- 25 ก.ค. 2566
"เรืองไกร" ขอศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบ "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" กรณีร้องให้ศาลชี้ขาด ปมเสนอชื่อ "พิธา" โหวตนายกฯ รอบ 2 เป็นญัตติซ้ำ เสนอโดยชอบหรือไม่
จากกรณีที่ ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมติที่ประชุมรัฐสภา ใช้ข้อบังคับห้ามเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โหวตเป็นนายกรัฐมนตรีซ้ำ พร้อมกับขอให้ชะลอการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปก่อน
ล่าสุดวันที่ 25 ก.ค. 2566 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 มาตรา 159 และมาตรา 272 นั้น
กรณีที่เกิดขึ้นมาจากความเห็นของนักกฎหมายจำนวนมาก และผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นด้วย แต่หากพิจารณาจากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 แนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 กรณี จึงมีประเด็นที่ควรขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบ ดังนี้
ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหน้าที่และอำนาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 มาตรา 159 และมาตรา 272 โดยการกล่าวรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 หรือไม่ อย่างไร
นายเรืองไกร กล่าวว่า การกล่าวอ้างถึงรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 มาตรา 159 มาตรา 272 นั้น เป็นกรณีเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ใช่หรือไม่ รัฐสภาต้องเป็นผู้ทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ ใช่หรือไม่ (ตามแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564)
ผู้ตรวจการแผ่นดินมีปัญหาเกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา หรือไม่ อย่างไร ผู้ตรวจการแผ่นดินมีสิทธิจะขอให้ศาลดำเนินการตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 ได้หรือไม่
การมีมติให้ดำเนินการดังกล่าวของผู้ตรวจการแผ่นดิน ชอบหรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญหลายมาตรา กฎหมายหลายฉบับหลายมาตรา ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญย่อมรู้เอง เพราะเคยวินิจฉัยกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้วินิจฉัยหลายครั้งแล้ว (เช่น ตามคำวินิจฉัยล่าสุด 7 ครั้ง ตามคำสั่งล่าสุด 7 ครั้ง) วันนี้ ตนจึงได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ตรวจสอบว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหน้าที่และอำนาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 มาตรา 159 และมาตรา 272 โดยอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 หรือไม่ อย่างไร