- 11 พ.ย. 2563
จากกรณีที่ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ แกนนำม็อบคณะราษฎร ได้โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวพาดพิง จุฬาราชมนตรี ที่จัดงาน “รวมพลังมุสลิม ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ทำให้คนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามต่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก และได้ฝากข้อความต่างๆ นานา ไปถึงแกนนำม็อบปลดแอกรายนี้
จากกรณีที่ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ แกนนำม็อบคณะราษฎร ได้โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวพาดพิง จุฬาราชมนตรี ที่จัดงาน “รวมพลังมุสลิม ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ทำให้คนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามต่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก และได้ฝากข้อความต่างๆ นานา ไปถึงแกนนำม็อบปลดแอกรายนี้
อ่านข่าว - ชาวไทยมุสลิมฮึ่มหนัก "ไมค์" พาดพิงจุฬาราชมนตรี ตอกแรงอย่าก้าวก่าย..ดึงท่านไปยุ่งการเมืองล้มเจ้า
ล่าสุด อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ ได้เผยแพร่บทความในรูปถาม-ตอบเรื่อง “อย่าทำตัวไม่เป็นกลางเข้าข้างในหลวง!” ความว่า “เรียน ท่านจุฬาราชมนตรี ผมไม่ติติง หรือขัดแย้งในเรื่องความคิดทางการเมืองส่วนบุคคล แต่ท่านคือผู้นำศาสนา ท่านคือสาธารณชน ท่านคือผู้แทนของพระศาสดาเจ้า ท่านควรวางตัวเป็นกลาง ไม่ควรแสดงชี้ชัดว่าอยู่ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง” ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก ทวิตท้วงติงจุฬาราชมนตรี จัดงาน "รวมพลังมุสลิม ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์"
โดยอาจารย์แก้วสรร ได้เริ่มกล่าวว่า "ผมว่าท่านคิดแบบ “สถาบัน” ว่าการที่บ้านเมืองเราจะอยู่ด้วยกันโดยสงบสันติมีถูกมีผิดมีส่วนรวมรู้จักรับฟังประนีประนอมกันได้นั้น ทั้งสถาบันศาสนาและสถาบันกษัตริย์ล้วนเป็นองค์คุณที่เกื้อหนุนให้เราอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุขเป็นภราดรภาพ เมื่อมา พ.ศ.นี้ มีผู้เอาความจงเกลียดจงชังสถาบันกษัตริย์ปลุกปั่นลงไปในสังคม ท่านจุฬาฯจึงเห็นว่า นี่คือภัยที่พี่น้องมุสลิมไทยต้องช่วยกันปกป้องร่วมกับศาสนิกอื่น นี่ไม่ใช่การเลือกข้างทางการเมือง ในหลวงไม่ได้ตั้งพรรคการเมือง หรือทะเลาะกับใคร แต่เป็นการนำสถาบันศาสนามาช่วยสมทบรักษาชาติบ้านเมือง สมทบทางสติปัญญาและจิตใจให้หลุดพ้นจากความโฉดเขลาจงเกลียดจงชัง ด้วยองค์คุณของสถาบันศาสนา
ทั้งนี้ อาจารย์แก้วสรรกล่าวถึงกรณีไมค์ว่า ที่ชี้ไปนั้นมีนิ้วชี้นิ้วเดียว อีก 3 นี้วชี้มาที่ตัวเองทั้งนั้น มวลชนพวกนี้ปฏิเสธประโยชน์สาธารณะ ไม่เห็นหัวคนอื่น เหยียบหัวใจคนอื่น หูเบา ปฏิเสธความถูกผิดมาตั้งแต่เริ่มถือกำเนิดด้วยความเกลียดชังแล้ว งานนี้มองมุมหนึ่งก็เปรียบได้เหมือนหมางี่เง่า มาจาบจ้วงวิ่งเห่าเยี่ยวรดศาลพระภูมิกลางบ้านทั้งวันทั้งคืน พอเราไปไล่ มันก็บอกให้เราอยู่สงบๆ เป็นกลาง อย่าเข้าข้างศาล
เมื่อถามถึงพอตำรวจไปจับหมา เจ้าฮิวแมนไรท์ก็จะว่าเป็นคดีการเมือง ละเมิดสิทธิเสรีภาพทางความคิดความเชื่ออีกอยู่ดี อาจารย์แก้วสรร ได้ตอบกลับมาว่า "ถามมันดู ว่าฮิตเลอร์ควรมีสิทธิเสรีภาพปลุกปั่นมวลชนนาซีขึ้นมาทำลายโลกปกติไหม"
ต่อมา อาจารย์แก้วสรร ได้พูดถึง ปมคิดแบบนี้ นิสิตคณะสถาปัตย์ มช. ก็เคยเวียนหนังสือให้รื้อประติมากรรมในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ตั้งอยู่หน้าคณะ โดยอ้างว่าทำให้คณะดู “ไม่เป็นกลาง” มาแล้วว่า "มันชัดว่า โดยรากฐานความคิดนั้น เขาปักใจไม่ยอมรับว่ากษัตริย์เป็นสถาบันส่วนรวมไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นพอเห็นสำนักพระราชวัง ได้งบประมาณแผ่นดินจากสภาไปใช้ในราชการของสถาบันไม่ต่างจากกระทรวงทบวงกรมทั้งหลาย เขาก็ไม่เห็นว่างานสำนักพระราชวังเป็นราชการบ้านเมือง กลับเห็นเป็นการเบียดบัง จนต้องเดินร้อง ภาษีกู ภาษีกู ภาษีกู อยู่อย่างนั้น
นอกจากนี้ อาจารย์แก้วสรร ยังได้พูดถึงคำอธิบายทั้งหมดจึงฝังปมอยู่ที่ ความจงเกลียดจงชังสถาบันกษัตริย์ที่ได้ปลุกปั่นจัดตั้งกันเป็นมวลชนเรียบร้อยแล้วว่า "ครับ ถ้าเข้าใจแล้ว ก็จะเห็นหางยาวๆ ที่ซ่อนไว้ใต้วาทะกรรมอำพรางที่ออกจากปากคนพวกนี้หมดเปลือกเลย อันที่จริงมันอยู่คนละโลกไปแล้ว เราอยู่เป็นคนๆในชีวิตปกติ ส่วนเขาอยู่เป็นมวลๆในชีวิตปฏิวัติ คุยกันลำบาก
ทว่าเมื่อตั้งคำถามถึงว่า แล้วทำไมตูนีเซียถึงคุยกันจนสมานฉันท์กันได้ อาจารย์แก้วสรร ได้ตอบกลับว่า "บ้านเมืองเขาโดน “อาหรับสปริง” จนลุกฮือชิบหายแตกแยก ฟัดกันเป็น 10 ปีถึงมาได้คิดว่า เวลาเราหายไปไหน ทำไมเราพูดกันไม่รู้เรื่อง"
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึง ถ้างั้นบ้านเราคงต้องผ่าน “ไทยสปริง”ก่อน อาจารย์แก้วสรร ได้กล่าวว่า "ตอบได้เลยว่าไม่สำเร็จ ปริมาณและคุณภาพความเลวของผู้ปกครองยังมีระดับธรรมดาไม่เพียงพอต่อการปลุกระดมให้ได้ความจงเกลียดจงชังที่ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ จนต้องจัดอีเวนต์ มุ้งๆมิ้งๆ ขนลุกขนชันกันเองอยู่อย่างนี้
ปัญหาทางคุณภาพแบบนี้ วางแผนให้ประทะแล้วบานปลายไปถึง 6 ตุลาสอง ได้ยากมาก"
>> ช้อปออนไลน์ที่ Tesco Lotus ผ่านแอพ Lazada เก็บโค้ดลดเพิ่ม 11% คลิกเลย <<