- 05 ต.ค. 2563
นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ประกาศเดินหน้าวิจารณ์สถาบันเบื้องสูง ลั่นถ้าม็อบลดเพดานต่อสู้ จะไม่ขึ้นเวทีปราศรัย
ถือเป็นปฏิกริยาทางการเมืองที่มีนัยสัมพันธ์อย่างแยกไม่ออก ระหว่างแกนนำคณะก้าวหน้ากับกลุ่มแนวร่วมประชาชนปลดแอก ที่วันนี้แทบจะรวมตัวเป็นเนื้อเดียวกับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ด้วยเนื้อหาการเคลื่อนไหวต่อการเรียกร้อง กดดันให้มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงโครงสร้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ระบุว่า ถูกฝ่ายอนุรักษ์นิยมตกขอบ กล่าวหาว่าเป็นพวกล้มล้างสถาบัน
( คลิกอ่านข่าวประกอบ : ปิยบุตร อ้างม็อบชูเป้าปฏิรููปสถาบันฯ โดนป้ายสีคิดล้มล้าง หนุนแก้รธน.รื้อระบอบประยุทธ์ )
ล่าสุด นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่ถูกดำเนินคดีในหลายข้อหา บิดเบือน ปลุกระดม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ร่วมกับแกนนำคนอื่น ๆ มีการโพส์ข้อความว่า "นี่พูดตรงๆ สำหรับคนที่บอกว่าถ้าม็อบพูดเรื่องเจ้าคนจะถอย ไม่มาร่วมชุมนุม ผมเห็นว่าไม่จริง ถ้าไม่พูดเรื่องเจ้าต่างหากคนจะหนี เพราะคนเขาที่มาชุมนุมเขาอยากฟัง อยากสู้เรื่องเจ้า คนเขาเห็นปัญหาที่แท้จริงแล้ว นี่วัดจากการชุมนุม 4-5 ครั้งล่าสุด
ดังนั้น พูดแบบตรงๆ ถ้าการชุมนุมลดเพดานเรื่องการพูดเรื่องเจ้าลง อย่าว่าแต่คนจะไม่ไปชุมนุมเลย ผมเองก็จะไม่ไปขึ้นเวทีพูดด้วย อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่าการเพิ่มการพูดเรื่องรัฐบาล เรื่องรัฐธรรมนูญ เรายังเน้นน้อยไป อันนี้เห็นตรงกัน ดังนั้นเราต้องพูดต้องเน้นเรื่องรัฐบาลเรื่องรัฐธรรมนูญให้มากขึ้น ชัดขึ้น โดยไม่ต้องลดเรื่องเจ้าลง ความท้าทายนี้คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคมนี้"
หลังจากก่อนหน้า นายอานนท์ มีคำชี้แจงสอดรับไปในทิศทางเดียวกับ นายปิยบุตร ว่า "ความจริง ทุกข้อเสนอของเวทีชุมนุมมันชัดเจนในตัวของมันเอง โดยเฉพาะข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ นักศึกษาเขาอุตส่าห์ซอยย่อยๆเป็นเรื่องๆที่ต้องปฏิรูป 10 ข้อ คือโคตรจะชัดเจน และตรงไปตรงมา
การที่มีบางคนอาจจะด้วยความเป็นห่วง หรือความกังวล มาบอกว่ามันไม่ชัดเจนหรือมันอันตราย นั่นเป็นเพราะเขามองไม่เห็นความเป็นไปได้ของข้อเสนอ จะด้วยความกลัวหรือประสบการณ์ตรงหรือกรอบคิดที่เขาประสบมาก็แล้วแต่ ผมขอขอบคุณและขอเรียนตรงๆว่า “เรา” ในฐานะของคนในขบวนครั้งนี้ มองเห็นความเป็นไปได้ และมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงมัน
เรามองเห็นปัญหา และพูดถึงปัญหาออกมาตรงๆ พร้อมวิธีแก้ปัญหาโดยย่อยเป็นข้อๆชัดเจน “เรา” จะเดินหน้าต่อไป และหวังว่าสักวันนึง เราจะทำให้ท่านๆที่กังวลมองเห็นความเป็นไปได้ และร่วมสู้ไปกับเรา
เราไม่ปฏิเสธข้อเสนอเฉพาะหน้า เช่น การเอาระบอบประยุทธ์ออกไปและร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้เป็นประชาธิปไตย และเราจะเรียกร้องในทั้ง 2 เรื่องอย่างเต็มที่ เพราะนั่นเป็นบันไดขั้นแรกๆของการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
การมองปัญหาต้องมองภาพรวม ไม่ใช่การเลือกแก้เพียงบางเรื่องแล้วทิ้งอีกเรื่องให้คาราคาซัง โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด ไม่เช่นนั้นปัญหาอื่นๆที่อาจแก้ได้ในครั้งนี้ก็จะวนลูปมาอีกครั้ง ไม่จบไม่สิ้น เราได้ปักหมุดการต่อสู้แล้ว และจะสู้ #ให้มันจบที่รุ่นเรา"