ประชาคมธรรมศาสตร์ ดีเดย์ป้องมธ. พล.ท.นันทเดช  ฝาก 4 ข้อคิด ถ้าจะร่วมม็อบเพนกวิน

พล.ท. นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ เตือนเยาวชนคนรุ่นใหม่ คิดรอบคอบร่วมชุมนุมตามกระแสปลุกระดม ตั้ง 4 คำถาม ตอบตัวเองก่อนตัดสินใจ

สืบเนื่องจากการที่นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงจุดยืนพร้อมเชิญชวนศิษย์เก่าร่วมลงนาม  ร้องขอให้มีการพิจารณาเหตุผลของการเสนอระงับการใช้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.นี้ โดยเตรียมเข้ายื่นเรียกร้องไปยังกรรมการสภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ต้องพิจารณาการใช้พื้นที่ของผู้ชุมนุมในครั้งนี้ ในวันที่ 15 ก.ย.นี้ เวลา 16.00 น.   

 

ประชาคมธรรมศาสตร์ ดีเดย์ป้องมธ. พล.ท.นันทเดช  ฝาก 4 ข้อคิด ถ้าจะร่วมม็อบเพนกวิน

( คลิกอ่านข่าวประกอบ   :    อ.แก้วสรร แจง 5 ข้อ ทำไม ประชาคมธรรมศาสตร์ ต้องค้านมธ.ปล่อยเพนกวินจัดม็อบ

ทั้งนี้เงื่อนไขสำคัญ  5  ข้อ ที่นำไปสู่การขับเคลื่อนของกลุ่มประชาคมธรรมศาสตร์   ในการปกป้องมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  และป้องกันสิ่งที่อาจเกิดขึ้นจากผลกระทบของการเปิดพื้นที่ให้มีการชุมนุมทางการเมือง  ประกอบด้วย

 

1.เป้าประสงค์ : กลุ่มนักศึกษาผู้ขอจัดการชุมนุม แถลงยืนยันไว้ชัดเจนว่า จะเปิดชุมนุมนักศึกษาและประชาชน 1 วัน 1 คืน จากนั้นจะเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลตัวเลขโดยประมาณอยู่ที่ 40,000 คนขึ้นไป เพื่อ “ต่อสู้สร้างแผลให้เผด็จการอย่างไม่รู้ลืม” และสัญญาว่า “พี่น้องจะไม่กลับมือเปล่าอย่างแน่นอน”


 
2.สงบแต่ปาก : ขบวนที่จะมารวมและยกไปทำเนียบนี้ กลุ่มศิษย์เก่ากลุ่มนี้เห็นว่ามีคุณภาพเป็นมวลชนแห่งความจงเกลียดจงชัง ที่ผ่านการปลุกปั่นมายาวนานในโลกไซเบอร์ ซึ่งเมื่อออกจากทวิตเตอร์มารวมตัวกันจริงๆบนท้องถนนแล้ว ก็ยิ่งจะก้าวร้าวราวกับเร้ดการ์ด จนยากที่จะเชื่อหรือหวังในความสงบและการเจรจากันเช่นวิถีทางประชาธิปไตยได้

3.สุ่มเสี่ยงสูงสุด : สำหรับความสามารถและความรับผิดชอบนั้น ก็มองไม่เห็นเลยว่านักศึกษากลุ่มนี้จะมีความสมารถในการนำ ควบคุม จัดการ คุ้มครอง ผู้ชุมนุมได้อย่างไร เห็นมีแต่ความสามารถทางวาทกรรมเท่านั้น

คำกล่าวที่ว่าจะชุมนุมโดยสงบ จึงเป็นเรื่องเกินศักยภาพทั้งสิ้น ยิ่งวางแผนว่าจะเทม็อบ 40,000 คนใส่ทำเนียบรัฐบาลด้วยแล้ว ก็ยิ่งน่าห่วงว่า จะได้เห็นร่างวีรชนต้องจากไปอีกหลายคนเหมือนคราวที่เทม็อบพฤษภาทมิฬอีก

4.ไว้วางใจไม่ได้ : ท้ายที่สุดกลุ่มศิษย์เก่าเห็นว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่นักศึกษากลุ่มนี้จะมีการนำและการจัดการโดยอิสระลำพังกลุ่มตนเองได้ แทนที่นักศึกษาและคนพวกนี้จะกล้าประกาศรวมตัวให้ปรากฏเป็น “แนวร่วมต่อต้านเผด็จการ” ที่โปร่งใสชัดเจน ชัดทั้งการนำและอิสระทางการเมืองตลอดจนที่มาของค่าใช้จ่ายและจุดแห่งชัยชนะที่ต้องการ พวกเขากลับดันให้เด็กนักศึกษาของเราไม่กี่คนมาออกหน้า ความลับๆล่อๆเช่นนี้ เป็นไปแล้วและเป็นไปได้ก็ด้วยเหตุที่กฎหมายชุมนุมสาธารณะได้ยกเว้นไว้ ไม่ให้นำมาตรการตรวจสอบมาใช้กับกาชุมนุมในสถานศึกษาจนเปิดช่องให้มีการวางแผนเลี่ยงกฎหมาย โดยขอจัดชุมนุมในมหาวิทยาลัยส้องสุมกำลังก่อน แล้วยกขบวนออกไปอาละวาดนอกมหาวิทยาลัยต่อไป

5.ธรรมศาสตร์มีส่วนร่วมด้วยไม่ได้ : ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา ศิษย์เก่าท้ายบันทึกดังกล่าวจึงเห็นว่าคำขอจัดชุมนุมครั้งนี้ไม่สุจริต ไม่โปร่งใส ไม่มีความสามารถและความรับผิดชอบที่ต่ำกว่ามาตรฐานประชาธิปไตย จนไม่อาจรับรองให้ชุมนุมโดยอิสระในสถานศึกษาได้

 

ประชาคมธรรมศาสตร์ ดีเดย์ป้องมธ. พล.ท.นันทเดช  ฝาก 4 ข้อคิด ถ้าจะร่วมม็อบเพนกวิน


 

ล่าสุด   พล.ท. นันทเดช เมฆสวัสดิ์  อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ    "อ.แก้วสรรค์เชิญศิษย์เก่า มธ.ไปพบกันที่หน้าตึกโดม  วันที่  15 กันยายน  2563 เวลา 15.30 น."

 

ประชาคมธรรมศาสตร์ ดีเดย์ป้องมธ. พล.ท.นันทเดช  ฝาก 4 ข้อคิด ถ้าจะร่วมม็อบเพนกวิน

 ...  วันนี้เอาเรื่องบางตอนใน หนังสือ "ผ่านฟ้าลีลาศ" มาให้่อ่านกันครับ เพราะเหตุการณ์ มันเริ่มจะคล้ายคลึงเรื่องเดิมๆมากขึ้นทุกทีแล้ว  ตอนนั้นที่ธรรมศาสตร์ถึงกับบังคับให้น้องใหม่เข้ารับการวิจารณ์ตนเอง  ที่ห้อง เอที.  ไล่ด่าอาจารย์ที่ไม่เห็นด้วย ......."

 

ประชาคมธรรมศาสตร์ ดีเดย์ป้องมธ. พล.ท.นันทเดช  ฝาก 4 ข้อคิด ถ้าจะร่วมม็อบเพนกวิน


ก่อนหน้านั้น พล.ท.นันทเดช  ได้เขียนบทความพิเศษ  เรื่อง  "คู่มือการชุมนุมวันที่ 19 ก.ย. 2563 นี้"   เพื่อต้้งคำถามพิจารณาประกอบการตัดสินใจ  ก่อนคิดจะเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม  ว่า

1. น้องๆ ที่จะไปชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย. 2563 ก่อนไปต้องดูเหตุผลที่จะไปชุมนุมว่ามาจากเรื่องอะไรบ้าง
         
1.1 มีคนชวน เพื่อนหรือแฟนหรือรุ่นพี่รูปหล่อ ฯลฯ ชวนไป
1.2 เราต้องการไปเองเพราะอยากรู้อยากเห็น อยากเฮฮา ได้ด่าผู้ใหญ่เล่นบ้าง สนุกสนานดี
1.3 ตั้งใจไปเพราะรัฐบาลเผด็จการ รัฐธรรมนูญก็เผด็จการ นายกรัฐมนตรี ก็มาจากการรัฐประหาร
1.4 ไปแล้วได้ตังค์ค่าขนม (วันเสาร์ที่ 19 โรงเรียนก็หยุด แต่แต่งเครื่องแบบนักเรียน)

 

ประชาคมธรรมศาสตร์ ดีเดย์ป้องมธ. พล.ท.นันทเดช  ฝาก 4 ข้อคิด ถ้าจะร่วมม็อบเพนกวิน


 2. ทั้ง 4 ข้อนี้ขอสนับสนุนให้ไปชุมนุมได้เลยทุกข้อ ยกเว้นข้อ 1.3 เท่านั้นที่ขอให้ไปเปิด Google ดูก่อนว่า

2.1 รัฐบาลเผด็จการ ลองไปดูรัฐบาลไหนในโลกนี้ที่ให้สิทธิแก่ประชาชนเท่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มีบ้างไหม ดูไปทีละประเทศ จะพบว่ารัฐบาลไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ครับ ชนะในอาเซียนด้วย นอกจากนั้นรัฐบาลก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้โกง เสียอย่างเดียวเอาเวลาไปทุ่มเทก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ประเทศเสียใหญ่โตมโหฬารมากกว่าทุกรัฐบาลที่จากการเลือกตั้ง จนละเลยปัญหาเล็กๆ ของพวกหนูไปบ้าง
2.2 ส่วนที่บอกว่ารัฐบาลมาจากการรัฐประหาร ก็ต้องบอกว่ารัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้งเหมือนกับพรรคอนาคตใหม่และพรรคเพื่อไทย ใช้รัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ ถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญชุดนี้จะมี ส.ส.ได้สักกี่คนกัน
2.3 รัฐธรรมนูญไม่ดี รัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างมาเพื่อป้องกันการโกง เพราะเมื่อรัฐบาลโกง ประชาชนก็จะออกมาต่อต้านรัฐบาล รัฐบาลก็จะปราบปรามประชาชน ทหารก็จะออกมารัฐประหารอีก กลายเป็นวงจรที่ไม่ยุติกันเสียที นอกจากนั้นถ้ารัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้รัฐบาลโกงได้แล้ว ประเทศรอบบ้านเราหรือประเทศมหาอำนาจ เศรษฐีทุ่มเงินแค่หมื่นล้านบาทก็ได้เป็นรัฐบาลแล้ว หมูมาก หรือไม่ก็พวกนักธุรกิจหุ้นกันคนละพันล้านบาทก็พอแล้ว เป็นเจ้าของประเทศไทยได้ง่ายๆ ใครๆ ถึงอยากล้มรัฐธรรมนูญฉบับนี้กันนักเพราะมันโกงยาก
2.4 รัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังมาจากการลงประชามติ ตอนลงประชามตินั้น ทั้งพรรคเพื่อไทยที่มีจำนวนผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตมากที่สุด จนไม่ได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเลย ร่วมกันกับพรรคประชาธิปัตย์พรรคเก่าแก่ รวมตัวกันคัดค้านน่ากลัวมาก เพราะรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ตอนนั้นยังเป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร การจัดตั้งมวลชนยังเป็น “วุ้น” อยู่เลย แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ชนะการลงประชามติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์จึงมาตามกฎเกณฑ์ในรัฐธรรมนูญทุกอย่างครบถ้วน และประชาชนก็รับรองว่ารัฐธรรมนูญเหมาะสมกับสภาพทั่วไปของประเทศไทย

   
3. แต่ถ้าพวกหนูยังเถียงกันอีกว่ายังไง พล.อ.ประยุทธ์ก็เริ่มมาจากการรัฐประหารอยู่ดี ก็ถูกต้อง แต่น้องๆ ก็ควรคิดดูก่อนว่าทำไมถึงต้องมีการรัฐประหารเกิดขึ้น ถ้ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ทำน้ำท่วมบ้านท่วมเมืองเพราะบริหารจัดการไม่ดี ซึ่งพอยกโทษให้เพราะนายกรัฐมนตรียังเด็กอยู่ พูดยังผิดๆ ถูกๆ แต่ดันไปเชื่อพวก ส.ส. ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยตอนตี 4 เพื่อพาคุณทักษิณกลับประเทศ ผิดรัฐธรรมนูญและทำมา 2-3 ครั้งแล้ว นอกจากนั้นยังเกิดการทุจริตโครงการจำนำข้าวและทุกอย่างที่เกี่ยวกับข้าวอย่างไม่เคยมีมาก่อน แค่นั้นยังไม่พอ คุณยิ่งลักษณ์ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ให้พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตี (7 พ.ค. 2557) กรณีก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง

เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นซ้ำซ้อนกัน ทำให้รัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลรักษาการที่ไม่มีนายกรัฐมนตรี หมดอำนาจสั่งการทางการเงินและเรื่องสำคัญๆ แต่ก็ยังสั่งให้ตำรวจปราบปรามประชาชนอยู่เช่นเดิม จนประชาชนทั้งสองฝ่ายเตรียมจะฆ่ากันอยู่แล้ว ทหารจึงถูกประชาชนนับล้านออกมากดดันให้ออกมาทำรัฐประหาร มีการชุมนุมที่มีคนร่วมชุมนุมนับล้านคนถึง 4 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งพอที่จะก่อม็อบยึดบ้านเมืองได้ แต่ไอ้ม็อบบ้าๆ นี้ก็บ้าสันติ ไม่ได้เคลื่อนไหวนำคนนับล้านไปทำอะไรเลย เรียกร้องให้ประชาชนออกมาชุมนุมใหญ่ครั้งละ 1 ล้านคนเสร็จก็เลิก แยกย้ายกันกลับบ้าน ผู้มาชุมนุมก็เริ่มหมดตัว เบื่อหน่าย หาทางสะสมอาวุธจะโต้ตอบรัฐบาลรักษาการบ้าง ตอนนั้นเองที่ พล.อ.ประยุทธ์จึงตัดสินใจทำรัฐประหาร


อนึ่ง ผมเขียนเคยต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ไปแรงๆ หลายครั้งในเรื่องอยู่เฉยทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ตอนที่ประชาชนเสียชีวิตที่ถนนบรรทัดทอง (มีการทิ้งระเบิดลงมาจากตึก) ประชาชนเสียชีวิตที่ราชประสงค์ด้วยการยิง M79 มาจากทางประตูน้ำ คนตายก็ไม่ได้เป็นผู้ที่มาชุมนุมด้วย, มีการปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขณะที่มีการอภิปรายบนเวที, ยิงทิ้งคนบนขบวนรถ และอีก 3-4 แห่ง เข่นฆ่าเรื่อยมาจนพวกป๊อบคอร์นทนไม่ไหวออกมายิงสู้บ้าง เกิดเรื่องตั้งมากมายขนาดนี้กว่า พล.อ.ประยุทธ์จึงได้ตัดสินใจรัฐประหารได้


4. เมื่อพวกน้องๆ ที่จะไปชุมนุม เปิด Google ดูเรื่องเหล่านี้แล้ว ค่อยตัดสินใจว่าจะไปดีหรือไม่ ถ้ายังเห็นว่าอยากไป ก็ต้องไปครับ แต่ไปชุมนุมเฉยๆ อย่าไปบ้าตามคนที่อยู่บนเวที และต้องไม่ลืมว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน อย่าคิดว่าสาดสีใส่ตำรวจครั้งหนึ่งแล้ว จะสาดสีครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ได้อีก ทุกเรื่องมีขอบเขต ทุกอาชีพมีความอดทนจำกัดครับ ดังนั้นเมื่อไปชุมนุมแล้วพวกเขาจะพาเดินไปทำอะไรที่ไหน ขอให้ระวังนะครับ คนไทยอีก 65 ล้านคนเขารักสถาบันพระมหากษัตริย์กันทั้งนั้น ถ้ามีการทำจริงๆ ครั้งนี้รัฐบาลจะไปห้ามปรามใคร เขาก็ไม่ยอมหรอกครับ เชื่อผมเถอะนรกแตกแน่ๆ

พวกน้องๆ จำนิทานเรื่องหมาหางด้วนได้ไหมครับ ที่หมาหางด้วนตัวหนึ่งเห็นหมาทุกตัวมีหางสวยดี ก็พยายามชวนให้หมาตัวอื่นไปตัดหางออกให้ด้วนเหมือนตัวเอง

 

ประชาคมธรรมศาสตร์ ดีเดย์ป้องมธ. พล.ท.นันทเดช  ฝาก 4 ข้อคิด ถ้าจะร่วมม็อบเพนกวิน

 

"รัชกาลที่ 5 ทรงประกาศเลิกทาสมานานแล้ว ทาสในสมัยนั้นกว่าจะเป็นไทได้ต้องมีการตั้งโรงเรียนสอนหนังสือให้ความรู้กับทาสก่อน มีการหาที่ดินทำกินให้และยังมีการสร้างคลองเข้ามาถึงที่ดินให้ด้วย แต่ทาสสมัยใหม่ได้อะไรมาบ้าง เท่าที่เห็นก็มีมากพอควร เช่น ได้เต้นโชว์หน้าฝูงชน เวลาเดินเข้าโรงเรียน เพื่อนๆ ก็หลีกทางให้ ครูอาจารย์เกรงใจไม่กล้าว่ากล่าวตักเตือน พ่อแม่ก็ไม่กล้าดุอีก แต่ “ชีวิตอีก 50 ปี” จะต้องเสี่ยงมากหน่อยว่าจะอยู่แบบไหนในอนาคต เพราะทุกเรื่องต้องมีข้อยุติ คนดี คนรักบ้านเมืองจะชนะทุกที่ครับ เชื่อผมเถอะ"

 

ประชาคมธรรมศาสตร์ ดีเดย์ป้องมธ. พล.ท.นันทเดช  ฝาก 4 ข้อคิด ถ้าจะร่วมม็อบเพนกวิน

 

ขณะเดียวกัน พล.ท.นันทเดช  ยังเพิ่มเติมความเห็น โดยการประเมินสถานการที่จะเกิดขึ้น   ว่า   "ธรรมศาสตร์ไม่ทน แต่เด็กๆต้องทน"    สถานการณ์ "ธรรมศาสตร์ไม่ทน"ของเด็กๆกลุ่มหนึ่ง ใน 19  กันยานี้   ไม่น่าจะวิตกอะไรครับ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ  อะไรจริงก็หนีความจริงไม่พ้น อะไรเกินความจริงก็จะหลอกใคร   ไม่ได้อีก แม้แต่คนท่ีมาหลอกเด็กให้ออกมาเคลื่อนไหวบ้าๆบอๆ   ก็จะหลอกเด็กได้ยากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าตอนนี้เด็กๆจะเริ่มกางเต้นท์นอนข่มขู่กันแล้วก็ตาม 

ดังนั้นอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แล้วเด็กก็จะเรียนรู้เอาเองครับ  แต่ที่น่าวิตก ก็ตอนที่ประชาชนส่วนใหญ่ กำลังจะเริ่มไม่ทนต่อเด็กมากกว่า  ประชาชนส่วนนี้ จะอยู่เฉยๆ ต่อไปได้นานแค่ไหน  กับม็อบเด็กมีสปอนเซอร์ เป็นเรื่องที่พูดคุยกันแล้วต้องทำใจเย็นๆครับ  ความเสี่ยงจากโควิด น่าจะสำคัญกว่า 

บทเรียนในอดีต สอนไว้ว่า  "เมื่อไรที่เกิดม็อบที่ประชาชนลงถนนโดยมากันเองแล้ว  เมื่อนั้นรัฐบาล ไปทันทีครับ" แต่ถ้ารัฐบาลไม่โกง พวกม็อบมีสปอนเซอร์ต่อให้ขนมาหลายหมื่น  เผาบ้านเผาเมืองด้วย ก็เปล่าประโยชน์ ตัวอย่างมีมาแล้วเมื่อสัก 10 ปีที่ผ่านมา  สงสารแต่พวกม็อบเด็กๆเท่านั้นจะลงก็ไม่ได้  อายเพื่อน ผู้ใหญ่มันยกกันจนลอยไปแล้ว  มองไปข้างหลังคนที่หนุนก็กำลังใช้ประโยชน์จากจากพวกเด็กๆอย่างเต็มที่.. เอาไงดี