- 13 ก.พ. 2567
ข่าวดี "อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร" ยันเห็นรายชื่อ "นายทักษิณ ชินวัตร" ในลิสต์พักโทษ เผยกวาดบ้านจันทร์ส่องหล้ารอรับพ่อแล้ว
13 ก.พ. 67. ที่ พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์ประเด็น นายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า นายทักษิณ ชินวัตร จะได้รับการพักโทษ นั้น ทางกระทรวงยุติธรรม หรือกรมราชทัณฑ์ มีการประสานขั้นตอนมาแล้วหรือยัง
โดย น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ตนเพิ่งทราบว่ามีรายชื่อของ นายทักษิณ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งทางครอบครัวทราบหลักการอยู่แล้วว่าหากถึง 6 เดือน คุณพ่อ จะได้รับการพักโทษ แต่ยังไม่เคยได้รับการคอนเฟิร์มโดยรายชื่อ ซึ่งนับเป็นข่าวดีของเช้านี้
ส่วนประชาชนมีโอกาสจะได้เห็นตัวเป็นๆ ของ นายทักษิณ หรือไม่นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าวันที่ออกจาก รพ. จะเป็นอย่างไร เพราะยังไม่ได้คุยกัน คาดว่าจะได้คุยกัน 1-2 วันนี้
ทั้งนี้ เมื่อ นายทักษิณ กลับบ้าน และได้พัก ตนคิดว่านายทักษิณ น่าจะอยากออกมาข้างนอก เพราะอยู่ในห้องมานานเป็นเวลา 6 เดือน โดยตอนนี้ยังไม่มีอาการป่วยเพิ่ม หลังจากออกมาแล้วอาจมีการนัดแพทย์ไปรักษาที่บ้าน และได้เตรียมทำความสะอาดบ้านจันทร์ส่องหล้าไว้แล้ว
ส่วนตามกรอบเวลา 6 เดือน นายทักษิณ จะได้รับพักโทษในวันที่ 18 หรือวันที่ 22 นั้น ตนไม่แน่ใจว่านับแบบไหน ต้องถามกรมราชทัณฑ์อีกครั้ง สำหรับหลักเกณฑ์การได้รับการพักโทษของ นายทักษิณ มีการประเมินจากหลายหน่วยงาน ไม่ใช่หน่วยงานใดงานหนึ่ง มีอีกหลายคนได้รับพักโทษ ไม่ใช่แค่คุณพ่อคนเดียว
ส่วนกังวลหรือที่มีหลายกลุ่มคัดค้านการพักโทษ นายทักษิณ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นายทักษิณ ทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองมากมาย ที่ผ่านมาได้รับทั้งความยุติธรรม และไม่ยุติธรรม ปนกันไป อย่างไรก็ตาม ครอบครัวยืนหยัดให้กำลังใจ วันนี้จะได้รับการพักโทษ และกลับบ้าน ถึงเวลาแล้วที่คุณพ่อจะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข ส่วนประโยชน์ที่เคยทำไว้ ก็หวังว่าหลังจากนี้หากคุณพ่อเดินทางไปที่ไหนก็จะมีคนรอต้อนรับ
ส่วนเรื่องที่มีกลุ่มบุกป่วนขบวนเสด็จกลัวว่าสถานการณ์จะบานปลายหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จุดยืนพรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนความรุนแรง แต่สนับสนุนสิทธิเสรีภาพประชาธิปไตย คนไทยต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย หากไม่เคารพจะอยู่ยาก ทั้งนี้ ต้องคุยอย่างเป็นระบบ บุคคลสำคัญทุกพระองค์ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัย มีคนดูแลอยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าว ตนอยากให้คุยกันเป็นระบบ คุยในสภาอย่างมีวุฒิภาวะ ไม่ใช้ความรุนแรง