- 18 ก.พ. 2565
นาทีเดือด มิ่งขวัญ สะอื้น ประกาศลาออกจากส.ส. กลางสภาฯ รับไม่ได้ พรรคเศรษฐกิจใหม่ยัง หนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นาทีเดือด มิ่งขวัญ สะอื้น ประกาศลาออกจากส.ส. กลางสภาฯ นับเป็นช่วงนาทีที่คุกรุ่นอย่างมาก เมื่อนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ร่วมอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 โดยกล่าวถึงการบริหารงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วงท้ายของการอภิปราย นายมิ่งขวัญ ระบุว่า 8 ปีก็เกินพอ หลายคนบอกให้นายกฯ ลาออก นายกฯ อยู่มา 3 ช่วงเวลา ตั้งแต่รัฐประการ พ.ค. ปี 57
ช่วงหลังเลือกตั้ง มี.ค.ปี 62 และยุคโควิดปี 63 ถึงปัจจุบัน ถามคนไทยทั้งประเทศว่าจะ 8 ปีแล้วเรามีความสุขหรือความทุกข์ ตนเป็น ส.ส. บัญชี รายชื่อของพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่ผ่านมาตนมีเวลาหาเสียงไม่กี่ครั้ง และก่อนหน้านั้นประกาศจุดยืนว่า เราจะไม่ร่วมเป็นรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ ตนบอกแล้วว่าถ้าให้ตนพูดจะไม่พูดกลับไปกลับมา เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจะถือว่าตระบัดสัตย์ แล้วตนจะรักษาคำพูด
กระทั่งที่ห้องแถลงข่าวของรัฐสภาก็มีข่าวลือ ทุกคนขอให้ตนลงไปแถลงข่าว ตนก็ลงไปแถลงข่าวด้วยสีหน้าไม่ดี ซึ่งผลออกมาประชาชนคงรู้ดี ไม่งั้นตนมายืนโดดเดียวโด่เด่อยู่คนเดียว เพราะรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้ส.ส.ไม่ต้องทำตามมติพรรค ทุกคนอยากอยู่ตรงไหนก็อยู่ แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ทำให้เกิดศัพท์ขึ้นมาสองคำ คือคำว่างูเห่า และลิงกินกล้วย
"ถ้าพูดภาษาชาวบ้านว่าเกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ตนเพิ่งเข้าใจคำแสลงนี้ชัดเจน วันนี้ตนขออภิปรายและไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าท่านไปทำอะไร หรือให้ใครไปทำอะไร พวกเขาเหล่านั้นจึงเปลี่ยนจุดยืน สัญญาที่ตนให้ไว้กับประชาชนไม่สามารถทรยศได้ สองปีกว่าตนไม่มีความสุขกับการทำงาน" นายมิ่งขวัญระบุ
นอกจากนี้ ในช่วงตอนหนึ่ง นายมิ่งขวัญ ร้องไห้และพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น จน นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ถึงกับกล่าวว่า "ท่านมิ่งขวัญไม่ต้องร้องนะครับ ไม่ต้องเศร้าขนาดนั้น"
ก่อนที่ นายมิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า ตนขอขอบคุณประธานสภาฯ รองประธานสภาฯทั้งสองคน ขอบคุณทุกคะแนนเสียง ประเทศไม่ต้องเสียงบประมาณ ตนเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ ตนขอลาออกตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้เขาเลื่อนลำดับขึ้นมาและคงมีความสุขด้วยซ้ำ ตนขอยื่นใบลาออก ยอมสละความเป็น ส.ส. ให้มันจบ เพราะตนขอให้พรรคเศรษฐกิจใหม่ขับตนออกจากพรรคแล้ว เนื่องจากอุดมการณ์ไม่ตรงกัน
แต่ พล.อ.ประยุทธ์ หรือลูกน้องท่านไปทำอะไร พวกเราจึงเปลี่ยนจุดยืน และสิ่งสุดท้ายที่จะฝากถึงประชาชนคือตนยังคงทำกิจกรรมทางการเมือง และใช้องค์ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ทำงานให้ประชาชน สิ่งที่สำคัญที่สุดตนจะออกไปพิสูจน์ว่าแม้ตนจะไม่ได้เป็นรัฐบาล เรื่องความเหลื่อมล้ำจะถูกแก้ไขหรือไม่ และตนจะออกไปเตรียมตัวเพื่อเตรียมการเลือกตั้งครั้งต่อไป
"ผมจะฝากข้อความนี้ พล.อ.ประยุทธ์ หรือลูกน้องท่านไปทำอะไร เขาถึงเปลี่ยนจุดยืนและต้านกระแสสังคมขนาดนั้น และหรือลูกน้องท่านไปทำอะไร เขาถึงเปลี่ยนจุดยืน และต้านกระแสสังคมขนาดนั้น และที่จะฝากไปยังประชาชนไทยทุกท่าน ผมจะยังดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ผมจะใช้องค์ความรู้ความสามารถที่ผมมีอยู่ทำงานให้พ่อแม่พี่น้องประชาชน สิ่งที่สำคัญที่สุด ผมจะออกไปพิสูจน์ว่าแม้ผมไม่ได้เป็นรัฐบาล ความเหลื่อมล้ำจะถูกแก้ไขไหม" นายมิ่งขวัญ กล่าว
ขณะที่ นายศุภชัย ได้กล่าวว่า "ขอให้คุณมิ่งขวัญไปคิดให้ละเอียดรอบคอบหน่อยดีไหม เสียดาย เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย คนมีคุณภาพอย่างท่านได้ประกาศลาออกและยื่นหนังสือลาออกด้วย ขอให้ท่านโชคดี" ซึ่งนายมิ่งขวัญ กล่าวว่า "ผมคิดมารอบคอบแล้ว" จากนั้น ส.ส. ที่ห้องประชุมได้ปรบมือให้กำลังใจนายมิ่งขวัญ
ด้าน นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงขั้นตอนภายหลังจากนายมิ่งขวัญ ประกาศลาออกกลางสภาฯ ระหว่างการอภิปรายทั่วไป ว่า เมื่อสักครู่ ทางสำนักงานเลขาสภาฯ ได้รับหนังสือลาออกของนายมิ่งขวัญ เมื่อเวลา 17.32 น. โดยหลังจากนี้ ทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ นำเรียนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เพื่อแจ้งเรื่องนี้ว่ามีสมาชิกขอลาออก
ซึ่งนายมิ่งขวัญ ขอแจ้งความประสงค์ในการลาออกว่า ขอให้มีผลการลาออกจาก ส.ส. ในวันที่ 18 ก.พ. อย่างไรก็ตามกรณีนี้เป็นการลาออกจาก ส.ส. บัญชีรายชื่อ กระบวนการต่อไป ก็ต้องมีการเลื่อนลำดับบัญชีรายชื่อของพรรคเศรษฐกิจใหม่ ขึ้นมาแทน ภายใน 7 วัน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 105 วรรคสอง ทำให้ฝ่ายรัฐบาลมี ส.ส. เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียง ราว 261 เสียง หากไม่รวม 16 ส.ส. ทีม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
คลิปจาก มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์