- 19 พ.ค. 2567
“ทนายด่าง” ตั้งคำถามหน้าเมรุเผาศพบุ้ง ยัน ได้รับข้อมูลบันทึกการรักษาบุ้ง 5 วันก่อนดับ จาก รพ.ธรรมศาสตร์ฯ พบมีการใส่ท่อช่วยหายใจในหลอดอาหาร
"ทนายด่าง" เตรียมขอประวัติรักษา รพ.ราชทัณฑ์ "บุ้ง ทะลุวัง" 5 วันก่อนดับ
“ทนายด่าง” ตั้งคำถามหน้าเมรุเผาศพบุ้ง ยัน ได้รับข้อมูลบันทึกการรักษาบุ้ง จากรพ.ธรรมศาสตร์ ระบุมีการใส่ท่อช่วยหายใจในหลอดอาหาร
"นายกฤษฎางค์ นุตจรัส" ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แถลงคำชี้แจงหน้าเมรุเผาศพ "น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม" หรือ "บุ้ง ทะลุวัง" หลังกรมราชทัณฑ์ออกเอกสารยืนยันการรักษา ให้การช่วยเหลือตามมาตรฐานการรักษาวิชาชีพของแพทย์ โดยแพทย์ดำเนินการใส่ท่อช่วยหายใจ ได้นวดหัวใจ พร้อมให้ยากระตุ้นหัวใจ ยากระตุ้นความดันโลหิตตามมาตรฐานการช่วยชีวิตขั้นสูง และทีมบุคลากรทางการแพทย์ให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงเวลา จนส่งตัวผู้ป่วยถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
โดยหลังจากที่ นายกฤษฎางค์ อ่านคำแถลง ชี้แจงของกรมราชทัณฑ์เสร็จ ก็ได้ฉีกกระดาษที่เป็นเพลสของกรมราชทัณฑ์ทันที
จากนั้น นายกฤษฎางค์ ได้นำบันทึกการรักษาของ น.ส.เนติพร จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มาอ่านเพื่อชี้แจงว่า น.ส.เนติพร หมดสติในเวลา 06.23 น. ซึ่งขณะนั้นไม่มีสัญญาณชีพ และมีการทำ CPR
จนกระทั่งถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ในเวลา 09.30 น. และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยสาเหตุการเสียชีวิตจากการชันสูตรพลิกศพ ลงความเห็นว่า
- ภาวะหัวใจล้มเหลวโดยเฉียบพลัน
- ภาวะสมดุลเกลือแร่ผิดปกติ
- ภาวะหัวใจโต
ส่วนผลการตรวจหาสารพิษอยู่ระหว่างการรอผล
ทั้งนี้ จากข้อมูลการรักษาจากเวชระเบียนที่ได้รับจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ระบุว่า เจ้าหน้าที่รับบุ้ง มารักษาในเวลา 09:30 น. ขณะนั้นไม่มีสัญญาณชีพ คลื่นหัวใจแรกรับไม่มีคลื่นไฟฟ้าของหัวใจข้างล่าง (Asystole) ไม่มีเสียงลมในปอด แต่กลับได้ยินที่บริเวณลิ้นปี่ และพบท่อช่วยหายใจอยู่ในหลอดอาหาร
นอกจากนี้ รวมถึงค่าคาบอนไดอ๊อกไซด์ ที่วัดการหายใจ ( ETCO2) เท่ากับ 0 มิลลิเมตรปรอต ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจใหม่ที่ห้องฉุกเฉิน และหลังใส่ท่อช่วยหายใจใหม่ ก็ได้ยินเสียงลมที่ปอดทั้ง 2 ข้าง และค่าคาบอนไดอ๊อกไซด์ ที่วัดการหายใจ ( ETCO2) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10 มิลลิเมตรปรอต
ทนายกฤษฎางค์ ได้ตั้งข้อสงสัย ถึงการกู้ชีพตั้งแต่ที่บุ้ง ล้มและไม่มีสัญญาณชีพ เมื่อเวลา 06.23 น. เป็นเวลา 3 ชั่วโมง กว่าจะมาถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ และการใส่ท่อช่วยหายใจในหลอดอาหาร เป็นสิ่งที่พบได้ แต่ตามมาตรฐานวิชาชีพ การตรวจสอบเพื่อยืนยันตำแหน่งท่อช่วยหายใจทันทีเป็นเรื่องพื้นฐาน
อย่างไรก็ตาม ดังนั้น ทนายความและครอบครัวจึงตั้งคำถามกับทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบุ้ง ตั้งแต่การดูแลก่อนการเสียชีวิต การกู้ชีพ ไปจนถึงการส่งตัวเพื่อรักษาต่อ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ทราบถึงมาตรฐานของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ถูกคุมขังคนอื่นที่ต้องใช้โรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่เกิดเหตุในลักษณะเช่นเดียวกับบุ้งอีก โดยสิ่งที่ตนและครอบครัวบุ้ง สงสัยนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
นอกจากนี้ ส่วนตัวได้สอบถาม รมว.ยุติธรรม ว่ารถฉุกเฉินที่นำตัวบุ้ง ไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ภายในมีแพทย์และผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์อยู่ในรถคันดังกล่าวอีกด้วย
ขณะที่ พรุ่งนี้ (20พ.ค.) เวลา 09.30 น. ทีมทนายความ และกลุ่มเพื่อนจะเดินทางไปยังโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อขอประวัติการรักษาบุ้ง 5 วัน ก่อนเสียชีวิต หลังถูกเลื่อนการส่งเอกสารมาถึง 7 ครั้ง
“ดังนั้น ทนายความและครอบครัวจึงตั้งคำถามกับทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน.ส.เนติพร ตั้งแต่การดูแลก่อนการเสียชีวิต การกู้ชีพ ไปจนถึงการส่งตัวเพื่อรักษาต่อ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ทราบถึงมาตรฐานของโรงพยาบาลราชทัณฑ์
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ถูกคุมขังคนอื่นที่ต้องใช้โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไม่เกิดเหตุในลักษณะเช่นเดียวกับ น.ส.เนติพร อีก ทั้งนี้ สิ่งที่ตนและครอบครัวน.ส.เนติพร สงสัยนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง” ทนายกฤษฎางค์ กล่าว
ทนายกฤษฎางค์ กล่าวด้วยว่า ตนพูดคุยกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่า รถฉุกเฉินที่นำตัว น.ส.เนติพร ไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ภายในมีแพทย์และผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์อยู่ในรถคันดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ทีมทนายความและกลุ่มเพื่อนจะเดินทางไปยังกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอประวัติการรักษา น.ส.เนติพร 5 วันก่อนเสียชีวิต หลังถูกเลื่อนการส่งเอกสารมาถึง 7 ครั้ง ในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) เวลา 09.30 น.