- 20 ก.ย. 2563
สืบเนื่องจากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ปลุกระดมมวลชนมารวมตัวเดินหน้าขับไล่รัฐบาล แต่ปรากฎว่าโดยข้อเท็จจริงมีเป้าหมายฝงของการใช้มวลชนกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง นำโดย น.ส. ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง , นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง และ นายอานนท์ นำภา แกนนำพลเมืองโต้กลับ ที่บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริมณฑลสนามหลวง
สืบเนื่องจากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ปลุกระดมมวลชนมารวมตัวเดินหน้าขับไล่รัฐบาล แต่ปรากฎว่าโดยข้อเท็จจริงมีเป้าหมายฝงของการใช้มวลชนกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง นำโดย น.ส. ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง , นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง และ นายอานนท์ นำภา แกนนำพลเมืองโต้กลับ ที่บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริมณฑลสนามหลวง
โดยเฉพาะเพนกวิน หรือ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว อ้างประกาศถึงแนวทางการต่อสู้กับเผด็จการ 8 ข้อ ที่ทุกคนทำได้จากที่บ้าน
ล่าสุด พลตรี นพ.เหรียญทอง ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์แสดงความเห็น ในหัวข้อ "เหตุผลที่ผมยังไม่ระดมพล" มีใจความสำคัญว่า
1. รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังนำพาประเทศชาติไปได้ดีและจะมีความเจริญก้าวหน้าในอนาคตอันใกล้ ทั้งยังเป็นพื้นฐานความเจริญก้าวหน้าของชาติในระยะยาว ดังนั้นหากผมปลุกระดมจะเกิดสถานการณ์เผชิญหน้าและเกิดมิคสัญญี ฆ่าล้างกันทันที ประเทศชาติจะเสียหายและประเทศจะพ่ายแพ้ดังที่พระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 เคยตรัสไว้เมื่อ พ.ค.35
2. สถานการณ์การชุมนุมม็อบล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์จะแสดงตัวตน ธาตุแท้ออกมาเรื่อยๆโดยไม่ต้องสืบหาอีกแล้ว ประชาชนได้เห็นตัวตนชัดเจน ทั้งแกนนำ พรรคการเมือง นักการเมือง กลุ่มทุนผู้สนับสนุนทุนและทรัพย์ ภาครัฐสามารถจัดการได้ด้วยกระบวนการทางกฎหมาย ถึงแม้จะไม่รวดเร็วทันใจพสกนิกรผู้จงรักภักดีก็ตาม แต่จะเป็นการจัดการที่สถาวรมั่นคงโดยประเทศชาติได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยเฉพาะผลกระทบจากการแทรกแซงจากภายนอกประเทศที่ต้องการแทรกแซงไทยหากเกิดสถานการณ์มิคสัญญีในไทย
3. สถานการณ์จากนี้ ขบวนการสามานย์นี้จะยกระดับขึ้นเรื่อยๆ หากยังไม่เกิดสถานการณ์เผชิญหน้า ขบวนการเหล่านี้ก็จะแสดงความต่ำทรามสามานย์ให้เป็นที่ประจักษ์ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์และภาครัฐไม่เคยคุกคามประชาชนดังข้อกล่าวหาให้ร้ายบิดเบือนจากขบวนการอันประกอบด้วยผู้บงการ แกนนำ พรรคการเมือง นักการเมือง และแนวร่วม
...การคุกคามพระมหากษัตริย์ต่างหากที่ปรากฎให้เห็นจนเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว พรรคการเมืองและนักการเมืองที่สนับสนุนขบวนการสามานย์จะเริ่มทยอยถอนตัว รักษาระยะห่างกับแกนนำมากขึ้นเป็นลำดับ ขบวนการสามานย์จะเริ่มขาดความเป็นเอกภาพ สถานการณ์ในเดือน ต.ค.63 จะสามานย์ยิ่งกว่า 19 ก.ย.63 นี้ แต่หากไม่เกิดการเผชิญหน้าแล้ว...สถานการณ์นับจากนี้ก็เป็นสถานการณ์ของม๊อบคนบ้า ที่ผมขอเรียกว่า "ม็อมสามสลึง"...พสกนิกรผู้จงรักภักดีต้องเตือนสติตนเองว่า "อย่าไปทะเลาะ อย่าไปตี อย่าไปทำร้ายคนบ้า"...ดูสารรูปแกนนำก็พอวิเคราะห์ได้ว่าเป็นกลุ่มคนมีปัญหาทางบ้านหรือทางสังคม มีปมด้อย ต้องการให้สังคมยอมรับเท่านั้น"