- 02 ก.ย. 2565
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เปิดตัว กรณ์ จาติกวณิช นั่งหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคชาติพัฒนา หวังทำพรรคให้ยิ่งใหญ่เหมือนยุค"พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
2ส.ค.65 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา พร้อด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรรคกล้า ได้ร่วมกันแถลงข่าวทางการเมืองถึงทิศทางการทำงานการเมืองร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ณ บ้านเลขที่ 333 ราชวิถี 20 ดุสิต กทม.
โดยนายสุวัจน์ กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศครั้งนี้ถือว่าวิกฤตที่สุดตลอดระยะเวลาที่ทำงานมา ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์โควิด-19 ประกอบปัญหาสงคราม ส่งผลให้ปัญหาสินค้าราคาแพงและเงินเฟ้อตามมา พรรคชาติพัฒนาถึงตั้งเป้าจะหามาตรการและนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อกอบกู้วิกฤตในช่วงนี้
จึงต้องจับมือกันกับมือเศรษฐกิจที่เป็นมืออาชีพ เข้าใจบริบทปัญหาเศรษฐกิจของโลกและของประเทศ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้า จึงมองว่านายกรณ์ จาติกวณิช มีความเหมาะสมและมีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจโดยตรง จึงเชื่อมั่นว่านายกรณ์จะเป็นผู้ที่มากอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ โดยร่วมกันทำงานกับพรรคชาติพัฒนา แต่การจะแก้ไขวิกฤตปัญหาได้การเมืองต้องนิ่ง มีเสถียรภาพ ไม่มีความขัดแย้ง และมีความประนีประนอม ยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
วันนี้ถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวทางการเมือง ผสมผสานความเป็นมืออาชีพทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจไว้ด้วยกัน ตนจึงมั่นใจว่า ด้วยทีมเวิร์คและความเป็นมืออาชีพที่ร่วมกันทำงานของทั้งสองฝ่าย จะทำให้เกิดความแข็งแกร่งและทีมเวิร์คที่ดีทางการเมือง จะนำไปสู่ความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งการร่วมงานกับนายกรณ์ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกฎหมายและพร้อมรับทีมงานของนายกรณ์และพรรคกล้ามาร่วมงานด้วย
ส่วนจะดำรงตำแหน่งอะไรในพรรคชาติพัฒนานั้น ต้องเป็นตำแหน่งสำคัญที่มั่นใจว่าจะสามารถแก้วิกฤตเศรษฐกิจได้ และยังไม่ชัดว่าจะมานั่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของชาติพัฒนาหรือไม่ขึ้นอยู่กับจังหวะและปฏิทินการเมือง และการเมืองต้องหันหน้าเข้าหากัน และยังไม่ปิดโอกาสที่จะร่วมมือกับพรรคการเมืองอื่น ก่อนย้ำพร้อมสู้ทุกกติกา
ด้านนายกรณ์ กล่าวว่า พรรคการเมืองต้องมีความชัดเจนทั้งด้านหลักการและเป้าหมาย แต่ต้องมีความยืดหยุ่นในเส้นทางที่จะไปสู่เป้าหมายนั้น เป้าหมายของตนเองในฐานะนักการเมือง ที่ต้องการคนไทยอยู่ดีกินดีไม่เคยเปลี่ยน การจับมือกับนายสุวัจน์เป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก เพราะมีโอกาสที่จะช่วยกันผลักดันนโยบายสู่การปฏิบัติเพื่อประโยชน์ประชาชนได้ง่ายขึ้น
ส่วนความชัดเจนเรื่องสังกัดพรรคชาติพัฒนา นายกรณ์ บ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถาม หลังถามว่า ลาออกจากสมาชิกพรรคกล้าแล้วหรือไม่และได้มาสมัครสมาชิกพรรคชาติพัฒนาแล้วหรือยัง โดยชี้แจงเพียงว่า ต้องรอรายละเอียดและรอขั้นตอนตามกฎหมาย แต่ไม่ใช่การควบรวมพรรคชาติพัฒนาและพรรคกล้าเข้าด้วยกัน พรรคกล้าจะยังอยู่ในสถานะพรรคการเมือง แต่ทุกคนในพรรคกล้าเห็นตรงกันกับความร่วมมือครั้งนี้ แต่ในอนาคตจะมีคนจากพรรกล้าย้ายมาด้วยหรือไม่นั้น ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน
ทั้งนี้ นายกรณ์ ยังยืนยันว่า การตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนาไม่เกี่ยวกับสูตรคำนวณหา ส.ส.บัญชีรายชื่อจาก 500 มาเป็น 100 แต่ส่วนตัวมองถึงโอกาสที่จะได้ทำงานให้กับประชาชน
ประธานพรรคชาติพัฒนา ยังกล่าวถึงยุทธศาสตร์พรรคที่ทุกพรรค ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือปานกลางต้องปรับตัว หากไม่ปรับก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ เช่นวันนี้ที่พรรคชาติพัฒนาดึงนายกรณ์เข้ามา เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เหมาะสม แต่ขอให้กติกาเป็นธรรม และนำไปสู่การเลือกตั้งที่ทุกคนยอมรับด้วย
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainewsonline