นับถอยหลัง ศาลฎีกาฯนัดชี้ชะตา วัฒนา เมืองสุข กับพวก คดีมรดกบาป ทุจริตบ้านเอื้ออาทร

ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการฉาว ที่เริ่มต้นจากระบอบทักษิณและกำลังจะมาถึงบทสุดท้าย สำหรับคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ในยุครัฐบาลไทยรักไทย ซึ่งมี "ทักษิณ ชินวัตร" เป็นหัวเรือใหญ่ แต่มีการมอบหมายให้ นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ยุครัฐบาล “ทักษิณ2” เป็นผู้รับผิดชอบ ดำเนินโครงการ จนกระทั่งอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้กระทำผิด ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นคดีหมายเลขดำ อม.42/2561 และ 102/2561 จำนวน 14 ราย ประกอบด้วย

ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการฉาว ที่เริ่มต้นจากระบอบทักษิณและกำลังจะมาถึงบทสุดท้าย สำหรับคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ในยุครัฐบาลไทยรักไทย  ซึ่งมี "ทักษิณ ชินวัตร"  เป็นหัวเรือใหญ่  แต่มีการมอบหมายให้  นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)  ยุครัฐบาล “ทักษิณ2” เป็นผู้รับผิดชอบ ดำเนินโครงการ  จนกระทั่งอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้กระทำผิด ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  เป็นคดีหมายเลขดำ อม.42/2561 และ 102/2561 จำนวน  14 ราย ประกอบด้วย 

1.วัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
2. มานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และอดีตประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการปี 2548–2549 
3.นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างที่พักอาศัย
4.นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่
5.อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย 
6.น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง ลูกน้องคนสนิทเสี่ยเปี๋ยง 
7.นางกรองทอง วงศ์แก้ว พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด
8.นายรุ่งเรือง ขุนปัญญา พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์ฯ
9.บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด โดย ปกรณ์ อัศวีนารักษ์ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน 
10.บริษัท ซิลเวอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ไทย เฉน หยู อินเตอร์เนชั่นแนลคอนสตรัคชั่น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) โดยพิมพ์วรา รัชต์ธนโรจน์ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน 
11.บริษัท พาสทิญ่าไทย จำกัด 
12.บริษัท นามแฟทท์ คอนสตรัคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย 
13.บริษัท พรินซิพเทค ไทย จำกัด ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง 
14.น.ส.สุภาวิดา คงสุข กรรมการผู้มีอำนาจทำการแทน บริษัท ไทยเฉนหยูฯ

 

นับถอยหลัง ศาลฎีกาฯนัดชี้ชะตา วัฒนา เมืองสุข กับพวก คดีมรดกบาป ทุจริตบ้านเอื้ออาทร

 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ :  มรดกบาปทักษิณ !!! "แก้วสรร"เบิกความคดีบ้านเอื้ออาทร "คตส." พบตั้งบริษัทเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว-ทุจริตโอนเป็นเงินค้าข้าว


โดยทั้งหมดถูกยื่นฟ้อง ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ   ข่มขืนใจ หรือ  จูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้  หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 157, ฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502มาตรา 6, 11 และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 91


ลำดับขั้นตอนสำคัญ ที่มีการลำดับความไว้  คือ 1.คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีการสอบสวนจนมีหลักฐานเชื่อได้ว่า โครงการบ้านเอื้ออาทร ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร  และดำเนินการก่อสร้างโดย บริษัท พาสทีญ่า ไทย จำกัด   มีพฤติการณ์ส่อทุจริต  ทั้งการจัดซื้อราคาที่ดินแพงเกินจริง  และกระบวนการการเรียกเงินหัวคิว จำนวน  82 ล้านบาท  เพื่อนำไปจ่ายให้กับนักการเมือง  รวมถึงรูปแบบการฟอกเงิน   


เนื่องจากพบเส้นทางการโอนเงินเข้าบัญชีของคนขับรถ แม่บ้าน และพนักงานพิมพ์ดีด  บริษัท  เพรซิเดนท์ อะกรี เทรดดิ้ง จำกัด   ในลักษณะของการปกปิดบัญชีทรัพย์สิน    ทั้งที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบตามขั้นตอน  ขณะที่   พยานกรรมการ พนักงาน และฝ่ายบัญชีบริษัท พาสทีญ่าฯ ให้การตรงกันว่า  มีการนำเงินจำนวนหนึ่งจ่ายเป็นค่าตอบแทนให้กับรัฐมนตรี  รายหนึ่งที่มีบทบาทรับผิดชอบจัดสรรโควตาข้าวให้แสุดได้ก่บริษัท เพรซิเดนท์ฯ 

2.ไทมส์ไลน์สำคัญ พบว่าในช่วงปลายอายุคตส. ประเด็นการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรดังกล่าว  มีส่งมอบสำนวนให้อัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณาดำเนินการฟ้องร้องต่อศาล  แต่ปรากฎว่า อัยการสูงสุดได้ตีกลับให้สอบเพิ่ม  จึงเป็นบทบาทของป.ป.ช.ในช่วงต่อมา โดยการคณะทำงานร่วมระหว่าง ป.ป.ช. และอัยการ แต่ก็ใช้เวลานานนับสิบปี  ป.ป.ช.จึงได้มีการสรุปสำนวนคดี  ตามที่อัยการสูงสุดให้สอบเพิ่ม 

โดย "สำนักข่าวอิศรา"  ได้มีการลงรายละเอียดเรื่องนี้เป็นรายงานข่าว  ระบุว่า  "เมื่อช่วงต้นปี 2560    คณะกรรมการ  ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายวัฒนา เมืองสุข   เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์   สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร และอดีตรัฐมนตรีหลายสมัย กับพวก  กรณีถูกกล่าวหาว่า ทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร โครงการที่บริษัท พาสทีญ่า ไทย จำกัด ดำเนินการ 

ตามมูลความผิด  ประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 148    ฐานผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือประหารชีวิตและมาตรา 149 ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต"


3. วันที่  9 พ.ค. 2561  นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด ในขณะนั้น ได้มีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องผู้เกี่ยวข้องการกระทำผิด โครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ  แยกเป็นรายกลุ่มดังนี้


กลุ่มที่ 1. นายวัฒนา เมืองสุข ฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 157, 83, 91

 

นับถอยหลัง ศาลฎีกาฯนัดชี้ชะตา วัฒนา เมืองสุข กับพวก คดีมรดกบาป ทุจริตบ้านเอื้ออาทร

 

กลุ่มที่ 2. นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และอดีตประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการระหว่างวันที่ 9 ก.ย. 2548 – 19 ก.ย. 2549 ฐ านเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ   เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือ มิชอบด้วยหน้าที่ เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด   หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและเป็นผู้สนับสนุนนายวัฒนาฯ   เจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ   ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่นตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 6, 11 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 83, 86, 91

 

กลุ่มที่ 3.  นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างที่พักอาศัย, นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง หรือกี้ร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย, นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่, น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง ลูกน้องคนสนิทเสี่ยเปี๋ยง, น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว พนักงาน บจก.เพรซิเด้นฯ, น.ส.รุ่งเรือง ขุนปัญญา พนักงาน บจก.เพรซิเด้นฯ, บริษัท เพรซิเด้น อะกริเทรดดิ้ง จำกัด ประกอบกิจการสีข้าวที่เสี่ยเปี๋ยงเป็นประธานกรรมการ, บริษัท พาสทิญ่า ไทย จำกัด ประกอบกิจการก่อสร้างที่พักอาศัย ผู้รับเหมาโครงการบ้านเอื้ออาทร, นายซาร์นน บินยาขอบ, นายโมฮ์ด ฮานาเปียร์ บิน อับดุล อาซิล, นายอาฮ์มัด บิน ฮารอน, นายศักดิ์สิทธิ์ หรือเดชวรกุล อลังการกุล, บริษัท นามแฟทท์คอนสตรัคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย, นายลาว ซี ฮุง, บริษัท ไทย เฉนหยู อินเตอร์เนชั่นแนลคอนสตรัคชั่นดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด, บริษัท พรินซิพเทคไทย จำกัด ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง และ น.ส.สุภาวิดา คงสุข กรรมการและผู้มีอำนาจทำการแทน บจก.ไทยเฉนหยู

 

ฐานสนับสนุนนายวัฒนา ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น และสนับสนุนนายมานะ ซึ่งเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148, 86, 91 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 6

 

นับถอยหลัง ศาลฎีกาฯนัดชี้ชะตา วัฒนา เมืองสุข กับพวก คดีมรดกบาป ทุจริตบ้านเอื้ออาทร

 

4.ภายหลังคดีบ้านเอื้ออาทรกำลังเข้าสู่กระบวนการไต่สวน  โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดไต่สวนพยานโจทก์นัดแรกในวันที่ 10 มิ.ย. 2562  และมีการไล่ลำดับการสืบพยานมาตามลำดับ จนเมื่อวันที่  26 ส.ค. 2563   มีการไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้าย  จำนวน 4   ปาก ประกอบด้วย  1. น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง ลูกน้องคนสนิทเสี่ยเปี๋ยง   2. หนึ่งในกรรมการบริษัท พรินซิพเทค ไทย จำกัด  และ  3. น.ส.สุภาวิดา คงสุข กรรมการผู้มีอำนาจทำการแทน บริษัท ไทยเฉนหยูฯ  และ  4.อดีตข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว

 

 

โดยภายหลังศาลไต่สวนพยานทั้งหมด 4 ปากเสร็จสิ้นแล้ว   ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้กำหนดนัดส่งเอกสารคำแถลงปิดคดี ภายในวันที่ 17 ก.ย. 2563 และนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 24 ก.ย.2563 เวลา 11.00 น.

 

นับถอยหลัง ศาลฎีกาฯนัดชี้ชะตา วัฒนา เมืองสุข กับพวก คดีมรดกบาป ทุจริตบ้านเอื้ออาทร

 

นับถอยหลัง ศาลฎีกาฯนัดชี้ชะตา วัฒนา เมืองสุข กับพวก คดีมรดกบาป ทุจริตบ้านเอื้ออาทร

 

นับถอยหลัง ศาลฎีกาฯนัดชี้ชะตา วัฒนา เมืองสุข กับพวก คดีมรดกบาป ทุจริตบ้านเอื้ออาทร