- 03 พ.ย. 2564
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย เกมสะดุดซะแล้ว ปมร้อนฉ่าแก้กฎหมาย ม.112
มีประเด็นเรื่องราวให้ถกกันอย่างต่อเนื่องจริงๆ สำหรับการเมืองไทย ซึ่งภายหลังจากที่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2564 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น โดยมีสมาชิกพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมอย่างคึกคัก ภายใต้ชื่องาน พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน
โดยไฮไลท์สำคัญ และที่สร้างเซอร์ไพรส์ขึ้น ก็คือ การเปิดตัว อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย เข้ารับตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ของพรรคเพื่อไทย ว่ากันว่า การส่ง อุ๊งอิ๊ง เข้ามาคุมพรรคเพื่อไทย ของตระกูลชินวัตร เพื่อส่งสัญญาณว่า นายใหญ่ - นายหญิง ไม่ทิ้งพรรคเพื่อไทย และเพื่อให้เลือดหยุดไหล แก้ปัญหาส.ส.ทิ้งพรรค
การเข้ามาของ อุ๊งอิ๊ง ลูกสาวทักษิณ เรียกได้ว่าสร้างความคึกคักให้กับบรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นอย่างมาก ถึงกับวาดฝันไว้ว่า การเลือกตั้งส.ส.ที่จะเกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งชนิดแลนด์สไลด์แน่นอนและที่สำคัญ อุ๊งอิ๊ง ประกาศกลางวงประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทยในวันนั้นว่า "แม้จะไม่ใช่นักการเมือง แต่ขอมุ่งมั่นทำงานด้วยความตั้งใจจริงในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ในฐานะลูกของคุณพ่อ (ทักษิณ ชินวัตร) ที่ไม่เคยลืมบุญคุณแผ่นดินไทย ไม่เคยลืมพี่น้องคนไทยที่ไม่เคยลืมท่าน และคุณพ่อหวังว่าจะได้กลับมากราบแผ่นดินไทยอีกครั้ง และกราบผู้มีพระคุณ"
อีกด้านหนึ่งการส่ง อุ๊งอิ๊ง เข้ามาคุมพรรคเพื่อไทย ก็คาดหวังให้ช่วยดึงคะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่ จากพรรคก้าวไกลแต่ภายหลัง อุ๊งอิ๊ง เข้ารับตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ของพรรคเพื่อไทย ได้ไม่กี่วัน
ทว่าจู่ๆ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ก็ได้ออกแถลงการณ์ ลงนามโดย นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย อดีตเคยเป็นอัยการสูงสุด ซึ่งจากการสรุปประเด็นสำคัญของเนื้อหาแถลงการณ์ดังกล่าวก็คือ
1. อ้างถึงปัญหาการใช้กฎหมายอาญาดำเนินคดีเพื่อจำกัดความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างอย่างล้นเกิน โดยเฉพาะ ม. 112 กับ ม.116 (ยุยงปลุกปั่น) รวมทั้ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
2. การบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้ ทำให้ประชาชนสงสัยว่าไม่เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม
3. มีภาคประชาชนเรียกร้องและเสนอร่างแก้ไขข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พรรคเพื่อไทย ในฐานะที่มี ส.ส.มากที่สุดในสภาฯ พร้อมนำข้อเสนอเข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภา ทั้งเพื่อตรวจสอบระบบการทำงานของบุคคลในกระบวนการยุติธรรม ตรวจสอบการสั่งการโดยรัฐบาล และแก้ไขกฎหมาย รวมถึงระเบียบปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม
4. เป้าหมาย คือ เพื่อให้นักโทษทางความคิดได้รับการปล่อยตัว และไม่ให้เกิดนักโทษทางความคิดเพิ่มขึ้นอีก
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา ม. 112 บัญญัติไว้ว่า "ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี" ขณะที่ประมวลกฎหมายอาญา ม. 116 บัญญัติว่า "ผู้ใดกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอัน มิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต"
(1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กําลังข่มขืนใจ หรือใช้กําลังประทุษร้าย
(2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อ ความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ
(3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 7 ปี”
ทั้งนี้หลังจากการแถลงการณ์ดังกล่าว แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ก็ได้เปิดเผยว่า ได้สร้างความไม่พอใจให้กับ ทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างมาก เพราะเพิ่งเปิดตัว ลูกสาวคนเล็ก เข้ามาคุมพรรคเพื่อไทย เพื่อต้องการให้เลือดหยุดไหล ไม่ให้ส.ส.ย้ายพรรค เพื่อเป้าหมายสำคัญคือ การตั้งรัฐบาล แต่พอมาเป็นอย่างนี้ ก่อให้เกิดปฎิกิริยาต่อต้านการกลับสู่อำนาจของเพื่อไทย และ ทักษิณ
ขณะที่นักวิเคราะห์ทางการเมือง มองการเสนอแก้ไข ม.112 และ ม.116 ของพรรคเพื่อไทยว่า ทำให้เกมเปลี่ยน จะทำให้กลายเป็นว่า พรรคเพื่อไทย เดินเข้าสู่โหมดเดียวกันกับพรรคก้าวไกลนั่นคือ การต่อต้านสถาบัน ไม่เอา ม.112 ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้ประชาชนเกิดความเคลือบแคลงใจพรรคเพื่อไทย เป็นอย่างมาก และหากเป็นอย่างนี้ใครจะกล้าสนับสนุนพรรคเพื่อไทย
ด้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม. 112 ของตัวเอง หรือจะเข้าชื่อร่างเดียวกับพรรคก้าวไกล ว่า เรื่องนี้ต้องถาม นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่เป็นผู้คุมเสียงฝ่ายค้านในสภาฯ มองแนวโน้มในการผลักดันแก้ ม.112 อย่างไรบ้าง จะมีการติดขัดหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เรายังไม่ได้คุยกันจึงยังไม่รู้ท่าทีของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า จะดำเนินการอย่างไร
“เรื่องนี้ต้องใช้การอธิบายที่สูงกว่าทุกเรื่อง ต้องใช้เวลาในการอธิบายให้ทุกคนได้รู้ถึงเจตนาที่แท้จริง เชื่อว่าหากอธิบายมากๆ จนทุกคนเข้าใจ ทุกอย่างก็เป็นไปได้ แต่หากอธิบายน้อย สื่อสารน้อยอาจจะเป็นอุปสรรคหนึ่ง” นายสุทิน ระบุ
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย เสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ ม.116 ว่า พรรคพลังประชารัฐ มีจุดยืนชัดเจนเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ คือจะต้องดำเนินการเป็นไปตามที่พรรคได้ให้ไว้
“เกี่ยวกับเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องอยู่ต่อไป เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ได้สร้างประเทศชาติ พรรคพลังประชารัฐไม่เอาด้วยแน่นอน แต่เราจะรับฟังข้อคิดเห็นจากประชาชนทั่วไป เราจะช่วยเหลือประชาชนให้อยู่ดีกินดี ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ”
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นห่วงหรือไม่หากอภิปรายในสภาฯ ในเรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ห่วง ฝ่ายรัฐบาลจะต้องดำเนินการและทุกพรรคต้องร่วมกัน ซึ่งทางด้านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่จะเสนอแก้กฎหมาย 2 มาตรานี้เข้าสภาฯ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพียงเพราะผลประโยชน์ และสำหรับปกป้องการกระทำความผิดของบางกลุ่มหรือพรรคการเมืองบางพรรคเท่านั้น
“การกระทำเช่นนี้จะทำให้คนไทยที่รักสถาบันหูตาสว่างขึ้นว่า พรรคเพื่อไทยที่แท้ก็คืออีแอบที่เกี่ยวข้องเรื่องการคิดจาบจ้วงก้าวล่วงของม็อบสามกีบและคณะราษฎรตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างนั้นใช่ไหม” นายเสกสกลกล่าว
พร้อมกันนี้ นายเสกสกล ยังตั้งข้อสังเกตว่า การที่พรรคเพื่อไทยออกมาสนับสนุนเสนอแก้กฎหมาย ม.112 และ ม.116 นั้น อาจเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้อาจสนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหวม็อบ 3 นิ้วอยู่เบื้องหลัง แต่พอรู้ว่าจะเคลื่อนไหวไม่สำเร็จ จึงออกมาเปิดเผยตัวและใช้ความเป็นนักการเมือง ใช้สภาฯ เป็นช่องทางในการแก้ไขกฎหมายแทน
อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ตั้งแต่ได้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวนายใหญ่ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นประธานคณะที่ปรึกษาฯ จึงทำให้พรรคเพื่อไทยรีบเสนอแก้กฎหมาย เพื่อเป็นการเอาใจนายใหญ่ด้วยหรือไม่ หรือนายใหญ่สั่งมา ต้องกล้าเอาความจริงออกมาพูด
ข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ