- 15 ต.ค. 2563
ยังคงดุเดือดในทุกช่วงเวลา สำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง "ม็อบ 14 ตุลา" ได้อ้างเป้าหมายดำเนินการ 3 เรื่อง แต่ทว่ากลับมีการแสดงพฤติกรรมคุกคาม ก้าวล่วง สถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งขวางทางและเหล่าผู้ชุมนุมจำนวนไม่น้อยยืนชูสามนิ้วระหว่างขบวนเสด็จฯ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าอารักขาอย่างเคร่งครัด แต่ทว่าเหล่าผู้ชุมนุมยังเข้ากดดันเจ้าหน้าที่ต่อเนื่องจนหลายต่อหลายครั้งการเจรจาไม่เป็นผล และเจ้าหน้าที่ต้องถอยร่นแนวกั้นความปลอดภัยเป็นระยะๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ เนื่องจากกลัวเป็นอันตรายทั้งสองฝ่าย
ยังคงดุเดือดในทุกช่วงเวลา สำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง "ม็อบ 14 ตุลา" ได้อ้างเป้าหมายดำเนินการ 3 เรื่อง แต่ทว่ากลับมีการแสดงพฤติกรรมคุกคาม ก้าวล่วง สถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งขวางทางและเหล่าผู้ชุมนุมจำนวนไม่น้อยยืนชูสามนิ้วระหว่างขบวนเสด็จฯ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าอารักขาอย่างเคร่งครัด แต่ทว่าเหล่าผู้ชุมนุมยังเข้ากดดันเจ้าหน้าที่ต่อเนื่องจนหลายต่อหลายครั้งการเจรจาไม่เป็นผล และเจ้าหน้าที่ต้องถอยร่นแนวกั้นความปลอดภัยเป็นระยะๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ เนื่องจากกลัวเป็นอันตรายทั้งสองฝ่าย
ล่าสุด พลตรี นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะได้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "เมื่อสถานการณ์มีแนวโน้มยกระดับการคุกคามพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์โดยมีความเสี่ยงว่าผู้ชุมนุมอาจบุกรุกพระราชฐาน ผมก็ต้องเตรียมพล ระดมประชาชนเพื่อพร้อมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์…แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนและผมทราบแน่ชัดว่ารัฐบาลเตรียมการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดแล้ว ผมก็ยกเลิกการเตรียมพล ผมจะดันทุรังไปเตรียมพล ระดมประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปกันทำไมล่ะครับ ผมประกาศยกเลิกนั้นมันก็ถูกต้องและสมควรอย่างยิ่งแล้ว
ดังนั้นท่านที่มาต่อว่า มาด่าว่า เปลี่ยนไป เปลี่ยนมา ไม่แน่นอน เอาแน่อะไรกับคนอย่างผมไม่ได้ ดังเช่น นาย อรุณ แก้วมาลา ฯลฯ ...ได้โปรดอย่ามาติดตามผมเลยครับ ผมรำคาญไอ้พวกเอาแต่วิจารณ์หน้าจอ ... ใครที่จะติดตามผม กรุณารู้จักคำว่า ‘ประเมินและประมาณสถานการณ์-ปรับเปลี่ยนและยกเลิกแผนการปฏิบัติ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์’ ด้วยครับ…ไม่ใช่ว่าเอาแต่ดันทุรังเตรียมพลจนกลายเป็นผู้กระทำผิดประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเสียเอง มันโง่มากนะครับ รบอย่างโง่ๆ มันก็พาคนไปตาย ไปสูญเสียเพราะความโง่ครับ
ผมขอประทานโทษที่จำเป็นต้องขอบล๊อคคนจงรักภักดี ดังเช่น นาย อรุณ แก้วมาลา ฯลฯ ที่มาระบายความโกรธแค้นผิดที่ผิดทางกับผมนะครับ ผมก็โกรธแค้นเหมือนท่าน แต่ผมเอาจริง ผมเตรียมพลเพื่อพร้อมเข้าเผชิญหน้า แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปในทางที่ไม่จำเป็นแล้ว ผมก็ประกาศยกเลิก...นี่แหละครับคือ ตัวอย่างของ ‘ประเมินและประมาณสถานการณ์-ปรับเปลี่ยนและยกเลิกแผนการปฏิบัติให้สอดคล้องกับสถานการณ์’ ครับ
รู้ไว้ด้วยครับ...ไม่ใช่เอาแต่ใช้อารมณ์ เอาแต่วิจารณ์ ด่าคนทำงาน คนทำจริงผ่านหน้าจอ ให้เสียกำลังใจกันอย่างนี้ มันใช้ไม่ได้ครับ กรุณาอย่าติดตามและไปให้ไกลๆตีนด้วย ผมต้องเผชิญหน้ากับอริราชศัตรู แล้วยังต้องมาเผชิญหน้าคนจงรักภักดีแบบ 'โง่ บ้า เซ่อ' อย่าง นาย อรุณ แก้วมาลา แล้ว บอกตรงๆว่ารำคาญมาก ขอประทานอภัยสาธารณชนทุกท่านที่ต้องระบายอารมณ์บ้างนะครับ"
Lazada จัดโปร จัดหนักลดทุกรายการ ลดสูงสุด 90%