- 11 ก.ย. 2563
สืบเนื่องจากการที่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดพื้นที่สนามฟุตบอลเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ใน 3 ประเด็นหลัก แต่ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่อนุญาต เนื่องจากการดำเนินการที่ผ่านมาไม่ครบองค์ประกอบเงื่อนไขที่กำหนด ทำให้ นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน ถึงขั้นประกาศพร้อมจะนำมวลชนฝ่าประตูรั้วที่ถูกปิดกั้นเข้าไปภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยตัวเอง
สืบเนื่องจากการที่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดพื้นที่สนามฟุตบอลเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ใน 3 ประเด็นหลัก แต่ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่อนุญาต เนื่องจากการดำเนินการที่ผ่านมาไม่ครบองค์ประกอบเงื่อนไขที่กำหนด ทำให้ นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน ถึงขั้นประกาศพร้อมจะนำมวลชนฝ่าประตูรั้วที่ถูกปิดกั้นเข้าไปภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยตัวเอง
( คลิกอ่านข่าวประกอบ : เพนกวิน พร้อมพังรั้วบุกธรรมศาสตร์ หนังสือขอจัดม็อบ ชัดเจนพุ่งเป้ากดดันสถาบันฯ )
ล่าสุด รศ.อนุสรณ์ อุณโณ อดีตคณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งระบุสถานะในหนังสือขออนุญาตใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดการชุมนุมทางการเมือง ในวันที่ 19 ก.ย. 2563 ว่า เป็นอาจารย์ที่ปรึกษากลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ ลงนามรับรองให้กับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความเห็นต่อสถานการณ์ดังกล่าว โดยระบุ "ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษา ผมไม่เห็นด้วยกับการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่อนุญาตให้กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมใช้สถานที่จัดชุมนุมวันที่ 19 ก.ย. นี้ โดยอ้างว่าการขออนุญาต ยังไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศเรื่องแนวทางอนุญาตจัดชุมนุมทางการเมืองของนักศึกษาในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย
1.ข่าวประชาสัมพันธ์ให้เหตุผลแต่เพียงกว้างๆ ไม่ได้ระบุอย่างจำเพาะเจาะจงว่าการขออนุญาตไม่ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขข้อใด ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมในขอบเขตของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ การมีอาจารย์ที่ปรึกษารับรอง หรือ การตกลงร่วมกันระหว่างนักศึกษา มหาวิทยาลัย และเจ้าหน้าที่ในแง่เนื้อหาการชุมนุมและมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งที่หนังสือขออนุญาตที่กลุ่มยื่นไประบุชัดว่ารูปแบบและเนื้อหาการชุมนุมเป็นอย่างไร อยู่ในขอบเขตกฎหมายและได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญอย่างไร รวมทั้งมีใครเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา จะขาดแต่เพียงข้อการตกลงร่วมกันสามฝ่าย ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ไม่สามารถดำเนินการได้หากว่ากลุ่มยังไม่ได้รับการอนุญาตให้จัดชุมนุมเสียก่อน
2.มหาวิทยาลัยไม่ได้สอบถามหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากกลุ่มรวมถึงอาจารย์ที่ปรึกษา ก่อนจะมีมติและแจ้งผลผ่านข่าวประชาสัมพันธ์ ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินการที่ค่อนข้างจะรวบรัดตัดความ ไม่ได้วางอยู่บนท่าทีที่จะอำนวยความสะดวกหรือประสานความร่วมมือกัน ทั้งที่พันธกิจของมหาวิทยาลัยคือการสนับสนุนให้นักศึกษา ได้แสดงออกทางความคิดและมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสังคม และโดยทั่วไปการจะมีมติในเรื่องใด หากมีข้อสงสัยหรือมีแนวโน้มจะเป็นไปในทางลบก็จะมีการหารือกับอีกฝ่ายก่อน เว้นเสียแต่ว่าจะมองอีกฝ่ายเป็น "คนอื่น" "คนไกล" หรือมีมติที่จะปฏิเสธอยู่ก่อนแล้ว
3.การปฏิเสธไม่ให้กลุ่มใช้สถานที่จัดชุมนุมในมหาวิทยาลัย ไม่เพียงแต่จะเป็นการผลักไสให้นักศึกษาไปเผชิญความเสี่ยงและอันตรายนอกรั้วมหาวิทยาลัย หากแต่ยังเป็นการสร้างเงื่อนไขให้เกิดการเผชิญหน้าและก่อให้เกิดความรุนแรงตั้งแต่ยังไม่มีการชุมนุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการที่กลุ่มได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะยังคงจัดการชุมนุมตามแผนที่วางไว้แม้จะไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหากประเมินจากจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมครั้งล่าสุดบวกกับกระแสการจะเข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ซึ่งมีจำนวนมาก ก็เป็นไปได้สูงที่จะมีการกระทบกระทั่งและเกิดเหตุการณ์บานปลายหากมีการปิดมหาวิทยาลัยหรือใช้กำลังเจ้าหน้าที่ขัดขวาง
ในตอนท้ายของโพสต์ดังกล่าว ระบุว่า ด้วยความห่วงใยในสิทธิและสวัสดิภาพของนักศึกษารวมถึงประชาชน ตลอดจนการคำนึงถึงเกียรติภูมิของมหาวิทยาลัยและอนาคตของสังคมไทย จึงอยากให้มหาวิทยาลัยได้ทบทวนมตินี้ พร้อมกับเชิญให้ตัวแทนกลุ่มเข้าพบเพื่อแสวงหาทางออกร่วมกัน ซึ่งยังพอมีเวลา หากว่าเราไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยและมาเสียใจในภายหลัง
อย่างไรก็ตามมีข้อพิจารณาว่า รศ.อนุสรณ์ อุณโณ ไม่ได้พูดถึงการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านๆมาของกลุ่มแนวร่วมปลดแอก และการเคลื่อนไหวของ นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน รวมถึง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง , นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง และ นายอานนท์ นำภา ตัวแทนกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่ผ่านมา ว่า เกิดขึ้นตามสถานที่ชุมชนต่าง ๆ มาโดยตลอด จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องนำมากล่าวอ้าง เพื่อโจมตีการตัดสินใของผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการหยุดยั้งไม่ให้สถาบันการศึกษา เปิดพื้นที่ให้มีการจัดปราศรัยทางการเมืองที่มีลักษณะก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายต่อนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัย
ประเด็นสำคัญที่สุด ผศ.ดร. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต เคยออกมาแสดงความรับผิดต่อการอนุญาตให้กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดเวทีการเมืองที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 มาแล้ว เนื่องจากรูปแบบการดำเนินการ และเนื้อหาการปราศรัยมีประเด็นเกินเลยขอบเขต จนเป็นเหตุให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต้องเข้มงวดกับการใช้พื้นที่เพื่อจัดการชุมนุมทางการเมืองกับทุกกลุ่มเคลื่อนไหว
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : ปริญญา โพสต์ขออภัย ปล่อยเวทีม็อบธรรมศาสตร์ ล่วงละเมิด จาบจ้วงเบื้องสูง )