- 17 ก.พ. 2566
เต้ มงคลกิตติ์ ถือฤกษ์ดี ยื่นหนังสือลาออก จากการเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อย่างเป็นทางการ บอกชัดเหตุผลในการตัดสินใจ
เต้ มงคลกิตติ์ ถือฤกษ์ดี ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นส.ส. บอกเหตุผลชัดๆ : ภายหลังจากที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคไทยศรีวิไลย์ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ประกาศขอลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผ่านทาง facebook fanpage มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (17 ก.พ.2566 ) อดีตส.ส.เต้ ได้เดินทางมายื่นเอกสารการลาออกที่อาคารรัฐสภา พร้อมกับชี้แจงลาออกในครั้งนี้โดยระบุว่า ตนประสงค์จะขอลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนับตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 โดยถือฤกษ์ในเวลา 09.09 น ในการยื่นหนังสือลาออก
หลังจากที่ตนได้ยื่นหนังสือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มรู้สึกโล่ง เนื่องจากในช่วงกว่า 3 ปี 10 เดือน 25 วันนี้ตนได้รับมอบอำนาจอธิปไตยมาจากประชาชนทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติหรือผู้แทนราษฎร ตนมีความปลื้มปิติและปลื้มใจที่ได้รับหน้าที่ประชาชนมอบให้ ตนก็ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และในช่วงระหว่างทำหน้าที่ก็รู้สึกว่าหน้าที่ของเราคือหน้าที่ที่จะเป็นปากเสียงให้กับประชาชนทั้งประเทศไม่ได้จำกัดจังหวัดตำบลอำเภอหรือหมู่บ้าน
ตนเองก็ถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว และขณะนี้เป็นช่วงที่ใกล้เวลาจะมีการยุบสภาอีกประมาณ 28 วัน ซึ่งตนมีภาระหน้าที่ที่จะนำลูกพรรคเดินหน้าหาเสียงเพื่อแสดงนโยบาย 13 ข้อไปยัง 77 จังหวัด และไม่อยากเบียดบังเวลาราชการไปลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาตนไม่ต้องการที่จะใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ ไปหาเสียง ต้องการใช้ความเท่าเทียมในการหาเสียง และเรียกร้องให้พรรคการเมืองใหญ่ๆที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็ไม่สมควรที่จะใช้สวัสดิการหรืออื่นๆ ที่เป็นราชการในการหาเสียงเพราะเป็นการเอาเปรียบพรรคอื่นๆ การลาออกในครั้งนี้ถือเป็นตัวอย่างเบื้องต้นและจะเป็นบรรทัดฐานในการเลือกตั้งในปี 2566
และเมื่อถึงเวลาเราก็ต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน ซึ่งอยากจะให้ประชาชนพิจารณาว่าพรรคการเมืองนี้มีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนหรือไม่ เราไม่สามารถไปจำกัดได้ว่าดีหรือไม่ดี ขอให้พี่น้องทั้ง 77 จังหวัด เป็นคนตัดสินและตนได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบแล้วที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชนในการใช้อำนาจอธิปไตยในการเลือกตั้งในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ที่จะถึงนี้
ส่วนตัวก็จะทำหน้าที่หัวหน้าพรรคในการรณรงค์หาเสียงในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ทั้งนี้อนาคตทางการเมืองของพรรคศรีวิไลย์ในการวางแผนหลังจากการเลือกตั้ง ระบุว่า นายมงคลกิตติ์ ตนเป็นได้ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ต้องดู ณ เวลาที่จำเป็นในขณะนั้น รวมไปถึงเงื่อนไขในแต่ละพรรคที่ได้เป็นรัฐบาล และไม่สามารถมั่นใจได้ว่าตนเองจะได้กลับมา ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนในการเลือกเข้ามาเป็นสภาผู้แทนราษฎร
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline