- 25 พ.ย. 2563
รมต.พิพัฒน์ ลงพื้นที่ร่วมกับกรมการท่องเที่ยว เยี่ยมชมกองถ่ายทำภาพยนตร์จากสาธารณรัฐฝรั่งเศส ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่องแรก ๆ ที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย หลังจากการเปิดประเทศ
(23 พฤศจิกายน 2563 ) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยวและคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมชมกองถ่ายทำภาพยนตร์จากสาธารณรัฐฝรั่งเศส ณ พื้นที่อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรก ๆ ที่เข้ามาถ่ายทำหลังจากการเปิดประเทศ โดยมีนายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “ประเทศไทยได้รับการยอมรับว่ามีมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เมื่อรัฐบาลผ่อนปรนให้คณะถ่ายทำภาพยนตร์เดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข จัดทำคู่มือและเกณฑ์การปฏิบัติในการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ในรูปแบบวิถีใหม่ (Filming in Thailand The New Normal : Rules & Regulations) เพื่อให้ทีมงานทั้งชาวไทยและต่างชาติปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งในการเดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้
คณะถ่ายทำชาวต่างชาติทุกคนผ่านการกักตัวตามที่ ศบค. กำหนด ปัจจุบันรัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ในรูปแบบการคืนเงิน (Cash Rebate) 15% สำหรับภาพยนตร์ที่ใช้จ่ายในการถ่ายทำในประเทศไทยมากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป และหากจ้างทีมงานไทยตามเกณฑ์ที่กำหนด จะได้รับเงินคืนเพิ่ม 3% และอีก 2% เมื่อภาพยนตร์เรื่องนั้นส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทย
สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้มีทีมงานจากสาธารณรัฐฝรั่งเศสเดินทางเข้ามาจำนวน 15 คน และจ้างงานทีมงานไทยราว 150 คน นอกจากก่อให้เกิดการจ้างงานแล้ว ทีมงานชาวไทยยังได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์ และเทคนิคต่าง ๆ จากทีมงานต่างชาติด้วย จากการที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้ามาถ่ายทำในพื้นที่
จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่งผลให้โรงแรมที่พักรอบๆ เต็ม และทำให้ชุมชนมีรายได้”
นายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวเสริมว่า “ภาพยนตร์จากสาธารณรัฐฝรั่งเศสเรื่องนี้ นำเงินเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยถึง 85 ล้านบาท โดยเริ่มถ่ายทำตั้งแต่ก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 และต้องเดินทางกลับประเทศเมื่อเกิดการแพร่ระบาด และได้กลับมาถ่ายทำอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลผ่อนปรนให้คณะถ่ายทำจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาได้ การถ่ายทำที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีใช้เวลาเพียง 6 วัน แต่กระจายรายได้ในพื้นที่กว่า 13 ล้านบาท ผมจึงขอเชิญชวนให้พวกเราร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับคณะถ่ายทำจากต่างประเทศ เพื่อให้กลับเข้ามาสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอีกในโอกาสต่อไป”
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมขอเชิญชวนให้คณะถ่ายทำต่างประเทศเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ เพราะประเทศไทยมีมนต์เสน่ห์มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ทั้งทีมงานที่มีคุณภาพและอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดประเทศหนึ่งในโลก”