- 25 ส.ค. 2563
สืบเนื่องจากที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ในวันนี้ (25 ส.ค.) จะมีการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) โดยมี 2 ประเด็นที่จะต้องพูดคุย คือ 1. กรณีที่ ส.ส. พรรคเพื่อไทย เข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติ ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ โดยไม่ได้เป็นการยื่นร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น โดยอ้างว่าจากสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ประชาชนได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล และมีข้อเรียกร้องถึงขั้นที่จะให้ยุบสภาแล้ว
สืบเนื่องจากที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ในวันนี้ (25 ส.ค.) จะมีการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) โดยมี 2 ประเด็นที่จะต้องพูดคุย คือ 1. กรณีที่ ส.ส. พรรคเพื่อไทย เข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติ ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ โดยไม่ได้เป็นการยื่นร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น โดยอ้างว่าจากสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ประชาชนได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล และมีข้อเรียกร้องถึงขั้นที่จะให้ยุบสภาแล้ว
ดังนั้น หาก ส.ส. จะใช้สิทธิในการเปิดอภิปรายทั่วไป ก็ควรเป็นการอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 มากกว่า การที่พรรคเพื่อไทยเลือกที่จะอภิปรายตามมาตรา 152 ในทางปฏิบัติจะกลายเป็นเพียงการหยิบยื่นโอกาสให้รัฐบาลได้หาข้อแก้ตัวให้กับการกระทำของตัวเอง โดยที่สภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถใช้อำนาจที่มีในการลงโทษรัฐบาลได้เลย ดังนั้น จึงต้องหารือกันในวิปวันพรุ่งนี้ว่า เพราะเหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงรีบเข้าชื่อเสนอการอภิปรายทั่วไปขนาดนี้ ไม่ปรึกษาพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ดีก่อนถึงผลดีผลเสีย
และ 2. ทวงถามความชัดเจนในการเข้าชื่อเสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่กำหนดให้ ส.ว. ชุดแรกตามบทเฉพาะกาลมีอำนาจในการร่วมลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคก้าวไกลเป็นผู้ริเริ่มในการจะเสนอญัตติดังกล่าว และเคยมีการหารือในที่ประชุมหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านมาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะต้องเข้าชื่อโดย ส.ส. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวน ส.ส. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร คือ 98 คน แต่พรรคก้าวไกลมี ส.ส. เพียง 54 คน จึงต้องอาศัยการร่วมเข้าชื่อจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย จึงจะสามารถเสนอญัตติดังกล่าวเข้าสู่รัฐสภาได้
นั่นทำให้ นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ถึงกับทนไม่ไหว ถึงกับต้องโพสต์ข้อความแสดงความไม่พอใจ ท่าทีของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล หลังโรมเปิดเผยว่า วิปฝ่ายค้านจะมีการประชุมหารือ กรณีพรรคเพื่อไทยชื่อเสนอการอภิปรายทั่วไปไม่ปรึกษาพรรคร่วมฝ่ายค้าน และถามความชัดเจนในการเข้าชื่อเสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2562
โดย วัน ระบุข้อความว่า "อยู่ฝ่ายเดียวกันแท้ๆอย่าเหิมเกริมอวดดีถือเด่นว่าข้าแน่ให้มันมากเกินไป...เจ้ายังเด็กเล็กนัก
ประสบการณ์ต้องใช้อายุและความเจ็บปวดแลกมา!!!!!"
และข้อความ "พรรคการเมืองบางพรรคจะทำอะไรหัดเห็นหัวผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนบ้างอย่าปั่นสร้างกระแสไปวันๆผลงานก็ยังไม่เคยมีได้แต่ขายฝันไปวันๆ"
ตามมาด้วยข้อความ "ก่อนจะก้าวไปได้ให้ไกลก้าวใกล้ๆให้ผ่านก่อนนะ...กลัวหกล้ม." นอกจากนี้ยังมีคนเข้าไปคอมเม้นต์ในโพสต์ดังกล่าว แต่ทว่า วัน อยู่บำรุงกลับตอบกลับด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างหยาบคาบ ที่เป้นความหมายของคำว่าอย่าจุ้นจ้าน
เรียกได้ว่าจะเป็นมวยอีกคู่ของสภาฯเลยก็ว่าได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กับ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้มีปากเสียงกันมาแล้ว จนทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักไปก่อนหน้านั้น
อ่านข่าว - สิระ เผชิญหน้า เต้ มงคลกิตติ์ ตะโกนเรียกตร.จับอันธพาล หวิดวางมวยกลางสภาฯ