- 25 ต.ค. 2561
ติดตามเพิ่มเติม www.tnews.co.th
วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม 2561 เวลา 10.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการจัดการขยะมูลฝอย “จังหวัดสะอาด” ระดับประเทศ ประจำปี พ.ศ. 2561 ที่จัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย โดยมีพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารระดับสูงของส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กว่า 500 คน เข้าร่วมงาน ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า นับเป็นโอกาสสำคัญอีกครั้งหนึ่งที่น่ายินดี ที่กระทรวงมหาดไทยได้จัดให้มีพิธีมอบรางวัลการจัดการขยะมูลฝอย “จังหวัดสะอาด” ระดับประเทศ ประจำปี พ.ศ. 2561 ขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ในเรื่องของการบริหารจัดการขยะมูลฝอยอย่างเป็นระบบ อันช่วยส่งเสริมให้เกิดสุขอนามัยและสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถบริหารจัดการตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วว่า เมื่อพูดถึงคำว่าขยะมูลฝอยนั้น ย่อมนึกถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักในการเก็บขนและกำจัดขยะมูลฝอยในทุกหมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศไทย แต่ถึงอย่างไรก็ดีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นคงไม่สามารถดูแลแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากขาดซึ่งความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่มีความเกี่ยวข้อง “จังหวัดสะอาด” จึงมีความหมายที่สะท้อนถึงความร่วมมือในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยตามแนวทาง “ประชารัฐ” ของรัฐบาล เสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการสร้างจิตสำนึกร่วมกันเพื่อนำไปสู่การบริหารจัดการขยะมูลฝอยที่มีความยั่งยืน
ดังนั้น เพื่อให้เกิดผลสำเร็จในการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืน เราทุกคนจึงต้องตระหนักว่า การบริหารจัดการขยะมูลฝอยไม่ใช่เป็นเรื่องมลพิษหรือสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หรือส่วนหนึ่งของประเทศ เพราะบ้านเมืองที่สะอาดสวยงามย่อมเกิดภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของประชาคมโลก การแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยจึงเป็นหน้าที่ของทุกคน ตั้งแต่ประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น จึงขอฝากให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีหน้าที่และอำนาจในการจัดการขยะโดยตรง ช่วยกันดำเนินการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รณรงค์ให้ความรู้ และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อให้การดำเนินงานในเรื่องนี้ให้มีความยั่งยืนต่อไป
และต้องขอชื่นชมกับความสำเร็จของทุกจังหวัดที่ได้รับรางวัลในวันนี้ และขอให้รางวัลที่อยู่ในมือของท่านเป็นเสมือนจุดแรกของการสร้างรากฐานที่มั่นคงของการพัฒนาประเทศไทย ทั้งในเรื่องของการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยเพื่อสร้างบ้านเมืองที่สะอาดสวยงาม และการสร้างความเข้มแข็งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการขับเคลื่อนภารกิจต่างๆ ในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อที่นำไปสู่ประเทศไทยที่ “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” สืบไป พลเอกประยุทธ์กล่าว
ทางด้านพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวด้วยว่า กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำ “แผนปฏิบัติการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ประจำปี พ.ศ. 2561 ขึ้น เพื่อให้จังหวัดดำเนินการขับเคลื่อนผ่านกลไกความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในลักษณะ “ประชารัฐ” คือ ภาคราชการ ภาคการศึกษา ภาคศาสนา ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม/ประชาชน ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหมู่บ้าน/ชุมชน ภายใต้หลักการ “3Rs หรือ 3ช คือ Reduce-ใช้น้อย Reuse-ใช้ซ้ำ Recycle - นำกลับมาใช้ใหม่” โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ต้นทาง คือ การลดปริมาณขยะและการส่งเสริมการคัดแยกขยะมูลฝอย ณ แหล่งกำเนิด กลางทาง คือ การเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บและขนขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ และปลายทาง คือ ขยะมูลฝอยได้รับการกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ดังนั้น เพื่อเป็นการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของจังหวัด กระทรวงมหาดไทย จึงได้จัดโครงการประกวดการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ประจำปี 2561 ขึ้น เพื่อเป็นแรงจูงใจ ยกย่อง และเชิดชูเกียรติให้แก่หน่วยงานและประชาชนในพื้นที่ที่ได้ร่วมแรง ร่วมใจ ในการบริหารจัดการขยะมูลฝอย โดยแบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่ รางวัลระดับจังหวัด และรางวัลระดับประเทศ สำหรับระดับจังหวัด ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการคัดเลือกและมอบรางวัล ซึ่งมีจำนวน 2 ประเภท คือ อำเภอสะอาดระดับจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผ่านเกณฑ์การประเมินความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง และสำหรับรางวัลระดับประเทศนั้น จะมีอยู่ 3 ประเภท ซึ่งมีผลการคัดเลือก ดังนี้
ระดับกลุ่มจังหวัดขนาดใหญ่ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ จังหวัดเชียงราย รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ จังหวัดสกลนคร รางวัลชมเชย ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดอุดรธานี
ระดับกลุ่มจังหวัดขนาดกลาง รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดเลย รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี รางวัลชมเชย ได้แก่ จังหวัดพิจิตรและจังหวัดหนองบัวลำภู
และระดับกลุ่มจังหวัดขนาดเล็ก รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดลำพูน รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี รางวัลชมเชย ได้แก่ จังหวัดนนทบุรีและจังหวัดอ่างทอง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ส่งเสริมและสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาศักยภาพการให้บริการสาธารณะแก่พี่น้องประชาชน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี สร้างความเชื่อมั่น มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งการมอบรางวัลในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่จังหวัดที่มีผลงานดีเด่น และกระตุ้นจังหวัดอื่นๆ ให้ดำเนินการรณรงค์และบริหารจัดการขยะในปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ให้ดียิ่งขึ้น เป็นมิติใหม่ของการเปลี่ยนแปลงเพื่อยกระดับการพัฒนาศักยภาพด้านการให้บริการสาธารณะด้านต่างๆ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปสู่การ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชนต่อไป