หมอพรทิพย์ รับลูกสาว ขอให้โหวต "พิธา" แต่บอกไปแล้วการเมืองคือการเมือง

"หมอพรทิพย์" รับลูกสาว ขอให้โหวต "พิธา" แต่บอกไปแล้วการเมืองคือการเมือง ติงด้อมส้มไม่ดูอะไร ไม่พอใจแม่ แต่ไปถล่มลูก

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2566 พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้กล่าวถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี รอบที่ 2 ในวันที่ 19 ก.ค. นี้ ว่า สว. ส่วนใหญ่มีจุดยืนมั่นคง เราไม่ได้มองแค่ว่ามาเพื่อเลือกนายกฯ แต่ในยามที่บ้านเมืองมีปัญหาเราต้องนึกถึงความถูกต้อง แผ่นดินต้องรอด ซึ่ง สว.ทุกคนขอขอบคุณกลุ่มประชาชนที่มาให้กำลังใจ เพราะบางครั้งการทำงานค่อนข้างยากต้องฟันฝ่าหนามแหลมคมสารพัดทุกอย่าง กำลังใจเหล่านี้จะทำให้พวกตนสามารถผ่านมันได้

 

หมอพรทิพย์ รับลูกสาว ขอให้โหวต พิธา แต่บอกไปแล้วการเมืองคือการเมือง

เมื่อถามถึงการพิจารณาโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 ก.ค. หมอพรทิพย์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ยืนยันปิดสวิตช์ตัวเองตั้งแต่ตอนแรก โดยเห็นด้วยในหลักการว่า สว.ไม่ควรมีอำนาจในการเลือกนายกฯ และเป็นสิ่งที่สส. อยากให้เป็น โดยก่อนเลือกตั้ง สส.บอกให้พวกเราปิดสวิตช์ แต่เมื่อมีการเลือกตั้งกลับมีการเปลี่ยนหลักการมาเรียกร้องให้พวกเราร่วมโหวตให้ ซึ่งตนได้คุยในหลักการว่าหากยอมเปลี่ยนหลักการมาโหวตให้เสียงข้างมาก แต่อย่างน้อยต้องมีความถูกต้อง คือเอาการแก้ ม.112 ออกไป เพราะไม่ใช่เรื่องปากท้องประชาชน และตนจะยินดีโหวตให้ 


แต่มีความชัดเจนว่าพรรคก้าวไกลไม่ยอมเอาออก และยังดันออกมาข้างหน้า ซึ่งจากการให้สัมภาษณ์ของพรรคก้าวไกลหลายคน โดยเฉพาะเลขาธิการพรรค แม้จะไม่แตะลงในรายละเอียด แต่ยังมีการแถไปว่า สว.มีเรื่องอื่น ตนขอบอกว่า สว.มีเรื่องเดียวและไม่ใช่เรื่องใหญ่ คือเรื่องความมั่นคง เพราะเขามุ่งสู่สิ่งสุดท้ายคือการทำลาย ดังนั้นตนจึงขอไปอยู่ในหลักการเดิมคืองดออกเสียง แต่ไม่ใช่ไม่กล้า ตนยึดหลักการเสมอว่าเมื่อตัดสินใจไม่ใช้สิทธิตัวเองก็จะไม่ใช้ ครั้งที่แล้วเขาขอโอกาสให้ใช้เราก็ให้โอกาส แต่เขาไม่ได้ทำตามที่บอกจะมากล่าวหาว่าขี้ขลาดก็ยอม เพราะคนเราต้องมีหลักการไม่เหมือนพรรคก้าวไกลที่กลับไปกลับมาตลอด


ส่วน สว.ท่านอื่นนั้นตนไม่ทราบ แต่สำหรับตนขอปิดสวิตช์ไม่ว่าจะเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่เพราะตนไม่ชอบบุคคลเหล่านี้ แต่ต้องการยืนยันว่าเราไม่มีอำนาจเลือกตำแหน่งนี้

 

หมอพรทิพย์ รับลูกสาว ขอให้โหวต พิธา แต่บอกไปแล้วการเมืองคือการเมือง

ไม่ต้องรอพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) ว่าตนจะโหวตให้หรือไม่ เพราะตอนนี้การกระทำหลายอย่าง รวมทั้งหลังจากวันที่โหวต หมอโดนกระทบจากด้อมส้มทั้งหลายคุกคามทั้งตัวเอง และลูก ซึ่งไม่ใช่ส.ว.คนเดียวที่โดน แล้วอยู่ๆจะมาบอกว่าเลือกพรรคผมเถอะ แบบนี้ไม่ใช่ประเทศไทยที่สงบสุข ฉะนั้น เราคงไม่สามารถให้ความเห็นชอบได้โดยไม่ลังเล หรือต้องคิดเหตุผลอะไร


เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกล ระบุว่า การงดออกเสียงของสว.ไม่ใช่การปิดสวิตช์ที่แท้จริง พญคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า เราไม่เคยเจอที่เล่นกันผ่านสื่อ ทำไมไม่พูดมาตรงๆ เช่น นายพิธา ทำไมไม่มาคุยกับหมอ ทำไมส่งคนอื่นมาคุย และการคุยก็เป็นการยืนยันว่าไม่ยอมแก้ ดังนั้น จะมาบอกเหตุผลต่างๆนานามันไม่ใช่ ตนมองว่าทั้งหมดอยู่ที่การกระทำ พรรคก้าวไกลโดยเฉพาะนายพิธา ได้ทำให้เห็นแล้วว่าสิ่งที่เขาต้องการคืออะไร ปัญหาปากท้องประชาชนไม่ใช่สิ่งที่เขาเลือกเป็นอันดับหนึ่ง และเหมือนเขาไม่สนใจตำแหน่งนายกฯ ทั้งที่เราก็บอกแล้วว่าอยากให้เขาทำหน้าที่นี้


เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลบอกว่าแม้จะลดเพดานเรื่องมาตรา 112 สว.ก็จะไม่เลือกให้อยู่ดี หมอพรทิพย์ กล่าวว่า หมอใช้คำว่า "แถ "เพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ และจะตอบแต่แบบนี้

 

หมอพรทิพย์ รับลูกสาว ขอให้โหวต พิธา แต่บอกไปแล้วการเมืองคือการเมือง


เมื่อถามว่าที่บอกว่าถูกคุกคามในส่วนของลูกสาวโดนคุกคามอย่างไรบ้าง หมอพรทิพย์ ได้กล่าวว่าในความเป็นจริงเราคงรู้ว่าสภาพการใช้สื่อโซเชียลสามารถล้างสมองปลุกระดมจนเปลี่ยนไป จากสภาพคนใกล้ชิดที่พบคือลูกเรียกคนเป็นแม่ว่าคุณ ทำนองเดียวกับที่เกิดขึ้นในครอบครัวตน แต่ก็ไม่ว่าอะไร แต่ด้อมส้มก็ไม่ดูอะไรเลย ลูกสาวตนชอบพรรคก้าวไกล แต่เวลาเข้าไปถล่มมันคิดว่าจะไปด่าแม่ แต่กลับไปด่าลูก อย่างนี้หรือจะให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ที่สำคัญพรรคก้าวไกลไม่เคยห้าม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ เคยมาคุยกับตน และยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมได้


ส่วนในเรื่องความสัมพันธ์กับลูกสาว ในช่วง 2-3 วันนี้ ยังไม่มีโอกาสได้คุยกัน เพราะเขาอยู่ในเมือง แต่คงไม่มีปัญหาอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความรักของแม่ที่มีต่อลูก


เมื่อลูกสาวเคยขอให้ตัดสินใจให้มาช่วยโหวตนายพิธาหรือไม่ หมอพรทิพย์ ได้ยอมรับว่าเคยขอ แต่ตนบอกว่าการเมืองคือการเมือง