- 20 ต.ค. 2563
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประเมินสถานการณ์ 10 ข้อ ม็อบเพิ่มระดับป่วน สถาบันเบื้องสูงถูกคุกคามหนัก พลังเงียบไม่ทำให้แกนนำชุมนุมยี่หระ
ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด จากรณีม็อบปลดแอก ประกาศกดดันให้รัฐบาล เร่งดำเนินการใน 3 ข้อเรียกร้อง ที่หมายรวมถึงเป้าประสงค์ให้มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง โครงสร้างสถาบันกษัตริย์ ที่หลายคนเห็นว่า เป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงการปกครอง ไปสู่ระบอบสาธารณรัฐ และปลดล็อคข้อกฎหมายต่าง ๆ เพื่อให้นักเคลื่อนไหวที่ถูกลงโทษ มีโอกาสกลับมาใช้อำนาจทางการเมืองได้ตามปกติ
ล่าสุด รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์แสดงความเห็นว่า " จากที่ได้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมประท้วงของกลุ่มหลายกลุ่มที่รวมตัวกันเรียกว่า คณะราษฎร 2563 ซึ่งต่อไปนี้จะขอเรียกว่า ฝ่ายม็อบ ผมมีข้อสังเกตุดังต่อไปนี้
1. มีการจับกุมดำเนินคดีแกนนำหลายคน แต่หลีกเลี่ยงที่จะใช้มาตรา 112 ทั้งที่หลายคนทำความผิดตามมาตรา 112 อย่างชัดแจ้ง แต่เลี่ยงไปใช้มาตรา 116 และมาตราอื่นๆแทน
2. การจับกุมแกนนำ เป็นการเรียกแขกให้มาร่วมชุมนุมเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกันการเข้ากระชับพื้นที่ เพื่อสลายม็อบ แม้ดูเหมือนเป็นความจำเป็น แต่ผลที่ ตามมาคือ ฝ่ายม็อบนำไปขยายผลทำให้มีคนมาร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ
3. ฝ่ายบ้านเมือง ตามฝ่ายม็อบไม่ทัน ในทุกเรื่องโดยเฉพาะการใช้ social media
4. ข้อเรียกร้อง และทิศทางของฝ่ายม็อบ เป็นไป และเปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกันกับ แนวทางของคณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล
5. การกระทำย่ำยีสถาบันพระมหากษัตริย์ และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งรัชกาลที่ 10 และรัชกาลที่ 9 ด้วยการใช้ถ้อยคำหยาบคาย ทั้งในการปราศรัย ในการชูป้าย ในการรวมกันตะโกนด่า และมีการโพสต์ข้อความใน social media ที่พยายามด้อยค่าผลงานของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และโพสต์ข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างโจ่งแจ้ง ทั้งหมดนี้ มีมากขึ้นทุกวัน และไปไกลมากจนอาจกู่ไม่กลับแล้ว
6. ใครที่ยังคงเคารพ จงรักภักดีต่อและแสดงการปกป้องพระมหากษัตริย์ จะถูกตราหน้าจากฝ่ายม็อบว่า ไม่ทันยุคสมัย กระทั่งงมงาย
7. ทฤษฎีที่ว่า สหรัฐอเมริกาอยู่เบื้องหลัง ความพยายามล้มรัฐบาลนี้ เพื่อต้องการรัฐบาลใหม่ที่ไม่ฝักไฝ่กับจีน ดูท่าจะมีความเป็นไปได้มากขึ้นทุกที ล่าสุดสังเกตุว่า สื่อต่างๆของอเมริกัน และที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของอเมริกา เช่น The Economist ของอังกฤษล้วนลงข่าวเป็นลบต่อรัฐบาล และเป็นคุณกับฝ่ายม็อบทั้งสิ้น สื่ออิสระต่างๆในประเทศที่ชัดเจนว่าเป็นแหล่งป้อนชุดความคิดให้เยาวชนคนรุ่นใหม่หลายแห่ง รวมทั้ง NGO ต่างๆ ได้รับเงินสนับสนุนจาก National Endowment for Democracy หรือ NED
8. ขณะนี้สภาวะเศรษฐกิจที่กำลังจะเริ่มดีขึ้น กลับต้องชะงักงันอีกครั้ง กิจกรรมต่างๆทางธุรกิจที่จะทำให้เกิดรายได้ต่อกันเป็นทอดๆ ต้องถูกระงับ ถูกเลื่อนออกไป ไม่มีกำหนด
9. สถานการณ์ขณะนี้ ฝ่ายบ้านเมืองกำลังตกเป็นรองฝ่ายม็อบ จนอาจถึงขั้นที่เอาไม่อยู่
10. ประชาชนฝ่ายที่เห็นม็ไม่ตรงกับม็อบ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ แม้มีจำนวนมากกว่า ยังคงเป็นพลังเงียบ ที่ออกมาอยู่ 2 ข้างทางตามเส้นทางเสด็จ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม เป็นเพียงมวลชนจัดตั้งของกลุ่มต่างๆ ซึ่งมีจำนวนไม่มาก ไม่มีพลัง และไม่มีผลกระทบต่อฝ่ายม็อบแต่อย่างใด
จากนี้ไปคาดว่าฝ่ายบ้านเมืองจะไม่กล้าสลายม็อบอีก แต่น่าจะมีการจับกุมดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมายต่อไป ยังไม่มีใครบอกได้ว่า ผลสุดท้ายของการชุมนุมจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ขอฟันธงว่า ในสถานการณ์ที่ยังไม่มีเงื่อนไขที่เพียงพอเช่นนี้ จะไม่มีใครคิดสั้นทำรัฐประหาร ค่อนข้างแน่
Lazada ยกขบวน ระเบิดราคา ลดกระหน่ำกว่าหนึ่งแสน รายการ สูงสุด 90%