- 13 พ.ค. 2565
"สกลธี" ทิ้งท้ายปราศรัยใหญ่ ชู"สกลธีโมเดล"สรุป 4 ข้อ ทำไมถึงต้องเลือกสกลธี เปิดนโยบายทำทันที ทำได้ "สกลธีโมเดล"
วันที่ 13 พ.ค.2565 นายสกลธี ภัททิยกุล ขึ้นเวทีปราศรัยขอบคุณทุกคนที่มาร่วมให้กำลังใจตนในวันนี้ ก่อนสรุปทิ้งท้ายว่า "ทำไมต้องเลือกสกลธี"
โดย สกลธี เปิดนโยบายทำทันที ทำได้ "สกลธีโมเดล" พร้อมเปิดตัวทีมพลังหนุนสำคัญบนเวที ประกอบด้วย
1.ดร.จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ ทีมที่ปรึกษาด้านไอทีและดิจิทัล
2.ฝันดี จรรยาธนากร ทีมที่ปรึกษาด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
3.ดร.นริศรา ลิ้มธนากุล ทีมที่ปรึกษาด้านการจราจรและการขนส่งสาธารณะ
4.กฤษณะ แก้วธำรงค์ ทีมที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว
5.เจตน์ โศภิษฐ์พงศธร ทีมที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมศิลปะและวัฒนธรรม
6.ณัฐรดา เลขะธนชลท์ ทีมที่ปรึกษาด้านการศึกษา
สกลธีกล่าวว่าตนคิดว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.มีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งครั้งนี้มีผู้สมัครผู้ว่าฯ ถึง 31 คน หลายคนก็มีการนำเสนอนโยบายที่ดีกับกทม. ก็เป็นเรื่องดีของคนกทม.
โดยตนเองก็เป็นคนหนึ่งที่อาสาเข้ามาในครั้งนี้ หลายท่านอาจจะรู้จักตนอยู่แล้ว หลายท่านก็ยังไม่ทราบ ซึ่งตนเคยเป็น ส.ส.เขตบางซื่อ พญาไท และเคยเป็นรองผู้ว่าฯกทม.อยู่ 4 ปี ก่อนจะมาลงสมัครผู้ว่าในครั้งนี้
สกลธีเผยว่า การที่ตนมาลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้เพราะตนอยากให้ กทม.ดีขึ้นกว่านี้ และคนก็หลงรักเมืองนี้ทั้งผู้คน สถานที่และอาหาร แต่ทั้งนี้ตนก็อึดอัดและคิดว่าทำไมกรุงเทพจะดีขึ้นกว่านี้ไม่ได้ ทั้งที่ทุกคนก็จ่ายภาษี
ซึ่งการที่ตนเข้ามาเป็นรองผู้ว่ากทม.ก่อนหน้านี้นั้น ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะทำให้กรุงเทพดีขึ้น ซึ่งตนก็ได้ดำเนินการเรื่องเรือไฟฟ้าที่วิ่งโดยสารที่คลองแสนแสบ และต้องทำให้เงินทุกบาททุกสตางค์ของคนกทม.ที่เสียภาษีเกิดประโยชน์มากที่สุดให้กับคน กทม.
รวมถึงเรื่องของการเก็บขยะของกทม.ด้วยว่าที่ผ่านมาล้มเหลว ซึ่งถ้าตนได้เป็นผู้ว่า กทม.จะให้เอกชนทำในเรื่องนี้แทน จะมีงบประมาณไปทำเรื่องอื่นๆด้วย โดยผู้ว่า กทม.ต้องหาเงินเป็นและต้องใช้เงินเป็นด้วย
ก่อนจบการปราศรัย "สกลธี" ได้สรุปให้ สำหรับท่านที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใคร เหตุผล "ทำไมถึงต้องเป็นสกลธี"
1.ท่านจะได้ผู้ว่าที่อยู่ในวัยทำงาน อย่างตนที่อยู่ในวัยที่มีไฟในการทำงาน
2.จะได้ผู้ว่าที่มีประสบการณ์ทำงาน ที่สามารถทำงานได้เลย
3.จะได้ผู้ว่าที่หาเงินได้ ใช้เงินเป็น และกระจายไปครบทุกเขตของกทม.และจะไม่มีปัญหาเรื่องเงินในการพัฒนากทม.ไม่พอ และที่สำคัญจะต้องมีความยั่งยืน
4.ได้ผู้ว่าอิสระที่ทำเพื่อคนกทม.อย่างแท้จริง จากฝีมือและความสามารถโดยไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมืองใดก็สามารถพัฒนากทม.ได้