มายด์ยังยิ้มได้ มอบตัวปลุกม็อบสถานทูตเยอรมนี โดนแล้ว 4 คดีไม่หวั่น เดินหน้าม็อบ 3 นิ้วต่อไป

ถึงแม้จะมีความชัดเจนในระดับสำคัญ ภายหลังจากมีข้อมูลจากประเทศเยอรมนี  คำชี้แจงเรื่้องการให้ตรวจสอบสถานะและการใช้พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทย   ขณะที่    ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ   หรือ  “ดร.นิว”   นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ   คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์   University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กลับไปยังนายปิยบุตร แสงกนกกุล  และแกนนำคณะก้าวหน้า ตลอดจนกลุ่มม็อบที่มีการเคลื่อนไหวเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์  อย่างรุนแรงว่า  เป็นขบวนการแต่งนิทานใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยในต่างประเทศ

 

( คลิกอ่านข่าวประกอบ :  ดร.นิว ใส่ไม่ยั้ง ปิยบุตร ขบวนการม็อบ หลังเยอรมนีย้ำชัดกษัตริย์ไทย มิได้ทรงละเมิดกม. )   

ล่าสุด  น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ   มายด์   แกนนำกลุ่มมหานครประชาธิปไตย   พร้อมนายศุภณัฐ บุญสด   ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน  ได้เข้าพบ พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล รอง ผบก.อคฝ. ในฐานะ รรท.ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ  ตามหมายเรียก กรณีการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนีเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม  ที่ผ่านมา ในข้อหา   “ร่วมกันกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนโดยใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนในบ้านเมืองฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 โดยมี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ร่วมสอบปากคำ ด้วย

 

โดย  น.ส.ภัสราวลี    เปิดเผยว่า  ตอนนี้ตนมีคดีความทั้งหมด  4  คดี   หนึ่งในนี้เป็นหมายจับ 1 คดี   แต่ตนยืนยันว่าไม่มีความกังวลใจ เพราะรู้ว่านี่เป็นเกมส์ของรัฐบาลที่ต้องการตัดความสำคัญของเรา และยังยืนยันว่าจะเดินหน้าเรียกร้องกันต่อไป   จากนั้นให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมภายหลังเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนนาน 3  ชั่วโมง   ว่า   ตนให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา   พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหา  พิมพ์ลายนิ้วมือและให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ในการประกันตัว โดยตนจะขอให้การเป็นหนังสืออีกครั้ง 

 

ส่วนประเด็นเรื่องการเสนอจัดตั้ง  คณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ของรัฐบาล น.ส.ภัสราวลี   ระบุว่า  เป็นการซื้อเวลาอย่างที่เคยทำมา   และมองว่าการเข้าร่วมจะไม่ทำให้อะไรดีขึ้น   เพราะคนกลางอาจเก็บปัญหาไว้ใต้พรมต่อไปได้   ควรเอาคนที่เห็นต่างออกมาพูดคุยเหตุผลกันดีกว่า    เพราะไม่มีความจำเป็นต้องนำคนกลางเข้ามาลดแรงปะทะ  ประชาชนต้องการคนที่จะอำนวยความสะดวกในการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพ   หากรัฐบาลอยากรับฟังปัญหาจริงๆ ควรรับฟังจากประชาชนเอง อาจเปิดเวทีรับฟังความเห็นตามมหาวิทยาลัยแบบเดิม หรือเปิดเป็นคอลเซ็นเตอร์ รัฐบาลต้องมีทุนมากพอที่จะรับฟังความเห็น 

 

ทางด้าน นายศุภณัฐ  ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน   กล่าวว่า   เบื้องต้นเราให้การโต้แย้งข้อกล่าวหา เนื่องจากการชุมนุมดังกล่าวถือเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นการก่อความวุ่นวายแต่อย่างใด และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดฟังคำสั่งสำนวนของพนักงานสอบสวนว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่อีกครั้งในวันที่ 8 ธ.ค. 2563 นี้  

>> Lazada ลดแหลก แจกกระจาย ถูกสุดในรอบปี! 11.11 ฟรีจัดส่ง ลดสูงสุด 90% <<