- 20 ต.ค. 2563
ครม.มีมติเห็นชอบเปิดประชุมรัฐสภา 26-27 นี้ เพื่อหาทางออกของประเทศ
วันที่ 20 ตุลาคม 2563 มีรายงานว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้ออกพระราชกฤษฎีกา เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ในวันที่ 26-27 ตุลาคม 2563 เพื่อเปิดโอกาสให้มีการอภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติตามมาตรา 165 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อรับฟังความเห็นของสมาชิกรัฐสภาในการหาทางออกของประเทศ
โดยก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 08:30 น ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี กรณีมีการเสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาการเสนอให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ จะมีการหารือในที่ประชุมครม. หรือไม่ ว่า จากที่ตนเข้าร่วมประชุมกับนายชวนหลีกภัยประธานรัฐสภา พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ที่ประชุมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์มีความคิดเห็นตรงกันสมควรที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อพูดคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะมีการล่ารายชื่อเพื่อให้เปิดประชุมหรือไม่ แต่ก็มีทางออกอีกครั้งหนึ่ง และให้นายชวนทำหนังสือเสนอมายังครม. เพื่อขอความเห็นชอบ เปิดประชุมวิสมัญ เพื่ออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 165 โดย เมื่อวานนี้ นายชวนหลีกภัยได้รีบทำหนังสือ ส่งมายังนายกฯเพื่อให้ทันในการประชุมครม.วันนี้
เมื่อถามว่า ในที่ประชุมมีการกำหนดหรือไม่ว่าจะเปิดประชุมกี่วัน นายอนุชากล่าวว่า มติที่ประชุมเพียงยื่นมาแค่ขอเปิดประชุมรัฐสภาเท่านั้น ไม่ได้ระบุว่าเป็นวันไหนเพราะต้องมีขั้นตอน ในการออกพระราชกฤษฎีกาเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ซึ่งยังไม่ทราบขั้นตอนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งครม.จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใช้เวลากี่วัน
เมื่อถามว่า รัฐบาล ต้องการให้ที่ประชุมรัฐสภาคลื่คลายสถานการณ์ในประเด็นไหนบ้าง นายอนุชา กล่าวว่า ก็ต้องไปพูดคุยกันเรายังไม่ได้สรุปประเด็น ว่าเปิดประชุมแล้วจะพูดไปไหนบ้างจะคุยประเด็นใดบ้าง แต่ทุกปัญหาจะนำเข้าสู่ที่ประชุม
เมื่อถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมอาจจะยังไม่รอการประชุมของรัฐสภา เพราะมีการยื่นเงื่อนไข ให้ทำตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ภายใน 24 ชั่วโมงนี้ นายอนุชากล่าวว่า เป็นความเห็นที่แตกต่าง ยืนยันว่าความเห็นที่แตกต่าง จะต้องนำไปพิจารณาในสภา เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในเรื่องของรัฐธรรมนูญ ส่วนเรื่องอื่นๆเป็นเพียงข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ตนพูดในฐานะสมาชิกรัฐสภา ทั้งนี้ ในสังคมประชาธิปไตยการเรียกร้องเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าการบังคับหรือขู่เข็ญไม่น่าจะใช่เรื่องที่ถูกต้อง และบางเรื่องจุดยืนของแต่ละพรรคมีอยู่แล้ว เช่นต้องมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องสถาบัน ฉะนั้นจุดยืนแต่ละฝ่ายก็มี จึงอยากฝากถึงผู้ชุมนุมและนักศึกษาว่าสิ่งที่เราพยายามทำนั้นทำเพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่ทุกความเห็นจะต้องไปในทิศทางเดียวกันคงต้องมาพูดคุยหาทางออกร่วมกัน อย่างไรก็ตามทุกคนอยากเห็นว่าเวทีรัฐสภา สามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้หรือไม่ในฐานะนักการเมืองเราอยากทำตรงนั้นให้เกิดขึ้น ส่วนตัวคิดว่าอาจใช้เวลาพูดคุยในสภาประมาณ 1-3 วัน เชื่อว่าคงจะสะเด็ดน้ำแล้ว ว่าจะไปในทิศทางไหน
" แม้เวลาแค่ 1-2 ชั่วโมงเราก็เห็นตรงกันว่ามีค่าสำหรับการพูดคุยกันเพื่อหาทางออกร่วมกัน เราจะมีมติออกมาร่วมกัน ซึ่งนักการเมืองทุกคนก็อยากเห็นความสงบสุข"นายอนุชา กล่าว ส่วนหากการประชุมผ่านไปแล้วแต่ม็อบยังคงอยู่ก็ค่อยว่ากัน หาวิธีที่จะมีบทสรุปร่วมกันอย่างสันติวิธี
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการเสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อหาทางออกให้กับประเทศจะมีการหาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) หรือไม่ ว่า ถามซ้ำก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องพิจารณา
เมื่อถามว่าการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็จะไปรู้ได้อย่างไร
เมื่อถามย้ำว่าจะต้องกำหนดประเด็นที่จะหารือในที่ประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็แล้วแต่รัฐสภาจะพูดคุยกัน
เมื่อถามอีกว่ากลุ่มผู้ชุมนุมประกาศว่าหากไม่มีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กทม.ภายใน 24 ชั่วโมงจะมีบิ๊กเซอร์ไพร์ส พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็จะไปรู้หรือ
Lazada ยกขบวน ระเบิดราคา ลดกระหน่ำกว่าหนึ่งแสน รายการ สูงสุด 90%