- 28 พ.ย. 2561
ติดต่อเพิ่มเติม www.tnews.co.th
ราคาน้ำมันดิบปรับลดจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนก่อนการประชุม G20
-.ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยประเด็นดังกล่าวคาดว่าจะถูกนำไปหารือในการประชุมผู้นำด้านเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่สำคัญ 20 ชาติ (G20) ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 1 ธ.ค. ทั้งนี้ผู้นำของสหรัฐฯ และจีนจะหารือประเด็นดังกล่าวนอกรอบในวันเสาร์นี้ ตามการเปิดเผยของที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ
- ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจาก อุปทานน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับสูง หลังการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงเดือนพ.ย. 61 ขึ้นไปแตะระดับ 11.3 ล้นบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 11.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน หลังสถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (API) เปิดเผยตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล ขึ้นมาแตะระดับ 442.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตัวเลขอย่างเป็นทางการของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) จะประกาศในวันนี้
+.หลายฝ่ายยังคงจับตามองการประชุมของกลุ่มโอเปก (OPEC) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 6 ธ.ค. ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ด้วยความคาดหวังที่ว่า OPEC และพันธมิตรจะเพิ่มเป้าหมายในการลดกำลังการผลิตเป็น 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังนักลงทุนคาดการณ์ว่าโรงกลั่นน้ำมันในประเทศจีนจะส่งออกน้ำมันเบนซินน้อยกว่าค่าเฉลี่ยที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินยังคงได้รับแรงกดดันจากระดับสต็อกที่อยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคยังคงล้นตลาด ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ปรับตัวลดลง หลังได้รับผลกระทบจากราคาขายปลีกที่อยู่ในระดับสูงก่อนหน้านี้และภาวะการเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ปัจจัยที่น่าจับตามอง