- 11 ก.ย. 2563
“อนุทิน” ยันรอพิจารณางบ 1,900 ล้านเสริมเขี้ยวเล็บป้องแฮกเกอร์ขโมยข้อมูลคนป่วย เผยรพ.เร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสำรองข้อมูลคนไข้แล้ว
วันที่ 11 ก.ย.2563 เมื่อเวลา 14.36 น.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เตรียมเสนอของบประมาณเงินกู้ 1,900 ล้านบาท เพื่อมาวางระบบให้ทุกโรงพยาบาลป้องกันการแฮกข้อมูล ว่า ตนได้หารือกับนายสาธิต อยู่ โดยได้มอบหมายให้ไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อนว่าข้อมูลของไข้ในแต่ละโรงพยาบาลต้องมีการสำรองข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และได้รับทราบกลับมาว่าไม่มีปัญหาอะไรในการเรียกขอมูลมาใช้ประโยชน์
"เรื่องการป้องกันการถูกแฮกในอนาคตนั้น จะต้องมีการหารือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ว่าจะทำอย่างไร จะมีวิธีอะไรที่จะทำให้ป้องกันการแฮกได้ ทั้งนี้ การที่ใครจะนำข้อมูลของคนไข้ไปถือเป็นการละลาบละล้วง แต่ถ้าเป็นการแฮกข้อมูลเอาออกไปโดยที่โรงพยาบาลไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ถือว่าใจร้ายมาก"
เมื่อถามว่างบประมาณดังกล่าวจะนำมาใช้กับโรงพยาบาลทั้งหมด แสดงว่าที่ผ่านมาแต่ละโรงพยาบาลไม่มีระบบป้องกันเลยหรือ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าแต่ละโรงพยาบาลก็มีระบบกันอยู่ ซึ่งการแบล็กอัพหรือสำรองข้อมูลก็เป็นการป้องกันอย่างหนึ่ง ทุกอย่างอยู่ในระบบฐานเก็บข้อมูลกลาง ซึ่งก็ถือเป็นระบบการป้องกันอยู่แล้ว ครั้งนี้เขาแฮกเข้ามาในระบบแล้วทำให้ข้อมูลหายไป ถือเป็นการโจรกรรม มีความผิดทางอาญา เราก็ต้องไปแก้ไขและไปดำเนินคดี แต่ในที่สุดแล้วข้อมูลเหล่านี้คนที่แฮก ก็ไม่สามารถไปเอาข้อมูลไปได้อยู่ดี
เมื่อถามย้ำว่าหากได้รับงบประมาณแล้วความคุ้มค่า ที่จะเกิดขึ้นคุ้มค่าหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เขายังไม่ได้บอกว่าจะใช้เงินวันนี้ ถ้าเราเข้าไปดูแล้วระบบดี เราอาจจะมีวิธีการสร้างเกาะป้องกันขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องใช้เงินก็ได้ ไม่ใช่ว่าพอเกิดปัญหาอะไรก็เอาเงินมาแก้ปัญหา ขอย้ำว่าถ้ามีความจำเป็นถึงจะใช้ แต่ถ้าไม่มีความจำเป็นก็ไม่ใช้
“ถ้าเราจะต้องเสียเงินให้โจร เราไม่ใช้หรอก เราต้องไม่ให้มันได้ใจ” อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงพยาบาลสระบุรีนั้น ได้รับรายงานว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร เขาก็ยังคงให้บริการคนไข้ได้อยู่