- 05 พ.ค. 2564
จากที่ก่อนหน้านี้ ส.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดประเด็นแฉยับว่า มีการแจกบัตรคิวกันที่คลองเตย ซึ่งทำให้กลายเป็นปริศนาว่า "บัตรคิวที่ว่านั้นอยู่กับใคร?"
จากที่ก่อนหน้านี้ ส.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดประเด็นแฉยับว่า มีการแจกบัตรคิวกันที่คลองเตย ซึ่งทำให้กลายเป็นปริศนาว่า "บัตรคิวที่ว่านั้นอยู่กับใคร?"
ล่าสุด น.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้แฉถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เธอได้รับการร้องเรียนมาจากชาวบ้านว่ามีทั้งการแจกบัตรคิวในชุมชนคลองเตย อีกทั้งยังมีชาวบ้านบางจุด โดนยกเลิกจุดที่เป็นสถานที่ตรวจหาเชื้อโควิดอย่างกระทันหันอีกด้วย ทำให้ชาวบ้านในจุดดังกล่าวต้องนั่งรถสองแถวรวมตัวกันไป รถคันนึงเกือบ 20 คนก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเข้าไปอีก
น.ส.กรณิศ กล่าวต่อไปว่า กรณีของการแจกบัตรคิวโควิดนั้น ทางสำนักงานเขตไม่ได้แจกด้วยตัวเองและไม่ได้ให้ประธานชุมชนเป็นผู้มารับด้วยตัวเอง แต่มีการให้ตัวแทนของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่มารับไป ก่อนจะจ่ายให้ผู้นำชุมชนเอง ซึ่งตนมองว่ามันเป็นการเล่นพรรคเล่นพวก และที่สำคัญคือมันกลายเป็นว่าไปสร้างคะแนนเสียงให้กับตัวเอง
"ช่วงเวลานี้มันไม่ควรเอาชีวิตของคนมาทำเช่นนี้ ทั้งที่นโยบายของนายกรัฐมนตรีต้องการตรวจเชิงรุกให้ได้จำนวนมากที่สุด เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดในพื้นที่เขตคลองเตย ในตอนนี้มันจะเกิดปัญหาในพื้นที่เนื่องจากเกิดความไม่เป็นธรรมกับการจัดระบบ เราอยากได้ความชัดเจน" ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าว
นอกจากนี้ น.ส.กรณิศ กล่าวอีกว่า ทั้งชาวบ้านและประธานชุมชนเขาร้องเรียนมาเพราะเขาอยากได้ความชัดเจน เพราะอย่างที่รู้กันว่า มีการจัดสถานที่เพื่อตรวจคัดกรองและฉีดวัคซีนโควิด แต่อยู่ดีๆ กลับมายกเลิกกระทันหัน ทั้งๆ ที่บางชุมชนมีประชาชนมาลงทะเบียนเกือบ 1,000 คน แต่พอถึงเวลาก็ยกเลิกไปหมดจะทำอย่างไร เขาก็ตอบชาวบ้านไม่ได้ เรื่องนี้ก็จะตกเป็นภาระกับผู้นำชุมชน เพียงแต่ต้องการความชัดเจนเท่านั้น อย่าเอาความเสี่ยงของประชาชนมาใช้วิธีการเล่นพรรคเล่นพวกแบบนี้
ทั้งนี้เมื่อเจาะประเด็นไปถึง เรื่องดังกล่าวที่คาดว่าอาจจะมีสาเหตุมาจากความไม่ลงรอยกันในเรื่องตัวบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ในเขตคลองเตยหรือไม่ ซึ่งทาง น.ส.กรณิศ ได้ลากไส้ต่อไปอีกว่า บุคคลดังกล่าวได้ประกาศตัวว่า เขาจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งตอนนี้เขาก็ไปเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. แล้วใช้อำนาจของตัวเองมาบังคับข้าราชการ
ด้วยการเอาคนของตัวเองมารับบัตรคิว ซึ่งตนมองว่ามันไม่แฟร์กับชาวบ้าน จึงได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ก่อนหน้านี้ตนเองก็ใจเย็นแล้ว แต่เหตุที่ทำให้ไม่พอใจอย่างมากก็คือ เมื่อ 2-3วันที่ผ่านมา ผู้นำชุมชนได้โควตาบัตรคิว 450 คน แต่อยู่ดีๆ คนของผู้มีอิทธิพลก็ไปรับบัตรคิวจากเขต ได้รับไป 450 บัตรคิว แต่เอาไปให้เขาแค่ 150 ใบ
เมื่อเป็นเช่นนั้น ทางประธานชุมชนเขาก็โวยกับตน ซึ่งมันทำให้เห็นว่าส่อทุจริต กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ที่มีการตรวจโควิดมันเลยมีปัญหาว่า "คุณแจกบัตรคิวไปที่ไหนบ้าง?" ช่วยประชาสัมพันธ์และประกาศให้ชัดเจนได้หรือไม่ว่าชุมชนไหนได้บ้างและส่วนที่เหลือไปอยู่กับใคร บางชุมชนเป็นชุมชนขนาดใหญ่ ซึ่งได้จำนวนบัตรคิวน้อยกว่าบางชุมชนที่ขนาดเล็ก
น.ส.กรณิศ ยังได้เล่าต่อไปอีกว่า ผู้มีอิทธิพลมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวนั้นมีบทบาทมากในพื้นที่ถึงขั้นฝั่งข้าราชการต้องซ้ายหันขวาหัน วันนี้ตนอยากให้ความจริงปรากฏว่าคนที่เอาบัตรไปแจกคือใครเป็นลูกน้องของใคร ซึ่งเมื่อไปถามประธานชุมชนได้ว่าเป็นคนของใคร ที่แน่ๆ ไม่ใช่ข้าราชการ ไม่ใช่สำนักงานเขต นี่คือข้อเท็จจริง ทำไมเขตไม่แจกเองหรือให้ผู้นำชุมชนไปรับบัตรคิวมาแจก
อย่างไรก็ตาม น.ส.กรณิศ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ผู้มีอิทธิพลคนดังกล่าวเป็นคนที่ใกล้ชิดกับรัฐมนตรีช่วยในพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เนื่องจากผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครส.ก.ในเขตคลองเตยก็มีคนจากหลายพรรค ในส่วนของพลังประชารัฐตนก็ยังไม่ทราบว่าจะมีการส่งผู้สมัครในนามพรรคหรือไม่อย่างไร เพราะฉะนั้น ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะเสนอตัวได้ทั้งนั้น ในเรื่องของการเมืองท้องถิ่นจะสังกัดพรรคหรือไม่ก็ได้ และในพื้นที่ก็มีหลายพรรคการเมืองที่ลงพื้นที่อยู่ในขณะนี้