10 คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ที่น่าจับตามองมากที่สุดในปี 2022

   หากให้ลองทายชื่อตลาดที่ไม่เคยปิดระหว่างสัปดาห์มีปริมาณธุรกิจมากที่สุดในโลกโดยมีผู้คนจากทุกประเทศทั่วโลกเข้าร่วมทุกวันคุณเดาถูกหรือไม่ว่าตลาดที่กล่าวมาคือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหรือฟอเร็กซ์ (Foreign Exchange Market - Forex) ซึ่งเป็นการซื้อขายคู่สกุลเงินที่แตกต่างกันจากสองประเทศโดยเราเรียกว่าการซื้อขายหรือเทรดคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์

  หากคุณสนใจฟอเร็กซ์แต่ไม่เคยลองเทรดมาก่อนไม่ช้าก็เร็วคุณจะเจอคำถามว่าคู่สกุลเงินใดปลอดภัยในการเทรด คุณจะได้ไม่สูญเสียเงินฝากครึ่งหนึ่งตั้งแต่เริ่มเปิดสถานะครั้งแรกและคำตอบนั้นง่ายมาก คู่สกุลเงินที่ปลอดภัยที่สุดคือคู่สกุลเงินที่เสถียรที่สุดนั่นเอง เรามาดูคู่สกุลเงินที่ดีที่สุดในการซื้อขายซึ่งเหมาะกับสไตล์และความชอบส่วนตัวของคุณ เพื่อให้การเริ่มต้นเส้นทางการเทรดไม่สะดุดกัน

เคล็ดลับในการซื้อขายForex

คู่สกุลเงินที่ดีต้องเป็นอย่างไร
ปัจจัยที่เราควรพิจารณาในการตัดสินใจเลือกคู่สกุลเงินForex มีดังนี้

1. ช่วงเวลาใดของวันที่เราควรเทรด - เราจะเลือกซื้อขายระหว่างวันหรือตอนกลางคืนดีลองพิจารณาเส้นทางในหนึ่งวันของตลาดฟอเร็กซ์ดังต่อไปนี้

ตลาดเริ่มเปิดในเอเชีย – ย้ายไปที่ตะวันออกกลาง – จากนั้นไปยุโรปและลอนดอน - สิ้นสุดที่นิวยอร์กและสหรัฐอเมริกา

หมายความว่าตลาดเหล่านี้บางส่วนจะไม่เปิดต่อเนื่องหรือเปิดพร้อมกัน ตัวอย่างเช่นหากคุณเป็นเทรดเดอร์ช่วงกลางคืนในสหรัฐอเมริกาตลาดตะวันออกกลางและยุโรป/ลอนดอนอาจปิดอยู่ดังนั้นทางเลือกเดียวของคุณก็คือตลาดสหรัฐอเมริกาและเอเชียช่วงเวลาของวันที่คุณทำการซื้อขายจะเป็นตัวกำหนดว่าตลาดสกุลเงินใดพร้อมให้คุณเทรด
 

2.    สภาพคล่อง -โดยทั่วไปสภาพคล่องจะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกคู่สกุลเงินที่จะเทรด ในการเป็นเทรดเดอร์คุณต้องการเทรดคู่สกุลเงินที่สามารถซื้อและขายได้ง่าย แต่กฎข้อนี้มีข้อยกเว้นกับเทรดเดอร์ที่พยายามใช้ประโยชน์จากผลงานที่เอาแน่ไม่ได้ของคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องน้อยกว่า วิธีนี้เรียกว่าScalping ซึ่งเป็นการเทรดทำกำไรในช่วงสั้นๆหลายๆครั้งตลอดทั้งวันและเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเทรดรายวันที่พบบ่อยที่สุดโดยคู่เงินหลักมีสภาพคล่องสูงสุดรองลงมาคือคู่เงินรองตามมาด้วยคู่Cross (คู่เงินที่ไม่มีสกุลเงินUSD และไม่มีหนึ่งในสกุลเงินหลักของโลก)

3.    เสถียรภาพด้านราคา -เสถียรภาพด้านราคาของสกุลเงินนั้นสัมพันธ์กับสภาพเศรษฐกิจของประเทศหรือประเทศที่สัมพันธ์กับสกุลเงินนั้น ตัวอย่างเช่นสหรัฐอเมริกาสัมพันธ์กับดอลลาร์สหรัฐหรือสหราชอาณาจักรสัมพันธ์กับปอนด์อังกฤษ
เมื่อต้องพิจารณาว่าจะเลือกคู่สกุลเงินใด คุณควรคำนึงถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในประเทศเหล่านั้น

4.    การคาดการณ์ -สิ่งที่ควรทราบคือสกุลเงินหนึ่งมีข้อมูลย้อนหลังมากน้อยเพียงใด ประโยชน์ของการซื้อขายคู่สกุลเงินหลักหรือคู่ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินหลักทั่วโลกคือเราสามารถหาข้อมูลจำนวนมหาศาลที่มีอยู่แล้ว เพื่อตัดสินว่าสกุลเงินดังกล่าวมีแนวโน้มจะปรับขึ้นหรือลงอย่างไรสกุลเงินทั่วโลกที่ไม่มีชื่อเสียงและโดยเฉพาะอย่างยิ่งสกุลเงินที่ใหม่ในตลาดForex จะมีข้อมูลในอดีตน้อยกว่าเราจึงคาดการณ์ผลงานที่จะเกิดขึ้นได้ยาก

หากคุณต้องการเริ่มต้นซื้อขาย Forex ยังมีรายละเอียดที่มีประโยชน์ซึ่งควรทำความเข้าใจไม่ว่าจะเป็นคู่เงินหลักคู่เงินรองและคู่เงินเกิดใหม่รวมถึงช่วงเวลาการซื้อขายและข้อสงสัยทั่วไปให้คุณพบคำตอบได้ที่Exness Forex

10 คู่สกุลเงินที่น่าเทรดในปี 2022

ตลาดฟอเร็กซ์มีคู่สกุลเงินหลากหลายให้เลือกคู่สกุลเงินForex 10 อันดับแรกที่ควรจับตามองมีดังต่อไปนี้

1. EUR/USD
เงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐเป็นตัวแทนของสองเศรษฐกิจหลักของโลกจึงเป็นคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายบ่อยที่สุด คู่เงินหลักนี้มีสภาพคล่องสูงและอัตราแลกเปลี่ยนจะสัมพันธ์กับธนาคารกลางยุโรป อัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐและรายงานตัวเลขNFP (การจ้างงานนอกภาคเกษตร)

2. GBP/USD
คู่เงินหลักนี้ประกอบด้วยเงินปอนด์อังกฤษและดอลลาร์สหรัฐดังนั้นผลงานจะขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของอังกฤษและอเมริกา อัตราแลกเปลี่ยนจะสัมพันธ์กับอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางสหรัฐ

3. USD/JPY
ประกอบด้วยดอลลาร์สหรัฐและเยนญี่ปุ่นคู่เงินหลักนี้มีสภาพคล่องสูงโดยดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดทั่วโลก และเงินเยนของญี่ปุ่นเป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในตลาดเอเชีย  อัตราแลกเปลี่ยนสำหรับคู่นี้ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางญี่ปุ่น ปัจจัยอื่นๆได้แก่การเกิดภัยธรรมชาติในญี่ปุ่น

4.AUD/USD
คู่เงินหลักที่ประกอบด้วยดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์สหรัฐปัจจัยที่ส่งผลต่อคู่นี้ได้แก่มูลค่าของสินค้าโภคภัณฑ์ที่ออสเตรเลียส่งออกเช่นสินแร่เหล็กทองคำและถ่านหิน และอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยธนาคารกลางออสเตรเลียและธนาคารกลางสหรัฐ

5.EUR/GBP
คู่สกุลเงินนี้เป็นคู่เงินรองเนื่องจากไม่มีดอลลาร์สหรัฐฯโดยประกอบด้วยเงินยูโรและปอนด์อังกฤษ คู่เงินนี้คาดเดาได้ยากเพราะมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดในเชิงภูมิศาสตร์และข้อตกลงทางการค้าที่แข็งแกร่งระหว่างยุโรปและสหราชอาณาจักร การที่สหราชอาณาจักรขอลาออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปทำให้ราคาEUR/GBP มีความผันผวนสูงปัจจัยเพิ่มเติมที่ต้องเฝ้าดูได้แก่ อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศอังกฤษและธนาคารกลางยุโรป

6. USD/CAD
คู่เงินหลักนี้ประกอบด้วยดอลลาร์สหรัฐและดอลลาร์แคนาดาปัจจัยหนึ่งที่น่าจับตามองสำหรับคู่นี้คือการพึ่งพาราคาน้ำมันของแคนาดาซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลัก ดังนั้นเมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้นค่าเงินดอลลาร์แคนาดาก็จะปรับตัวขึ้นเช่นกัน

7.USD/CHF
คู่เงินหลักคู่นี้ประกอบด้วยดอลลาร์สหรัฐและฟรังก์สวิสโดยมักถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่เกิดความวุ่นวายทางเศรษฐกิจและการเมือง
เนื่องจากคู่USD/CHF ได้รับความนิยมสูงคุณจึงสามารถหาข้อมูลได้จำนวนมากจึงเป็นคู่เงินที่คาดการณ์ได้ในระดับสูง

8.NZD/CHF
คู่เงินรองนี้ประกอบด้วยดอลลาร์นิวซีแลนด์และฟรังก์สวิสการเติบโตขึ้นทางการเกษตรของนิวซีแลนด์มีอิทธิพลต่อทั่วโลก หมายความว่าเทรดเดอร์ที่ต้องการลงทุนในคู่นี้จะต้องติดตามราคาสินค้าการเกษตรทั่วโลก ราคาของคู่NZD/CHF ยังได้รับอิทธิพลจากธนาคารกลางนิวซีแลนด์อีกด้วย

9. USD/CNY
คู่เงินหลักนี้ประกอบด้วยดอลลาร์สหรัฐและเหรินหมินปี้ (Chinese Renminbi) หรือหยวน
โดยตัวย่อCNY ใช้กับการซื้อขายสกุลเงินนี้ในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในประเทศจีน (ตลาดออนชอร์ (Onshore)) แต่CNH ใช้กับการซื้อขายเหรินหมินปี้หรือเงินหยวนในต่างประเทศ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามเมื่อลงทุนในคู่นี้คือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในอดีตมูลค่าของCNY ลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเนื่องจากความพยายามของรัฐบาลจีนในการลดราคาการส่งออก

10.GBP/JPY
คู่เงินรองที่ประกอบด้วยเงินปอนด์อังกฤษและเยนญี่ปุ่นโดยได้รับอิทธิพลอย่างมากจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักร คู่นี้สามารถพัฒนาแนวโน้มที่แข็งแกร่งทำให้เทรดเดอร์ได้รับปิ๊ปจำนวนมากในสถานะเดียว ช่วงเวลาสั้นๆ ที่ทับซ้อนกันระหว่างเซสชั่นเอเชียและยุโรปอาจเหมาะสำหรับการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินนี้

ตอนนี้เมื่อคุณทราบคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ที่น่าจับตามองแล้วยังมีบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับหัวข้อที่ว่าROI คืออะไรให้คุณเลือกอ่านได้ ซึ่งสามารถใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการวางแผนเพื่อพิจารณาว่าการลงทุนนั้นคุ้มค่าหรือไม่