าทั้งหมด เป็นเพียงกลุ่มคนเห็นต่าง ไม่มีเจตนาปลุกระดมผู้ชุมนุมสร้างความขัดแย้ง