จรุงวิทย์ ขอลาออก เลขาธิการ กกต. จ่อเข้ารับตำแหน่งใหม่ที่ไม่ธรรมดา

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเดิม จ่อเข้ารับตำแหน่งใหม่แทนบิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ที่ตอบปฏิเสธ

คืบคลานใกล้เข้ามาทุกทีแล้วกับการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล และ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลของแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศแล้ว ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ที่กำลังจะถึงนี้ ดังนั้นเชื่อว่า บรรดา เหล่าผู้สมัคร นายก อบต. และผู้สมัครสมาชิก อบต. จึงได้ลงพื้นที่หาคะแนนเสียงกันอย่างคึกคัก 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผู้สมัครนายก อบต. อ่อนน้อมถ่อมตน ก้มกราบชาวบ้าน 3 ครั้ง ขอคะแนนเสียง

หาเสียงเลือกตั้ง

ทว่าล่าสุดมีรายงานว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นเลขาธิการ กกต.ต่อประธาน กกต.แล้ว ซึ่งให้มีผลในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 หลังจากเมื่อต้นสัปดาห์ได้รับหนังสือจากทางสำนักเลขาธิการวุฒิสภาสอบถามความประสงค์ว่าจะรับตำแหน่งวุฒิสภา (ส.ว.) หรือไม่ และมีรายงานว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์จะแจ้งหนังสือตอบรับการเป็น ส.ว.กลับไปยังสำนักเลขาธิการวุฒิสภา ภายในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้

จรุงวิทย์ ยื่นลาออก เลขาธิการ กกต.


โดยการไปดำรงตำแหน่ง ส.ว.ของ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ พล.อ.อ.มนัส รูปขจร อดีตฝ่ายเสนาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายอนุมัติ อาหมัด ได้ยื่นลาออกจากการเป็น ส.ว. ซึ่งบุคคลที่มีชื่อในบัญชีรายสำรองที่จะได้เลื่อนขึ้นดำรงตำแหน่ง ในลำดับถัดไป 2 รายคือ นายสุวัฒน์ จิราพันธุ์ อดีตรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่อยู่ในรายชื่อลำดับที่ 6 และ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล หรือ บิ๊กช้าง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ชื่ออยู่ในบัญชีสำรองลำดับที่ 7

พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล หรือ บิ๊กช้าง
 

 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า พล.อ.ชัยชาญได้มีหนังสือแจ้งสํานักเลขาธิการวุฒิสภาไม่ขอรับตำแหน่ง ส.ว. ทางสำนักเลขาธิการวุฒิสภาจึงได้มีหนังสือสอบถามมายัง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีสำรองลำดับที่ 8


สำหรับประวัติของ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เกิดเมื่อวันที่ 25 พ.ค.2501 จบการศึกษารัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต โรงเรียนนายร้อยตำรวจ, นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง, รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (การปกครอง) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยประสบการณ์ทำงาน ปี 2550 เป็น รองเลขาธิการ กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กระทั่งปี 2561 ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการ กกต. ก่อนที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ขอลาออกเลขาธิการ กกต.

เลขาธิการ กกต.


อย่างไรก็ตาม หลัง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ตัดสินใจจะไปดำรงตำแหน่ง ส.ว.ก็ได้มีการแจ้งให้ กกต.ทราบก่อนจะยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นเลขาธิการ กกต. รวมระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนับตั้งแต่ 17 พฤษภาคม 2561 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 3 ปีเศษ ซึ่งถือว่าเป็นการพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ 5 ปี ตามสัญญาจ้างที่ พ.ร.ป.กกต.กำหนด

จรุงวิทย์ ยื่นลาออก เลขาธิการ กกต.