กระทรวงต่างประเทศ ออกโรงโต้ 3 ประเด็น ตีปากแอมเนสตี้ ชักชวนผู้คนทั่วโลก แทรกแซงกม.ไทย

สืบเนื่องจากที่ประเทศไทยมีม็อบเพื่อชุมนุมอยู่แทบทุกอาทิตย์ ซึ่งยิ่งทำให้วิถีทางการเมืองยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ และเกี่ยวกับกรณีนี้ ล่าสุด ได้มีการชี้แจงกรณี Amnesty International เรียกร้องรัฐบาลไทยยกเลิกข้อกล่าวหาผู้ชุมนุมอันเป็นการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

สืบเนื่องจากที่ประเทศไทยมีม็อบเพื่อชุมนุมอยู่แทบทุกอาทิตย์ ซึ่งยิ่งทำให้วิถีทางการเมืองยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ และเกี่ยวกับกรณีนี้ ล่าสุด ได้มีการชี้แจงกรณี Amnesty International เรียกร้องรัฐบาลไทยยกเลิกข้อกล่าวหาผู้ชุมนุมอันเป็นการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

ตามที่ Amnesty International (AI) หรือองค์การนิรโทษกรรมสากล สำนักงานใหญ่ กรุงลอนดอน เชิญชวนสมาชิก นักกิจกรรม และผู้สนับสนุนกว่า 8 ล้านคนทั่วโลก ส่งจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกร้องทางการไทยยกเลิกการตั้งข้อกล่าวหาต่อแกนนำ 31 คน และขอให้ยุติการขัดขวางการร่วมชุมนุมของประชาชน ที่เป็นการปิดกั้นการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล รวมทั้งขอให้ยกเลิกกฎหมายที่มีเนื้อหากำกวม หรือคลุมเครือ เพื่อเป็นการเคารพ คุ้มครอง สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ ซึ่งการรณรงค์นี้จะมีไปถึงวันที่ 21 ตุลาคม 2563

 กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงดังนี้

1. รัฐบาลมิได้ปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกรวมทั้งการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและอนุญาตให้มีการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษาและประชาชนหลายครั้งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาโดยคำนึงถึงความสำคัญของสิทธิในเสรีภาพแห่งการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของสังคมประชาธิปไตย อย่างไรก็ดี การใช้สิทธิและเสรีภาพดังกล่าวต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายและต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่นด้วย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับบทบัญญัติของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights: ICCPR) ที่ไทยเป็นภาคี

 

กระทรวงต่างประเทศ ออกโรงโต้ 3 ประเด็น ตีปากแอมเนสตี้ ชักชวนผู้คนทั่วโลก แทรกแซงกม.ไทย

2. รัฐบาลสนับสนุนการใช้เสรีภาพในการแสดงออกที่สร้างสรรค์ ไม่ก้าวร้าวหรือมีลักษณะดูหมิ่นเหยียดหยามผู้อื่น หรือใช้คำพูดที่สร้างความเกลียดชังอันเป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่น รวมทั้งสนับสนุนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ โดยเคารพมุมมองของผู้ที่เห็นต่าง

3. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดูแลการชุมนุมให้เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย โดยใช้ความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ทั้งนี้ เพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมชุมนุมและประชาชนที่สัญจรในบริเวณโดยรอบที่ชุมนุม สำหรับกรณีการดำเนินคดีผู้ชุมนุมบางรายนั้น เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายและพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาที่ละเมิดกฎหมาย โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด และผู้ถูกกล่าวหาสามารถต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของผู้ชุมนุมที่ถูกดำเนินคดีจะได้รับการเคารพอย่างเต็มที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยสอดคล้องกับมาตรฐานสากลและพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ ที่ประเทศไทยเป็นภาคี

 

กระทรวงต่างประเทศ ออกโรงโต้ 3 ประเด็น ตีปากแอมเนสตี้ ชักชวนผู้คนทั่วโลก แทรกแซงกม.ไทย

 

ก่อนหน้านั้น ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ  หรือ "ดร.นิว" นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย  MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา  ได้โพสต์แสดงความเห็นต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของ 2 องค์กรดังกล่าวว่า   #ความจอมปลอมของ"ฮิวแมนไรท์วอทช์กับแอมเนสตี้

 

กระทรวงต่างประเทศ ออกโรงโต้ 3 ประเด็น ตีปากแอมเนสตี้ ชักชวนผู้คนทั่วโลก แทรกแซงกม.ไทย

อ่านข่าว - ดร.นิว ซัดไม่ยั้่ง "ฮิวแมนไรท์วอทช์-แอมเนสตี้" ฉากหลังเป็นพวก สิทธิมนุษยชนจอมปลอม