- 03 พ.ย. 2563
เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้ปล่อยตัวนายอานนท์ นำภา นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันชุมนุมที่ท้องสนามหลวง และถูกออกหมายจับในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และนายเอกชัย หงส์กังวาน และนายสุรนาท แป้นประเสริฐ ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันปทุษร้ายพระราชินี ที่ศาลออกหมายจับในข้อหาร่วมกันประทุษร้ายพระราชินี กรณีที่ร่วมกันปิดล้อมขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 แล้ว
ภายหลังถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ล่าสุดเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้ปล่อยตัว นายอานนท์ นำภา นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันชุมนุมที่ท้องสนามหลวง และถูกออกหมายจับในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และนายเอกชัย หงส์กังวาน และนายสุรนาท แป้นประเสริฐ ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันปทุษร้ายพระราชินี ที่ศาลออกหมายจับในข้อหาร่วมกันประทุษร้ายพระราชินี กรณีที่ร่วมกันปิดล้อมขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 แล้ว และศาลอาญายกคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ระหว่างการสอบสวน โดยศาลให้เหตุผลว่า การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องควบคุมตัว และให้ยกคำร้องฝากขัง และปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข
ทั้งนี้นายอานนท์ เปิดเผยหลังจากออกมาจากเรือนจำว่า เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นสังคมได้พิพากษาแล้วว่า กลุ่มมวลชนได้เดินทางมาอย่างถูกต้อง แม้ว่าที่ผ่านมาจะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำและได้ทราบข่าวภายนอกน้อยมาก แต่ยังได้เห็นภาพของการต่อสู้ที่มาไกลเหนือความคาดหมาย และทุกคนเป็นแกนนำของการเคลื่อนไหวตลอดมาที่มีอุดมการณ์เรียกร้อง 3 ข้อ ที่ถือว่าเป็นขั้นต่ำที่สุดในกระบวนการยุติธรรม
"ทุกคนได้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมแล้ว และต้องการที่จะต่อสู้ถึงความเหลื่อมล้ำในทุกๆ ด้าน และยังต้องต่อสู้ไปอีกเยอะ พร้อมยืนยันว่าเป็นการต่อสู้อย่างสันติวธิ ไม่ใช้ความรุนแรง ส่วนหากรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ในการรับฟังปัญหาอย่างจริงใจ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ต้องสร้างบรรยากาศในการแก้ปัญหาให้ดีขึ้นก่อน ไม่ใช่ออกหมายจับและหมายเรียกผู้ชุมนุมอยู่อย่างต่อเนื่อง และหากมีการชุมนุมที่ไหนอีก ก็พร้อมเข้าไปร่วมชุมนุมอย่างแน่นอน"
ขณะที่ นายสมยศ กล่าวว่า การดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำที่เรียกร้องไม่ได้มีไว้แก้ไข แต่มีไว้แก้แค้น แต่ก็ไม่มีผลอะไรกับการที่จะต่อสู้เพื่อประชาชน ที่ผ่านมาเสียงเรียกร้องจากมวลชนบนท้องถนน ได้ดังมาถึงห้องขัง และทำให้ได้ออกมานอกเรือนจำได้ในวันนี้ พร้อมยังเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะเรื่องการออกหมายจับที่เน้นการปิดกั้นเสรีภาพของประชาชนมากกว่า
ส่วน นายเอกชัย ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันประทุษร้ายต่อพระราชินี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นการสร้างสถานการณ์ให้มีความวุ่นวายเกิดขึ้น และตัวเองก็ไม่ทราบว่าจะมีขบวนเสด็จฯ ผ่านมาที่บริเวณที่ชุมนุมอยู่ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ขัดขวางแต่อย่างใด แต่มีการขอศาลออกหมายจับในข้อหาที่ร้ายแรง เพื่อที่จะนำสถานการณ์นี้ไปออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง
และเมื่อทราบว่ามีการออกหมายจับก็กำลังจะไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ดุสิต ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ แต่ตำรวจสน.ลาดพร้าว เข้ามาจับกลางทางก่อน พร้อมระบุว่าจะดำเนินคดีกับนายสมยศ ในข้อหาพาผู้ต้องหาหลบหนีอีก ซึ่งการเข้ามาจับนั้นก็เป็นการสร้างเงื่อนไขไม่ให้ประกันตัว
ภายหลังที่ทั้ง 4 คนได้รับการปล่อยตัว ได้ออกมาปราศรัยกับมวลชนที่มารอให้กำลังในอยู่ด้านหน้าเรือนจำ ริมถนนงามวงศ์วาน โดยกล่าวขอบคุณมวลชนที่มารอตอนรับ พร้อมระบุว่า จะทำการปิดล้อมสภา หากทางรัฐบาลยังไม่มีการทำตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ และจะเดินทางไปเยี่ยมนายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ แพนกวิ้น นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง และนายภาณุพงศ์ จานนอก หรือ ไมค์ ที่โรงพยาบาลพระรามเก้า หลังจากเข้ารักษาอาการบาดเจ็บในวันที่ถูกอายัดตัวมาที่ สน.ประชาชื่น
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีข้อเท็จจริงปรากฎจากพยานในจุดที่ขบวนเสด็จฯผ่าน ยืนยันถึงพฤติกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมได้เป็นอย่างดี พร้อมพิสูจน์ได้ว่าคำแก้ตัวของผู้กระทำผิดอย่าง นายเอกชัย หงส์กังวาน ที่เคลื่อนไหวในลักษณะรุนแรงอย่างต่อเนื่องมีความน่าเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไร
( คลิกอ่านข่าวประกอบ : เปิดความจริงม็อบคุกคามรถพระที่นั่ง จิตอาสาแพทย์ เห็นเหตุการณ์ ถ่ายคลิปเล่าหมด เอ่ยคับแค้นใจน้ำตาไหล )
>> Lazada ลดแหลก แจกกระจาย ถูกสุดในรอบปี! 11.11 ฟรีจัดส่ง ลดสูงสุด 90% <<