- 08 ก.ย. 2563
สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวสะพัดหนาหูว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ โกงวุฒิการศึกษาจบปริญญาตรีและ ปริญญาเอก จนเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมาก ซึ่งล่าสุด นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันไม่กังวลและมีความพร้อมที่สภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องวิกฤติทางเศรษฐกิจและทางการเมืองโดยไม่มีการลงมติ ตามที่ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นต่อประธานสภาฯ ว่า ไม่ต้องเตรียมตัว เพราะมีความรู้ในการทำงานมาเกือบ 2 ปีในรัฐบาลชุดนี้
สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวสะพัดหนาหูว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ โกงวุฒิการศึกษาจบปริญญาตรีและ ปริญญาเอก จนเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมาก ซึ่งล่าสุด นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันไม่กังวลและมีความพร้อมที่สภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องวิกฤติทางเศรษฐกิจและทางการเมืองโดยไม่มีการลงมติ ตามที่ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นต่อประธานสภาฯ ว่า ไม่ต้องเตรียมตัว เพราะมีความรู้ในการทำงานมาเกือบ 2 ปีในรัฐบาลชุดนี้
ส่วนกรณีที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตเรื่องวุฒิการศึกษาของนายสันติ อาจมีผลต่อคุณสมบัติรัฐมนตรี นายสันติ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทั้งตอนที่เรียนปริญญาตรี ปริญญาโท และขณะนี้ตนได้เรียนจบปริญญาเอก เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สาขารถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้ และกำลังรอรับพระราชทานปริญญาบัตร
ทั้งนี้ นายสันติ ยังกล่าวถึงความจำเป็นในการซื้อเรือดำน้ำ ว่า มีหลายฝ่ายพูดทั้งความจริงและไม่จริง รวมถึงเรื่องของเรือดำน้ำด้วย โดยไทยมีสองฝั่งทะเล ซึ่งมองว่าควรจะมีเรือดำน้ำ 3 ลำ เพื่อปกป้องและเฝ้าระวังทรัพยากรธรรมชาติ เรือประมง เรือสินค้า โดยถือว่าคุ้มค่า ย้ำว่าปราศจากการคอร์รัปชั่น เพราะว่าทางจีนตั้งใจผลิตให้ประเทศไทยเป็นพิเศษ โดยได้มีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถอำพรางการมองเห็นจากฝ่ายที่ไม่หวังดี
ก่อนหน้านั้น รศ.ต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "นายสันติ พร้อมพัฒน์ ตัวเต็ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คนต่อไป เคยถูกไล่ออกจาก ม. รามคำแหง จริงหรือไม่ ? อ่านคำอธิบาย ของอธิการบดี รามคำแหง เมื่อ ปี 2551
รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้สัมภาษณ์ ถึงการอภิปรายของพ.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม ทุจริตการสอบ จนมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีคำสั่งลบชื่อนายสันติ ออกจากการเป็นนักศึกษา ว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีคำสั่งลบชื่อ นายสันติ พร้อมพัฒน์ จริง ในข้อหาทุจริตการสอบและปลอมแปลงเอกสารทางราชการ โดยเกิดขึ้นเมื่อปี 2542 เจ้าหน้าที่ได้จับนายสมยศ มีสวัสดิ์ ซึ่งให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่าตัวเองชื่อ "ศานติ พรหมภัทร"
แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า นายสมยศมานั่งสอบในที่ของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ มหาวิทยาลัย จึงได้สั่งลบชื่อนายสันติ เอาไว้ และได้เรียกให้นายสันติ มาชี้แจงเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
รศ.คิม กล่าวว่า: แต่นายสันติ ไม่ได้มาชี้แจงจึงถือว่าหมดสถานภาพการเป็นนักศึกษา จนกระทั่งต่อมามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ออกออกระเบียบว่าด้วยการล้างมลทิน ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542 เนื่องในมหามงคลพระชนมพรรษาครบ 6 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งระเบียบนี้ทำให้นักศึกษาที่เคยถูกลงโทษทางวินัยทุกคน ถือว่าพ้นจากความผิด เสมือนไม่เคยทำความผิดมาก่อน
นอกจากนี้ ยังมีกรณีข่าวร้องเรียนให้สอบสวนเรื่องวุฒิของนายสันติอีกข่าวหนึ่งโดย นายไทกร พลสุวรรณ หนึ่งในแกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ พร้อมคณะ 20 คน ได้มาร้องเรียน ในช่วงที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ จะเข้าดำรงตำแหน่ง รมว. กระทรวงคมนาคมนั้น ว่าทำไม? นายสันติจึงต้องไปใช้วุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรี ของคณะเทคโนโลยีการเกษตร ของวิทยาลัยบัณฑิตสกลนคร แทนการใช้วุฒิปริญญาตรีของ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เหมือนเดิมตอนรับตำแหน่งในครั้งก่อนหน้านี้
หมายเหตุ :
1.ในช่วงเวลานั้นนายสันติ ยังไม่ได้รับการล้างมนทินความผิดในการทุจริตการสอบ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
2.วิทยาลัยบัณฑิตสกลนคร ปัจจุบันได้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งมหาวิทยาลัย ไปแล้ว
ด้วยมีการขายปริญญาบัตรให้กับผู้ที่จะต้องการสมัครเป็น สส. ตามรัฐธรรมนูญ 2540 เป็นจำนวนหลายคน"