- 27 พ.ย. 2563
สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ เกิดเหตุชุลมุนในม็อบคณะราษฎรในวันที่บุกไปที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ทว่ากลับมีเหตุยิงกันในกลุ่มผู้ชุมนุม กระทั่งในทวิตเตอร์ได้มีการเผยเหตุการณ์ในม็อบดังกล่าว ซึ่งคล้ายกับว่าทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้จับตัวคนก่อเหตุเอาไว้ได้และได้เค้นถามอย่างหนักถึงมูลเหตุจูงใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ เกิดเหตุชุลมุนในม็อบคณะราษฎรในวันที่บุกไปที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ทว่ากลับมีเหตุยิงกันในกลุ่มผู้ชุมนุม กระทั่งในทวิตเตอร์ได้มีการเผยเหตุการณ์ในม็อบดังกล่าว ซึ่งคล้ายกับว่าทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้จับตัวคนก่อเหตุเอาไว้ได้และได้เค้นถามอย่างหนักถึงมูลเหตุจูงใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
อ่านข่าว - การ์ดหนุ่มอ้วน โดนรุมอัดน่วม เล่าสาเหตุนาทีลั่นไกใส่อริในม็อบ SCB
ล่าสุด ที่ สน.พหลโยธิน นายพีระวุฒิ กุลอมรกานต์ อายุ 49 ปี บิดานายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่รับอนุญาต, และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร อดีตนักเรียนอาชีวะมีนบุรีโปลีเทคนิค พร้อมนายธนเดช ศรีสงคราม อายุ 35 ปี หัวหน้ากลุ่มอาชีวะมีนบุรี พานายภาสพงศ์ มามอบตัวกับ พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2 และตำรวจ สน.พหลโยธิน หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ยิงเข้าใส่นายประชากร ศักดิ์ศรีเท้า อายุ 20 ปี อดีตนักเรียนเทคนิคปทุมธานี จนบาดเจ็บ ภายหลังการประกาศยุติการชุมนุมที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา
นายพีระวุฒิ กล่าวว่า ตนตกใจมาก เมื่อทราบข่าวทางโซเชียลว่าลูกชายไปยิงการ์ดในม็อบ หลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลเสร็จ ก็เลยพาลูกมามอบตัวกับตำรวจ ยอมรับว่าไม่กังวล ขอให้ว่าตามหลักฐานและกฎหมาย ผิดก็คือผิด แมนๆ แบบลูกผู้ชาย ส่วนเรื่องการยิงตนตอบไม่ได้เพราะลูกชายยังมีอาการมึนงงที่ศีรษะอยู่ ถามว่าลูกชายตนเป็นสมาชิกการ์ดอาชีวะหรือไม่ ตนก็ทราบจากลูกชายว่าเป็นสมาชิกกลุ่มฟันเฟืองประชาธิปไตยส่วนเรื่องทางคดีหลังจากนี้ จะขอปรึกษากับทนายพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานทำเรื่องขอประกันตัวในชั้นสอบสวน
นายธนเดช กล่าวยืนยันว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นระหว่างบุคคล ไม่เกี่ยวกับเรื่องสถาบัน เรื่องม็อบ หรือการเมือง หรือการสร้างสถานการณ์ทั้งสิ้น แต่ขอให้ตำรวจได้ทำงานก่อนจึงจะมีความชัดเจนว่าเรื่องราวเป็นมายังไง อีกทั้งยังเหลือผู้ก่อเหตุอีกหลายคนที่ยังหลบหนี ยืนยันด้วยว่าพวกตนไม่ได้เป็นสายข่าวให้กับกลุ่มใดตามที่โลกออนไลน์เชื่อมโยงไป ทั้งนี้ ตนได้ทักแชตส่วนตัวไปขอโทษสถาบันคู่กรณีแล้ว แต่จะยอมรับหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของเขา ยืนยันด้วยว่าหากตนอยู่ในเหตุการณ์ด้วยก็จะไม่ให้เกิดเหตุนี้ขึ้น
นายภาสพงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้นตนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนสาเหตุเกิดจากตนมีปัญหาส่วนตัวกับคนเจ็บ เพราะถูกฝ่ายคู่กรณีมาโพสต์เฟซบุ๊กแขวะเกี่ยวกับความเห็นต่างเรื่องการจาบจ้วงสถาบันที่พวกตนไม่เอาด้วย และมีกลุ่มรุ่นพี่ตนไปปราศรัยที่ จ.ชัยนาท โดยพูดถึงกลุ่มฟันเฟืองประชาธิปไตย ทั้งนี้ วันเกิดเหตุพวกตนมาที่รัชโยธินเพื่อเป็นการ์ดดูแลมวลชน แต่ไม่ได้สวมปลอกแขนเพราะเข้ามาในฐานะประชาชน ยืนยันไม่ได้มีใครจ้างพวกตนมา เพราะขนาดเจ็บตัวก็ยังต้องออกเงินรักษาเอง
โดยก่อนหน้านั้น นายเกวลัง ธัญญะเจริญ หัวหน้าการ์ดภาคีประชาชน หรือเก่ง อาชีวะ และบก.เอ็ม ปลดแอก ได้เปิดแถลงชี้แจงกรณี ก่อเหตุปาระเบิดปิงปองและยิงปืนใส่กลุ่มการ์ดอาชีวะ หลังการชุมนุมของกลุ่มราษฎร ที่หน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์แยกรัชโยธิน เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา
นายเกวลัง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้ไม่หวังดีน่าจะมากกว่า 8 คนซึ่งได้วางแผนกันมาเป็นขั้นเป็นตอนอย่างดี เข้ามาก่อเหตุทำร้ายการ์ดอาชีวะ ซึ่งหลังก่อเหตุคนยิง ถูกรุมประชาทัณฑ์ และระหว่างนำส่งโรงพยาบาลมีคนได้สอบถามผู้ก่อเหตุที่ถูกทำร้ายว่ายิงปืนทำไม เจ้าตัวอ้างเป็นการ์ดอาชีวะ แต่ตนเองยืนยันว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่การ์ด เพราะทีมงานไม่เคยพบ และหากเป็นการ์ดจริงต้องสวมปลอกแขน แต่ความจริงคนยิงไม่ได้ใส่และไม่สวมเสื้อสถาบัน
"พวกเราเก็บกระเป๋าคนยิงส่งตำรวจได้ และไม่พบปลอกแขนการ์ดอาชีวะ มีเพียงเอกสารประจำตัวบัตรประชาชนเท่านั้น ซึ่งปลอกแขนที่ทำขึ้นมา เราจะมีสัญลักษณ์ที่รู้กันภายใน โดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อสร้างความกลมกลืนกับกลุ่มผู้ชุมนุม บางทีมอาจสวมริบบิ้น หรือสร้อย เพื่อเป็นจุดสังเกต"
นายเกวลัง กล่าวนายเกวลัง กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ยิงกันเกิดขึ้นเมื่อประกาศยุติการชุมนุมประมาณ 30-40 นาที โดยมีคนเดินเข้ามาหาเรื่องกลุ่มการ์ดอาชีวะ ที่นั่งทานข้าวหน้าร้านอาหารดัง ก่อนปะทะคารมกันก่อน แล้วชกต่อยกับการ์ดอาชีวะ จากนั้นคนร้ายก็เซตทีมกัน ขว้างระเบิดเข้ามา และกลุ่มผู้ก่อเหตุก็วิ่งถอยออกมา เพื่อเปิดแนวยิง ซึ่งเป็นการวางแผนกันมาอย่างดี กลุ่มผู้ก่อเหตุอื่นๆ หนีได้หมด มีเพียงคนตัวอ้วนที่ยิงและถูกรุมทำร้าย
"กรณีตำรวจออกมาชี้แจงว่าเป็นการทะเลาะกันเองระหว่างนักเรียนอาชีวะนั้น มองว่าไม่ถูกต้อง ถือเป็นการให้ร้ายต่อผู้ชุมนุม ตำรวจควรสืบสวนให้ชัดเจนก่อนจะให้ข่าวกับสื่อ และขอให้ตำรวจได้ทบทวนการให้ข่าวใหม่เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดของสังคม ส่วนกลุ่มน้องที่แฝงตัวเข้ามาก่อเหตุนั้น เรามีความชัดเจนว่าสถาบันไหน อยู่กลุ่มไหน ไม่เข้าใจว่าตำรวจรวบรวมข้อมูลได้ละเอียดแล้วหรือไม่ หากเป็นนักเรียนอาชีวะจริงและมีเรื่องส่วนตัวกัน เมื่อพบกันในงานก็ต้องทะเลาะกันแล้ว แต่กลับเป็นการรอให้คนบางตาก่อนจะก่อเหตุ หากเป็นเรื่องส่วนตัว คงไม่มีการวางแผนเป็นขั้นตอนเช่นนี้" นายเกวลัง กล่าว
สำหรับเรื่องสื่อมวลชนที่โดยผลักอกนั้น ผมต้องขอโทษแทนกลุ่มการ์ดด้วย เพราะสั่งให้เปิดวง เพื่อนำคนเจ็บออกมา เป็นความผิดพลาดที่ดันสื่อออกไป อาจเกิดจากอารมณ์ที่เราต้องการคุมมวลชนที่กำลังโมโห และคนที่ผลักอาจไม่เห็นบัตรสื่อ เพราะพื้นที่เกิดเหตุค่อนข้างมืด จึงอาจเกิดจากความเข้าใจผิดกัน
ทั้งนี้เหตุผลที่ต้องกันคนออกไปนั้น เพราะมีคนเหยียบปืนที่ตกบนพื้นข้างคนยิง จึงเกรงจะทำให้ปืนลั่น ยืนยันที่ผ่านมาเราได้ยุติความขัดแย้งระหว่างสถาบันอาชีวะด้วยกัน เพื่อมาดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุม โดยไม่ใช้ความรุนแรง เน้นสันติวิธีและการเจรจาเป็นหลัก โดยประสานงานกับตำรวจตลอดเวลา ยืนยันไม่มีการซื้อตัวการ์ดมวลชนเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล เพราะทุกคนมาด้วยใจ