พล.ท.นันทเดช ซัดตรงธนาธร ผุดวาทกรรมช่วงเลวร้าย  แสดงชัดมีอคติปลุกปั่น

พล.ท. นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ ประเมินสถานการณ์ม็อบ 19 กันยายน กับวาทกรรมล่าสุด ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ""ช่วงที่เลวร้ายของเด็ก"

ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่ถูกปลุกระดม ด้วยข้ออ้างเรื่องประชาธิปไตย  สู่การชุมนุม 19 ก.ย. 2563 ภาพความเห็นประชาชนค่อนข้างชัดเจน  ว่า  สุดท้ายผลกระทบเกิดขึ้น หนีไม่พ้นความเสียหายต่อประเทศชาติ พร้อมไม่ต้องการให้มีการพาคนลงถนนก่อม็อบ เพราะกลัวประเทศชาติและตัวเองจะล่มจมลงไปอีก   จากวิกฤติเศรษฐกิจและวิกฤติโควิด-19 รอบใหม่ซ้ำเติม

 

พล.ท.นันทเดช ซัดตรงธนาธร ผุดวาทกรรมช่วงเลวร้าย  แสดงชัดมีอคติปลุกปั่น


( คลิกอ่านข่าวประกอบ  :   ซูเปอร์โพล ชี้ม็อบเพนกวิน หนีไม่พ้นสร้างขัดแย้ง บทสรุป ปท.คนไทย คือผู้พ่ายแพ้  )  

ล่าสุด  พล.ท. นันทเดช เมฆสวัสดิ์  อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ   โพสต์ถึงประเด็นการจัดม็อบของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม  ในหัวข้อ "ม็อบต้องการอะไรแน่?"  แสดงใจความสำคัญว่า 

"วันนี้เห็นประกาศรายชื่อ ผู้พูดบนเวทีนักเรียนนักศึกษา  ไม่มีชื่อผู้ให้การสนับสนุนม๊อบสักคน  ทำให้มีผู้เรียกว่า "พวกแกนนำใต้กระโปรงเด็ก" ผมเลยว่าท่าจะจริง ม็อบวันนี้ ไม่เหมือนม็อบล้มรัฐบาลทุกครั้งที่ผ่านมา  เพราะนายธนาธรฯไปพูดให้นักศึกษาฟังที่ธรรมศาสตร์รังสิต ทำนองว่า  " พวกน้องเกิดมาช่วงที่ สังคมไทยแย่ที่สุด" 

ช่วงเวลาที่น้องเกิดขึ้นมานั้นน่าจะประมาณ 17-20 ปี  คงยังไม่เคยประสบเหตุการณ์จริง นอกจากเรื่องที่ปรากฏในบทเรียน หรือสื่อออนไลน์ ซึ่ง 2-3 ปีต่อมา ก็ปรากฏ"บุคคล" เข้าไปเล่าให้ฟัง พร้อมผสมอารมณ์อคติปลุกเร้า โดยเอาข้อมูลบางส่วนบวกกับสิ่งที่พวกเขาเพ้อฝันในจิตนาการ   มาเล่าให้ฟังแบบเป็นตุเป็นตะ

 

พล.ท.นันทเดช ซัดตรงธนาธร ผุดวาทกรรมช่วงเลวร้าย  แสดงชัดมีอคติปลุกปั่น

ดังน้ัน ในฐานะที่ผมอายุ(ม๊ากมาก) แต่ก็เป็นพลเมืองไทยเต็มขั้น ที่เสียภาษีเต็มๆมากว่า 50 ปี  ตั้งแต่ยังไม่มีภาษี vat  ด้วยซ้ำ จึงขอสรุปให้คนรุ่นหลังได้ทราบถึง ข้อเท็จจริงบางเรื่อง รวมทั้งรายละเอียดการทุจริตภาคพิศดาร ที่สร้างความเสียหาย หนี้สิน แม้กระทั่งการเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตของคนในชาติมากมาย  ขนาดปิดล้อม ม.รามคำแหง แล้วระดมยิง โดยไม่สนว่าเป็นครูอาจารย์ ประชาชน หรือนักศึกษา ก็เคยทำมาแล้ว ลองค้นกูเกิ้ลดูได้ครับ 

มหากาพย์ต้นเรื่องของยุคปัจจุบัน เริ่มจากคุณทักษิณกับพวก  ได้เข้าบริหารประเทศถึง 5 รัฐบาล มีการละเมิดกฏหมาย แสวงประโยชน์จากตำแหน่ง จนมีคำโก้ๆว่า"ทุจริตเชิงนโยบาย" แต่บางครั้งก็เอาซึ่งหน้า เช่น กรณีที่ดินรัชดาฯ เป็นต้น และหลายครั้งเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางการเมือง ได้ส่งผลกระทบถึงชีวิตของประชาชนร้ายแรง  อย่างไม่อาจหาอะไรมาทดแทนได้ เช่น การฆ่าตัดตอน ในยุคสงครามยาเสพติด ฯ  การทุจริตเหล่านี้ ชัดเจนและมีมากจนเป็นสาเหตุให้เกิดม็อบพันธมิตรขึ้น  ผู้คนนับหมื่นออกมาชุมนุม โดยไม่ต้องอาศัยการปลุกระดมออนไลน์  เป็นแฟลชม๊อบที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ

ต่อมาเมื่อพวกคุณทักษิณไม่ได้เป็น "รัฐบาล" ก็เกิดมีม็อบอีกประเภท เป็นม็อบที่มุ่งการทำลายล้าง โดยไม่คำนึงถึงเกียรติภูมิของชาติ เช่น การล้มการประชุมอาเซียน ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ  ที่ถึงแม้แกนนำดูแสนจะภาคภูมิใจในความสำเร็จ  แต่หารู้ไม่ว่า คนทั้งชาติสาปแช่ง และด้วยพลังจิตที่คนนับล้านๆนั่งสาปแช่งอยู่ที่บ้าน ทำให้เกิดความวิบัติในชีวิตของผู้ก่อการ  เช่นเดียวกับกรณีเผาบ้าน เผาเมือง  ใช้อาวุธสงครามยิงประชาชน ทหาร แม้กระทั้งวัดคู่บ้าน คู่เมือง อย่างวัดพระแก้วยังยิงเลย  กรรมเลยเกาะหลังให้ระเหเร่ร่อน พลัดพราก จนปัจจุบัน

พอคุณยิ่งลักษณ์ น้องรักคุณทักษิณ ได้มาเป็นรัฐบาล คราวนี้ยิ่งสนุกกันใหญ่ ด้วยโครงการรับจำนำข้าว น้ำท่วมใหญ่ที่ไม่เป็นธรรมชาติ ที่ทำให้คนไทยสูญเสียทรัพย์สิน และเสียชีวิตมากกว่าโรคระบาดโควิด19 ซะอีก  นอกจากนี้ยังทำให้รัฐบาลต่อๆมา ต้องมานั่งใช้หนี้เป็นแสนๆล้าน ซึ่งน่าจะต้องใช้หนี้ยาวต่อไป  จนถึงน้องๆเรียนจบ และเข้าทำงานไปแล้วสักพักนั่นแหละครับ  ในที่สุด ด้วยวีรกรรมที่แสนจะน่ารักน่าชัง ทำให้นายกหญิงคนแรกของเรา จึงกลายเป็นนายกฯคนแรกที่ศาลสั่งให้พ้นตำแหน่งด้วย 

เมื่อเล่ามาถึงตอนนี้ ก็อยากถามคุณธนาธรว่า "ช่วงที่เลวร้ายของเด็ก"  ตามที่คุณพูดนั้นเกิดขึ้นเพราะใคร??? พวกที่คุณธนาธร ประกาศจะเอากลับเมืองไทย ก็คงไม่พ้นคุณทักษิณและพวกเหมือนเดิม ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่รุ่นผม รุ่นก่อนผม และรุ่นน้องๆผม นับล้านๆคน ที่ประสบเหตุการณ์ข้างต้น  แสนจะเข็ดขยาดและชอกช้ำมาก่อน  จดจำได้ไม่มีลืม

 

พล.ท.นันทเดช ซัดตรงธนาธร ผุดวาทกรรมช่วงเลวร้าย  แสดงชัดมีอคติปลุกปั่น

 

ดังนั้นการชุมนุมของน้องๆหลานๆ นักศึกษาเหล่านี้  ซึ่งลึกๆแล้วคนรุ่นผมดีใจ ที่เห็นรุ่นลูกหลาน มีความรู้สึกนึกคิดในการที่จะออกมารับผิดชอบต่อสังคมประเทศชาติ แต่พวกที่ยุยงปลุกปั่นอยู่เบื้องหลังนี่สิครับ เป็นคนรุ่นเก่า หน้าเดิมที่น่าหนักใจ  การเอาผลประโยชน์ของตัวเองนำ(แบบแอบแฝง)ก็ว่าน่าเกลียดแล้ว แต่การเอาลูกหลานมาเป็นแนวหน้าสู้เพื่อตนเองนี่  มันถึงระดับน่ารังเกียจเลยละ

 

พล.ท.นันทเดช ซัดตรงธนาธร ผุดวาทกรรมช่วงเลวร้าย  แสดงชัดมีอคติปลุกปั่น

 

แม้พวกผู้ใหญ่เหล่านี้ จะเกณฑ์คนลงมาให้มากกว่านักศึกษาสัก 100 เท่า   ก็คงยากที่ชนะในเกมส์นี้ครับ  เพราะสถานภาพของรัฐบาลยังมั่นคง  แม้จะทะเลาะกันเองบ้าง ก็เป็นปกตินิสัยของคนอยู่ร่วมกันมากๆ  แต่ข้อผิดพลาดในการบริหาร รวมถึงการทุจริตในรัฐบาล ก็ยังไม่ชัดเจน  นอกจากนี้  รัฐบาลนี้ยังเคารพเทิดทูนสถาบันฯอีกด้วย ประชาชนคนดีๆไม่มีใครเอาด้วยแน่ครับ

มาถึงตรงนี้ คำถามคงอยู่ที่
 (1) คงไม่มีทางล้มรัฐบาลนี้ได้แน่นอน แล้วคุณต้องการล้มอะไรกันแน่ 
 (2) คงไม่มีทางยั่วยุให้ตำรวจของรัฐบาลชุดนี้ ออกมาทำร้ายประชาชนแน่ๆ 
       
แต่ใครล่ะ ที่เตรียมมาทำร้ายผู้ชุมนุม ผมว่าเลิกคิดเถอะครับ เพราะชะตากรรมสมัยนี้มันเร็วกว่าแสง  เหมือนสังคมออนไลน์นั่นแหละครับ