อี้ แทนคุณ ซัด พิธา รู้ว่าขาดคุณสมบัติยังจงใจฝ่าฝืนกฎหมายเชื่อกุนซือ

จากกรณี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล วัย 42 ปี ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ สส. แล้วเมื่อ 19 ก.ค. 2566 จนกว่าจะมีคำวินิจจัยคำร้องกรณีนายพิธา ถือหุ้นสื่อ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 

นอกจากนี้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภายังมีมติ 395 ต่อ 312 เสียง งดออกเสียง 8 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง เกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธาให้พิจารณาโหวตเลือกนายกฯรอบสอง โดยนายวันมูหะมัดนอร์ได้สั่งปิดการประชุมเมื่อเวลา 17.09 น.

 

ล่าสุด นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ  พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกครั้ง และศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 7:2  รับคดีที่ กกต.ร้องให้วินิจฉัยคุณสมบัติ สส.  โดยระบุว่า เกิดจากเหตุเพราะนายพิธา ขาดธรรมาภิบาลในตัวเอง รู้ทั้งรู้ว่าห้ามถือหุ้นสื่อ ไอทีวียังคงสถานะความเป็นหุ้นสื่ออยู่ แต่ก็จงใจฝ่าฝืนกฎหมาย  หรือเป็นเพราะเชื่อกุนซือด้านกฎหมายคนเดียวกันที่เคยแนะนำนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จนเป็นเหตุให้เจริญรอยตามกันใช่หรือไม่ ทั้งการสิ้นสมาชิกภาพ ถูกตัดสิทธิ และถูกดำเนินคดีอาญามาตรา 151 อันเป็นวิบากกรรม ที่นายพิธาทำตัวเองล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับใครคนอื่นเลย

 

นายแทนคุณ ระบุด้วยว่า หากจะโทษจงโทษตัวเองที่ไม่รอบคอบพอและตีความกฎหมายตามใจตนเอง และควรหยุดนำมาสร้างวาทกรรมโจมตียุยงปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังกันในหมู่ประชาชน เกลียดชังองค์กรอิสระและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาตามที่กฎหมายบัญญัติไว้  ควรให้สติให้ปัญญาในการเคารพกฎหมาย ไม่ใช่เป็นฝ่ายออกกฎหมายแต่กลับทำลายกฎหมายเสียเอง ขอย้ำว่าประเทศไทยเป็น"นิติรัฐ" ไม่ใช่"นิติด้อมส้ม" มีกฎหมายไม่ใช่กฎหมู่  ขอให้หยุดโทษคนอื่นให้คนเข้าใจผิดเพื่อสร้างความแตกแยกในสังคม และพิจารณาตนเองว่าทำผิดอะไรบ้าง