- 30 ต.ค. 2563
สืบเนื่องจากการที่ รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกมาแสดงความเป็นห่วงแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบ ที่มีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับพิธีพระราชทานปริญญาบัตรให้กับบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระหว่างวันที่ 30-31 ต.ค.2563 นี้
สืบเนื่องจากการที่ รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกมาแสดงความเป็นห่วงแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบ ที่มีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับพิธีพระราชทานปริญญาบัตรให้กับบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระหว่างวันที่ 30-31 ต.ค.2563 นี้
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : อดีตรองอธิการบดีมธ. อดห่วงไม่ได้ม็อบนศ.เหิมหมิ่นพระเกียรติ ศิษย์เก่ารวมตัวรับเสด็จฯพิธีพระราชทานปริญญาบัตร )
ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมสภากลาโหม ถึงแนวทางการดูแลรักษาความปลอดภัยในงานพระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ภายหลังมีกระแสข่าวกลุ่มม็อบ เตรียมจัดเซอร์ไพร์ส ว่า ถือเป็นการปฏิบัติตามพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านที่ปฏิบัติมา โดยตลอดตามวัฒนธรรมประเพณีที่มีมายาวนาน คงไม่จำเป็นต้องสั่งการให้เตรียมการอะไรเพิ่มเติม เพราะเป็นระเบียบปฏิบัติที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่อยู่แล้ว เรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ เพียงแต่อย่าให้เกิดอันตรายกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด โดยเฉพาะการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอให้รับฟังความคิดเห็นของกลุ่มผู้ชุมนุม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ด้วยความเคาพเป็นการส่วนตัว นายอานันท์เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ตนก็รับฟังข้อเสนอมาโดยตลอด ทั้งทางสื่อโซเชียลและจากคำพูดที่ออกมา ตนได้ยินทุกอย่าง ขอให้เข้าใจซึ่งกันและกันด้วย โดยการเปิดรัฐสภาประชุมสมัยวิสามัญที่ผ่านมาตนก็รับฟังความคิดเห็นเรื่องความต้องการของกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่แล้ว ถือว่าจบ ส่วนขั้นตอนต่อไปก็เป็นการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาว่ามีประเด็นไหนที่เป็นไปได้ และประเด็นไหนที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งต้องยึดหลักการกฎหมายและรัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้อยู่ถึงปัจจุบัน ส่วนวันหน้าจะแก้ไขอย่างไรก็ค่อยว่ากันอีกครั้ง
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เสนอให้ทำการปฏิวัตินั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องไปถามคนพูด เราไม่เคยคิดเรื่องเหล่านี้ ต้องระมัดระวังสถานการณ์ไม่ให้บานปลายไปเรื่อยๆ ตนไม่ได้หมายความว่าจะมีการปฏิบัติหรือไม่มี เพียงแต่ไม่มีใครอยากทำ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีก็ตอบไปแล้วว่าไม่ทำปฏิวัติ
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่าการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติเป็นการซื้อเวลา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นี่คือกลไกลของรัฐสภาในการแก้ไขปัญหา เมื่อเราปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขต้องเคารพระบบรัฐสภา และคะแนนเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศ อยากให้ไปทบทวนตรงนี้ว่าควรเป็นอย่างไรต่อไป นอกจากนี้ยังมีอีก 2 พรรคฝ่ายค้านที่ไม่ได้การเข้าร่วม ตนถามว่าแล้วจะเข้าร่วมประชุมรัฐสภาทำไม ในเมื่อเป็นส.ส.ที่เป็นผู้แทนสะท้อนความคิดเห็นจากประชาชนทุกคนและทุกฝ่าย ไม่ใช่นำความคิดเห็นของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาเสนอกดดันและเร่งรัด ตนคิดว่าไม่ถูกต้อง นี่หรือประชาธิปไตยไทย เป็นเช่นนี้ใช่หรือไม่ ตนคงพูดได้แค่นี้ ไม่มีความคิดเห็นใดเพิ่มเติม ต้องดูที่เจตนา
เมื่อถามว่า นายไผ่ ดาวดิน แกนนำราษฎร ประกาศปิดถนนใตรภาพเพื่อชัตดาวน์กทม. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำได้ก็ทำไป แต่อยากให้สังคมช่วยกันดูแลตรงนี้ คนที่ได้รับผลกระทบไม่ใช่ตน แต่เป็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการจราจร และการส่งขนสินค้า ถ้าเป็นคนที่ดีก็ไม่ควรกระทำในพื้นที่ที่เป็นสาธารณะ เพราะทำให้เกิดปัญหา และทำให้เกิดความขัดแย้งต่อไปเรื่อยๆ ตนก็เข้าใจว่าการชุมนุมก็จะต้องทำเช่นนี้ ทุกคนต้องระมัดระวังซึ่งกันและกัน รวมถึงเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม จะมาบอกว่ากฎหมายไม่เป็นธรรมไม่ได้ หากไม่กระทำความผิดก็ไม่ถูกบังคับใช้ตามกฎหมาย “ผมขอร้องว่าอย่าทำให้เหตุการณ์บานปลาย ไม่ส่งผลดีกับใครแม้แต่คนเดียว มีแต่กระพือข่าวได้มากขึ้น แต่ประเทศชาติพังไปเรื่อยๆ ก็แล้วแต่จะคิดก็แล้วกัน”
แฟ้มภาพ