"หมอเหรียญทอง"ของขึ้น ท้า สปสช.ฟ้องหมิ่นประมาท ขอโทษที่ต้องประจานรายวัน

"นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา"ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีใจความว่า 

หากการกล่าวหาว่าการยกเลิกคลีนิคคู่สัญญาของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช)ด้วยเหตุข้อกล่าวหาว่าทุจริตแล้วคลีนิคเดิมๆที่ถูก สปสช กล่าวหาว่าทุจริตนั้นได้แปรสภาพทางนิตินัย มีการเปลี่ยนชื่อสถานพยาบาลใหม่ เปลี่ยนชื่อผู้ประกอบกิจการและผู้ดำเนินการใหม่กลายมาเป็นคลีนิคใหม่ๆ โดยที่ในทางพฤตินัยก็รู้ๆกันอยู่ว่าคือคลีนิคเดิมๆซึ่งผมเรียกลักษณะการดำเนินการที่หมิ่นเหม่ว่าเป็นการฟอกทุจริตเช่นนี้ว่า 'ปาหี่ ศรีธนญชัย ยุค 4.0...เหล้าเก่าในขวดใหม่' แล้วเป็นการหมิ่นประมาท สปสช หรือบุคคลใดแล้ว ผมขอให้ สปสช หรือบุคคลเหล่านั้นฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทผมเลยครับ...ผมจะได้ขอให้ศาลมีการสืบพยานหลักฐานคลีนิคใหม่ๆทั้งหลายว่าคลีนิคใหม่ๆในทางนิตินัยจำนวนมากนั้น ในทางพฤตินัยแล้วก็คือคลีนิกเดิมๆที่อำพรางแปลงร่างแปลี่ยนสถานะด้วยสถานะการจดทะเบียนจัดตั้ง การขออนุญาตใหม่จริงตามที่ผมกล่าวหาหรือไม่...มันคือ 'ปาหี่ ศรีธนญชัย ยุค 4.0...เหล้าเก่าในขวดใหม่' หรือไม่...มันเป็นเรื่องจริงต่างหากเล่าครับ

การที่ สปสช กล่าวหาคลีนิคทั้งหลายว่าทุจริต แล้วยินยอมรับให้คลีนิคเหล่านั้นแปรสภาพทางนิตินัยเพื่อกลับมาเป็นคู่สัญญาใหม่ได้นั้น แสดงออกทางนัยยะได้ดังนี้

นัยยะที่ 1. คลีนิคเหล่านั้นไม่ได้ทุจริตจริงตามที่ สปสช กล่าวหา ดังนั้น สปสช จีงเห็นชอบให้กลับมาเป็นคู่สัญญาใหม่ได้...สปสช กล่าวหาคลีนิคว่าทุจริตอย่างซี้ซั้วมั่วซั่วจนเกิดการยกเลิกคลีนิคมั่วซั่วแล้วต้องยินยอมให้คลีนิคทั้งหลายได้กลับมาเป็นคู่สัญญาใหม่

นัยยะที่ 2. หากคลีนิคเหล่านั้นทุจริตจริงตามที่ สปสช กล่าวหา การที่ สปสช เห็นชอบให้คลีนิคที่ทุจริตได้แปรสภาพทางนิตินัยเพื่อกลับมาเป็นคู่สัญญากับ สปสช ใหม่ ย่อมเป็นการหมิ่นเหม่ประพฤติมิชอบที่มีลักษณะของการ'ฟอกทุจริต'ให้แก่คลีนิคที่ สปสช กล่าวหาครับ

ทำไม? ผมจึงเดือดร้อนนักหนาจากกรณีปัญหาของ สปสช...คำตอบ คือ

1. สปสช ซึ่งมีหน้าที่เป็นหน่วยกลาง(Clearing house)ในการเคลียร์หรือหักเงินค่าเหมาจ่ายรายหัวจากคลีนิคู่สัญญาเพื่อชำระค่ารักษาพยาบาลค้างจ่ายตามที่ สปสช ตกลงและดำเนินการให้แก่ รพ.ที่รับการส่งต่อ แต่ สปสช กลับละเลย ไม่ทำหน้าที่นั้น จนทำให้ รพ.มงกุฎวัฒนะในความรับผิดชอบของผมเดือดร้อนเสียหาย ในขณะที่ รพ.มงกุฎวัฒนะไม่มีสิทธิในทางกฎหมายใดๆในการฟ้องร้องเรียกเงินจากคลีนิคต่างๆ เพราะคลีนิกเหล่านั้นเป็นคู่สัญญากับ สปสช ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับ รพ.มงกุฎวัฒนะ...เงินค่ารักษาพยาบาลค้างจ่ายกับ รพ.มงกูฎวัฒนะนั้นจำนวนมากกว่า 13 ล้านบาท เป็นจำนวนมากนะครับ...ไม่ใช่แค่ 13 บาท...รพ.มงกุฎวัฒนะมีพนักงาน มีแพทย์ มีเจ้าหนี้บริษัทยา เวชภัณฑ์ ฯลฯ ที่ต้องจ่ายเขาอย่างตรงต่อเวลานะครับ

2. รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ได้เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในเครือข่ายคลีนิคที่ สปสช กล่าวหาว่าทุจริต ดังนั้น สปสช จะนำเงินค่ารักษาพยาบาลค้างจ่ายจากคลีนิคที่จะต้องจ่ายให้ รพ.มงกุฎวัฒนะไปร่วมชดใช้ความเสียหายจากการทุจริตของคลีนิคคู่สัญญาของ สปสช ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น...มันไม่ถูกต้องกับ รพ.มงกุฎวัฒนะที่ประพฤติดีนะครับ...สปสช กรุณาน้อมรำลึกถึงพระบรมราโชวาทของพระเจ้าอยู่หัวฯรัชกาลที่ 9 ในการส่งเสริมคนดี ควบคุมคนไม่ดีสิครับ แล้วจะรู้ว่า สปสช สร้างความเดือดร้อนอันเนื่องจากปัญหาของ สปสช กับคลีนิคเองแท้ๆ ให้กลายมาเป็นปัญหาของ รพ.มงกุฎวัฒนะ นั้นมันถูกต้องแล้วหรือ???

ผมขอประทานโทษสาธารณชนทั้งหลายถึงความจำเป็นที่ผมต้องขอประจาน สปสช รายวันครับ

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา

ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ

19 มี.ค.64 เวลา 11.01 น.

 

>>Lazada มอบดีลช้อปสุดพิเศษ สนใจคลิก<<