อนุสรณ์ ออกโรงค้านผู้บริหารมธ. เบรค เพนกวิน จัดม็อบคุกคามสถาบันฯ

สืบเนื่องจากการที่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดพื้นที่สนามฟุตบอลเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ใน 3 ประเด็นหลัก แต่ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่อนุญาต เนื่องจากการดำเนินการที่ผ่านมาไม่ครบองค์ประกอบเงื่อนไขที่กำหนด ทำให้ นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน ถึงขั้นประกาศพร้อมจะนำมวลชนฝ่าประตูรั้วที่ถูกปิดกั้นเข้าไปภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยตัวเอง

สืบเนื่องจากการที่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม  เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   เปิดพื้นที่สนามฟุตบอลเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ใน  3  ประเด็นหลัก   แต่ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่อนุญาต  เนื่องจากการดำเนินการที่ผ่านมาไม่ครบองค์ประกอบเงื่อนไขที่กำหนด   ทำให้  นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน   ถึงขั้นประกาศพร้อมจะนำมวลชนฝ่าประตูรั้วที่ถูกปิดกั้นเข้าไปภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยตัวเอง 

 

อนุสรณ์ ออกโรงค้านผู้บริหารมธ. เบรค เพนกวิน จัดม็อบคุกคามสถาบันฯ

(  คลิกอ่านข่าวประกอบ :  เพนกวิน พร้อมพังรั้วบุกธรรมศาสตร์  หนังสือขอจัดม็อบ  ชัดเจนพุ่งเป้ากดดันสถาบันฯ )

ล่าสุด  รศ.อนุสรณ์ อุณโณ   อดีตคณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   ซึ่งระบุสถานะในหนังสือขออนุญาตใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดการชุมนุมทางการเมือง ในวันที่ 19 ก.ย. 2563   ว่า   เป็นอาจารย์ที่ปรึกษากลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ ลงนามรับรองให้กับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม  ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความเห็นต่อสถานการณ์ดังกล่าว  โดยระบุ  "ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษา ผมไม่เห็นด้วยกับการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่อนุญาตให้กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมใช้สถานที่จัดชุมนุมวันที่ 19 ก.ย. นี้ โดยอ้างว่าการขออนุญาต  ยังไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศเรื่องแนวทางอนุญาตจัดชุมนุมทางการเมืองของนักศึกษาในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย 

 

อนุสรณ์ ออกโรงค้านผู้บริหารมธ. เบรค เพนกวิน จัดม็อบคุกคามสถาบันฯ

 

1.ข่าวประชาสัมพันธ์ให้เหตุผลแต่เพียงกว้างๆ ไม่ได้ระบุอย่างจำเพาะเจาะจงว่าการขออนุญาตไม่ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขข้อใด  ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมในขอบเขตของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ การมีอาจารย์ที่ปรึกษารับรอง  หรือ การตกลงร่วมกันระหว่างนักศึกษา มหาวิทยาลัย  และเจ้าหน้าที่ในแง่เนื้อหาการชุมนุมและมาตรการรักษาความปลอดภัย  ทั้งที่หนังสือขออนุญาตที่กลุ่มยื่นไประบุชัดว่ารูปแบบและเนื้อหาการชุมนุมเป็นอย่างไร  อยู่ในขอบเขตกฎหมายและได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญอย่างไร  รวมทั้งมีใครเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา  จะขาดแต่เพียงข้อการตกลงร่วมกันสามฝ่าย ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ไม่สามารถดำเนินการได้หากว่ากลุ่มยังไม่ได้รับการอนุญาตให้จัดชุมนุมเสียก่อน

 

2.มหาวิทยาลัยไม่ได้สอบถามหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากกลุ่มรวมถึงอาจารย์ที่ปรึกษา ก่อนจะมีมติและแจ้งผลผ่านข่าวประชาสัมพันธ์  ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินการที่ค่อนข้างจะรวบรัดตัดความ ไม่ได้วางอยู่บนท่าทีที่จะอำนวยความสะดวกหรือประสานความร่วมมือกัน  ทั้งที่พันธกิจของมหาวิทยาลัยคือการสนับสนุนให้นักศึกษา   ได้แสดงออกทางความคิดและมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสังคม และโดยทั่วไปการจะมีมติในเรื่องใด หากมีข้อสงสัยหรือมีแนวโน้มจะเป็นไปในทางลบก็จะมีการหารือกับอีกฝ่ายก่อน เว้นเสียแต่ว่าจะมองอีกฝ่ายเป็น "คนอื่น"  "คนไกล"  หรือมีมติที่จะปฏิเสธอยู่ก่อนแล้ว  
 

 

3.การปฏิเสธไม่ให้กลุ่มใช้สถานที่จัดชุมนุมในมหาวิทยาลัย  ไม่เพียงแต่จะเป็นการผลักไสให้นักศึกษาไปเผชิญความเสี่ยงและอันตรายนอกรั้วมหาวิทยาลัย  หากแต่ยังเป็นการสร้างเงื่อนไขให้เกิดการเผชิญหน้าและก่อให้เกิดความรุนแรงตั้งแต่ยังไม่มีการชุมนุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการที่กลุ่มได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะยังคงจัดการชุมนุมตามแผนที่วางไว้แม้จะไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหากประเมินจากจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมครั้งล่าสุดบวกกับกระแสการจะเข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ซึ่งมีจำนวนมาก ก็เป็นไปได้สูงที่จะมีการกระทบกระทั่งและเกิดเหตุการณ์บานปลายหากมีการปิดมหาวิทยาลัยหรือใช้กำลังเจ้าหน้าที่ขัดขวาง 

 

อนุสรณ์ ออกโรงค้านผู้บริหารมธ. เบรค เพนกวิน จัดม็อบคุกคามสถาบันฯ

 

ในตอนท้ายของโพสต์ดังกล่าว ระบุว่า ด้วยความห่วงใยในสิทธิและสวัสดิภาพของนักศึกษารวมถึงประชาชน   ตลอดจนการคำนึงถึงเกียรติภูมิของมหาวิทยาลัยและอนาคตของสังคมไทย   จึงอยากให้มหาวิทยาลัยได้ทบทวนมตินี้   พร้อมกับเชิญให้ตัวแทนกลุ่มเข้าพบเพื่อแสวงหาทางออกร่วมกัน ซึ่งยังพอมีเวลา หากว่าเราไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยและมาเสียใจในภายหลัง

 

อย่างไรก็ตามมีข้อพิจารณาว่า  รศ.อนุสรณ์ อุณโณ   ไม่ได้พูดถึงการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านๆมาของกลุ่มแนวร่วมปลดแอก  และการเคลื่อนไหวของ นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน รวมถึง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง   ,   นายภาณุพงศ์  จาดนอก  หรือ ไมค์ ระยอง   และ นายอานนท์  นำภา    ตัวแทนกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม  ที่ผ่านมา  ว่า    เกิดขึ้นตามสถานที่ชุมชนต่าง ๆ มาโดยตลอด    จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องนำมากล่าวอ้าง เพื่อโจมตีการตัดสินใของผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   ในการหยุดยั้งไม่ให้สถาบันการศึกษา  เปิดพื้นที่ให้มีการจัดปราศรัยทางการเมืองที่มีลักษณะก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์  และมีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายต่อนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัย

 

อนุสรณ์ ออกโรงค้านผู้บริหารมธ. เบรค เพนกวิน จัดม็อบคุกคามสถาบันฯ

 

ประเด็นสำคัญที่สุด   ผศ.ดร. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล    รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต  เคยออกมาแสดงความรับผิดต่อการอนุญาตให้กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม  จัดเวทีการเมืองที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต   เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563  มาแล้ว   เนื่องจากรูปแบบการดำเนินการ และเนื้อหาการปราศรัยมีประเด็นเกินเลยขอบเขต  จนเป็นเหตุให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ต้องเข้มงวดกับการใช้พื้นที่เพื่อจัดการชุมนุมทางการเมืองกับทุกกลุ่มเคลื่อนไหว

 

อนุสรณ์ ออกโรงค้านผู้บริหารมธ. เบรค เพนกวิน จัดม็อบคุกคามสถาบันฯ


(คลิกอ่านข่าวประกอบ :  ปริญญา โพสต์ขออภัย ปล่อยเวทีม็อบธรรมศาสตร์ ล่วงละเมิด จาบจ้วงเบื้องสูง  )  

 

อนุสรณ์ ออกโรงค้านผู้บริหารมธ. เบรค เพนกวิน จัดม็อบคุกคามสถาบันฯ