สิวไม่มีหัวเกิดจากสาเหตุใด อะไรคือต้นตอ พร้อมวิธีรักษา

สิวไม่มีหัวบนใบหน้า ปัญหาที่ส่งผลเสียต่อความมั่นใจ

 

 

สิวไม่มีหัวหนึ่งในปัญหาความไม่มั่นใจที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศและทุกช่วงวัย และถึงแม้ว่าจะเป็นสิวที่บวมแดงแบบไม่มีหัว แต่ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาเพราะอาจนำไปสู่การลุกลาม และอาจกลายเป็นสิวอักเสบไม่มีหัวที่รักษาได้ยาก ทั้งยังมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย 

เพื่อช่วยให้จัดการกับสิวชนิดนี้ได้ง่ายขึ้น ในบทความนี้ เรามีสาเหตุของการเกิดสิวไม่มีหัวและวิธีรักษาให้ได้ผลมาบอกกัน หากพร้อมแล้ว ไปอ่านข้อมูลต่าง ๆ กันได้เลย!

 

สิวไม่มีหัว คืออะไร? ลักษณะเป็นแบบไหน

สิวไม่มีหัว (Papules) เป็นสิวที่เกิดขึ้นที่ใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากสิวชนิดอื่นก็คือ ลักษณะของสิวไม่มีหัวจะแข็งเป็นไตและบวมแดงมองเห็นได้ชัด รวมทั้งยังเกิดขึ้นได้หลายขนาด 

โดยที่ในช่วงแรกนั้น สิวไม่มีหัวจะไม่มีหนองหรือจุดดำเหมือนสิวอุดตัน แต่เมื่อปล่อยทิ้งไว้โดยที่บริเวณรอบ ๆ สิวจะสะสมของสิ่งสกปรกก็อาจส่งผลต่อการระคายเคืองจนกลายเป็นหนอง ยิ่งบีบ แกะ เกาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เกิดการติดเชื้อและกลายเป็นสิวอักเสบได้ และหากไม่ได้รับการรักษาก็มีโอกาสที่จะเกิดรอยแผลเป็นจากสิวนั่นเอง

ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวไม่มีหัวที่หลายคนยังไม่รู้

 

 

ด้วยความที่สิวเม็ดสีแดงไม่มีหัวสามารถเกิดได้ทุกช่วงวัย และยังมีลักษณะของสิวที่นูนบวมตามปกติ ไปจนถึงสิวอุดตันไม่มีหัว ทำให้ปัจจัยของการเกิดสิวไม่มีหัวนั้นมีอยู่หลายสาเหตุด้วยกัน ดังนี้ 

• กรรมพันธุ์ : หากคนในครอบครัวเคยเป็นสิวอักเสบไม่มีหัวมาก่อน ก็มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้กับลูกได้เช่นกัน
• การสะสมของแบคทีเรีย : หากผิวมีการสะสมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย ก็จะส่งผลต่อการเกิดสิวไม่มีหัวได้
• การอุดตัน : เมื่อเกิดการอุดตันในรูขุมขนและต่อมไขมันใต้ชั้นผิว จะทำให้เกิดการอักเสบและสะสมของสิ่งแปลกปลอมในรูขุมขน จนเกิดเป็นก้อนสิวเม็ดใหญ่ไม่มีหัวได้
• ระดับฮอร์โมน : สำหรับสิวไม่มีหัวในวัยรุ่นนั้น ส่วนใหญ่มาจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังทำงานผิดปกติ
• เพศหญิง : เพศหญิงมีโอกาสที่จะเป็นสิวนูนแดงไม่มีหัวได้มากกว่า โดยเฉพาะช่วงที่มีประจำเดือนและตั้งครรภ์
• ความเครียด : เมื่อเกิดความเครียดภูมิคุ้มกันร่างกายและผิวจะอ่อนแอ ยิ่งผิวมีการสะสมของสิ่งสกปรกก็ยิ่งกระตุ้นต่อการเกิดสิวได้ง่าย

บริเวณที่มักเกิดสิวไม่มีหัวบนใบหน้า

สิวไม่มีหัวมักเกิดขึ้นบนใบหน้ามากกว่าบริเวณอื่น โดยบริเวณที่มักเกิดมากที่สุดบนใบหน้ามีอยู่ 4 จุดด้วยกัน คือ หน้าผาก, คาง, จมูก และแก้ม ซึ่งเป็นบริเวณที่มักจะถูกการสัมผัสด้วยมืออยู่เป็นประจำ ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรกจนเกิดเป็นสิวแข็งบวมแดงไม่มีหัว รวมทั้งยังกลายเป็นสิวอุดตันไม่มีหัวที่แก้ม 

ขณะที่บางคนก็มีสิวผดไม่มีหัวขึ้นเป็นจำนวนมากที่หน้าผาก นอกจากการใช้มือสัมผัสแล้วการใช้เครื่องสำอางแล้วไม่ล้างออกให้สะอาดก็ยังส่งผลต่อการสะสมของสิ่งสกปรก กลายเป็นสิวไม่มีหัวบนใบหน้าได้เช่นกัน

วิธีรักษาสิวไม่มีหัวให้กลับมากระจ่างใสแบบไม่ทิ้งรอย

 

วิธีรักษาสิวอุดตันไม่มีหัว สามารถรักษาให้หายได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับขนาดของสิวและการอักเสบของสิวไม่มีหัว โดยทั่วไปแล้วมี 3 วิธี ดังนี้

ฉีดยา

สำหรับคนที่เป็นสิวไม่มีหัวที่เริ่มอักเสบและส่งผลให้เกิดอาการปวดหรือเจ็บ การรักษาสิวอักเสบไม่มีหัวด้วยวิธีฉีดยาคือตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะช่วยให้สิวยุบตัวได้เร็วและยังเป็นวิธีที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำด้วย เนื่องจากสิวอักเสบไม่มีหัวหากปล่อยไว้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น และยังมีผลต่อการเกิดรอยแผลเป็นตามมาได้

ประคบร้อน หรือประคบเย็น

วิธีรักษาสิวไม่มีหัวที่ทำได้ด้วยตัวเองโดยการประคบร้อน ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นที่อุณหภูมิไม่เกิน 45 องศาเซลเซียส แล้วนำไปประคบบริเวณที่เป็นสิวไม่มีหัว เพื่อลดอาการบวมแดงและการอักเสบของสิว ส่วนการประคบเย็นให้ใช้ผ้าสะอาดห่อน้ำแข็งแล้วประคบบริเวณที่เป็นสิว วิธีประคบเย็นก็จะช่วยลดอาการปวดและช่วยให้สิวยุบตัวได้เร็วขึ้น

ปรึกษาแพทย์

เมื่อลองรักษาด้วยตัวเองแล้วสิวยังไม่ยุบตัว หรือสิวไม่มีหัวเริ่มมีขนาดใหญ่และมีอาการอักเสบมากขึ้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นการด่วน อย่างเช่นการปรึกษาแพทย์ผิวหนังบนแอปพลิเคชัน SkinX ที่สามารถปรึกษาแบบออนไลน์ได้สะดวกสบาย รวดเร็วไม่ต้องรอคิว และปรึกษาได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางจะช่วยวิเคราะห์ปัญหาสิวและหาแนวทางรักษาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น 

สรุปเกี่ยวกับสิวไม่มีหัวปัญหาเล็ก ๆ บนใบหน้าที่ไม่ควรละเลย

สิวไม่มีหัว อาจเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ บวมแดง บนใบหน้า แต่หากปล่อยทิ้งเอาไว้อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ยิ่งรักษาได้ยาก ดังนั้นแล้ว เพื่อลดโอกาสในการเกิดสิวอุดตัน สิวอักเสบที่ไม่มีหัวบนใบหน้า ควรให้ความสำคัญกับการดูแลผิวหน้า การทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้เครื่องสำอาง รวมทั้งลดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดการเกิดสิวได้แล้ว ส่วนใครที่รู้สึกว่าไม่สามารถจัดการกับปัญหาสิวได้ด้วยตัวเอง การปรึกษาแพทย์คือทางออกที่ดีที่สุด