- 22 พ.ย. 2565
ปัจจุบันใครที่ไม่มั่นใจในรูปร่างมีไขมันส่วนเกินเริ่มมองหาตัวเลือกที่จะขจัดไขมันเหล่านั้นออกไปทางลัดที่ช่วยให้ไขมันเหล่านั้นหายไปอย่างรวดเร็วและหลายคนคงได้ยินกันมาบ้างคือการดูดไขมัน
ดูดไขมันอันตรายไหม? แม้อาจฟังดูอันตราย และหลายคนไม่ค่อยไว้ใจวิธีนี้เท่าไหร่แต่การดูดไขมันในปัจจุบันค่อนข้างมีความปลอดภัยต่อคนไข้มาก แล้วการดูดไขมันเป็นอย่างไร? ใครที่เหมาะในการดูดไขมันบ้างเตรียมตัวอย่างไร? บทความนี้เราจะพาไปดูพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับการดูดไขมันกันใครที่กำลังสนใจหรือวางแผนที่จะดูดไขมันอยู่ต้องห้ามพลาดความรู้ดีๆที่รวบรวมไว้ในบทความนี้
การดูดไขมันคืออะไร?
การดูดไขมัน (liposuction) คือการกำจัดไขมันส่วนเกินของร่างกายในชั้นใต้ผิวหนังจากบริเวณต่างๆเช่นเอวหน้าท้องต้นขาต้นแขนเป็นต้นโดยศัลยแพทย์จะใช้เครื่องมือลักษณะท่อยาวสอดเข้าไปในผิวหนังเพื่อทำการดูดไขมันส่วนเกินเหล่านั้นออกมา ซึ่งการดูดไขมันสามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินที่สามารถสร้างความรำคาญใจของผู้ที่ต้องการมีความมั่นใจในรูปร่างได้เป็นอย่างดี เพราะเห็นผลชัดเจนทันทีหลังจากดูดไขมัน
ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมัน
เป็นคำถามที่ผู้ที่สนใจดูดไขมันสงสัยว่าตัวเรานั้นสามารถดูดไขมันได้ไหมแล้วใครบ้างที่เหมาะจะดูดไขมัน? มาดูกันว่าคุณอยู่ในเงื่อนไขเหล่านี้หรือไม่
● ต้องการให้รูปร่างดูดีดูเป๊ะตลอดเวลา
● มีปัญหาไขมันส่วนเกิน
● สัดส่วนรูปร่างไม่เท่ากัน
● มีความต้องการให้สัดส่วนของร่างกายลดลงทันที
● มีผิวหนังยืดหยุ่นดี
● ไม่สามารถลดไขมันส่วนเกินได้ด้วยวิธีออกกำลังกายและควบคุมอาหาร
● ไม่มีเวลาว่างในการออกกำลังกาย
สถานที่แบบใดที่เหมาะกับการดูดไขมัน
ดูดไขมันที่ไหนดี? การเลือกคลินิกดูดไขมันก็สำคัญเช่นเดียวกันเพราะการดูดไขมันนอกจากจะต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้วยังมีปัจจัยอื่นๆในการเลือกสถานที่ในการดูดไขมันที่ต้องคำนึงถึงอีกแล้วมีอะไรบ้างที่ต้องพิจารณาในการเลือกคลินิกดูดไขมัน
● ให้คำปรึกษาคำแนะนำซักประวัติคนไข้และทำการดูดไขมันโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ในด้านนี้โดยเฉพาะ รวมถึงที่สามารถตรวจสอบใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพของแพทย์ได้อย่างชัดเจน
● ต้องเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานปลอดภัยมีใบอนุญาตในการเปิดสถานประกอบการอย่างถูกกฎหมายไม่ใช่คลินิกเถื่อน
● อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้มีความปลอดภัยมีการอัปเดตเทคโนโลยีของเครื่องมือให้ทันสมัยเสมอ
● สถานที่ของคลินิกต้องสะอาดและห้องผ่าตัดต้องปลอดเชื้อมีเครื่องมือระบบฉุกเฉินระบบกรองอากาศให้ปลอดเชื้อและระบบอื่นๆพร้อม
● โฆษณาไม่เกินจริงไม่หลอกลวงเพราะหลายคลินิกมีการโฆษณาเกินจริงเพื่อดึงดูดลูกค้า
● มีวิสัญญีแพทย์ที่เชี่ยวชาญหากมีการคิดราคาค่าวิสัญญีแพทย์ที่ถูกเกินไปควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจถูกหลอกหรือให้บุคคลอื่นเป็นที่ไม่เชี่ยวชาญดำเนินการให้คนไข้ดมยาสลบ
● มีการดูแลหลังการรักษาติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
● มีรีวิวดูดไขมันจากคนไข้จริงครบทุกสัดส่วนทั้งเคสคนตัวเล็กและคนตัวใหญ่ให้ดู
หากสนใจสามารถศึกษาอ่านข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูดไขมันได้
ประโยชน์ของการดูดไขมัน
นอกจากการดูดไขมันจะช่วยให้ไขมันส่วนเกินถูกกำจัดออกแล้วการดูดไขมันยังมีประโยชน์อื่นๆอีกที่ผู้ที่ดูดไขมันหรือผู้ที่สนใจกำลังหาข้อมูลอยู่อาจจะยังไม่ทราบโดยประโยชน์ของการดูดไขมันได้แก่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจปรับสัดส่วนให้กระชับสวยและที่สำคัญยังช่วยลดจำนวนไขมันออกจากร่างกายลดเซลล์ไขมันหรือไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ไม่ให้มีจำนวนมากจนเกินไปที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ
ดูดไขมันมีข้อดีอย่างไร
หลังจากที่ได้ทราบประโยชน์ของการดูดไขมันแล้วเรามาดูข้อดีของการดูดไขมันกันว่าเมื่อเราดูดไขมันส่วนเกินในบริเวณต่างๆ มีข้อดีอะไรบ้าง
● ช่วยให้แต่งตัวง่ายลดขนาดไซส์เสื้อผ้าลง
● สร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่เข้ารับการดูดไขมัน
● สัดส่วนลดเห็นผลทันที
นอกจากนั้นยังช่วยลดสัดส่วนเฉพาะจุดให้ดูดีดูกระชับเป็นอย่างที่ต้องการได้เช่น
● ช่วยให้ผู้ที่มีไขมันหน้าท้องดูพุงป่องมีหน้าท้องที่ดูดีแบนราบ
● สามารถช่วยสร้างซิกแพคผู้ชายและปั้นร่อง 11 ผู้หญิงได้
● มีเอวที่คอดชัดมากยิ่งขึ้น
● ช่วยให้มีแขนขาที่เรียวสวยตามที่ต้องการ
● สามารถลดเหนียงได้กรอบหน้าชัดขึ้น
● เติมไขมันในบางบริเวณที่ต้องการให้ดูอวบอิ่มมีเนื้อมากยิ่งขึ้นเช่นหน้าอกก้นเป็นต้น
ดูดไขมันมีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง
การดูดไขมันมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องระมัดระวังและควรรู้ก่อนที่จะทำสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพร่างกายมีโรคประจำตัวซึ่งผู้ที่มีปัญหาดังต่อไปนี้แพทย์จะไม่แนะนำให้ดูดไขมันเนื่องจากอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่อันตรายได้
● ผู้ที่มีผิวหนังย้วยมาก (แพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิธีผ่าตัดผิวหนังส่วนเกินออก)
● โรคหัวใจ
● โรคเบาหวาน
● โรคเส้นเลือดหัวใจ
● โรคเส้นเลือดสมอง
● โรคแพ้ภูมิตัวเอง
● โรคไทรอยด์ที่ยังควบคุมไม่ได้
นอกจากทราบข้อมูลของผู้ที่ไม่สามารถดูดไขมันได้แล้วสำหรับผู้ที่ดูดไขมันได้ก็ต้องทราบถึงข้อจำกัดของการดูดไขมันที่สำคัญและควรรู้ด้วย คือการดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนักและหลังดูดไขมันก็จำเป็นต้องดูแลรูปร่างตัวเองอย่างต่อเนื่องหากปล่อยปละละเลยก็อาจจะทำไขมันสามารถกลับมาสะสมได้อีกครั้ง
ไขมันส่วนไหนบ้างที่ดูดออกได้
ไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายมี 4 ประเภทคือไขมันใต้ผิวหนังไขมันในช่องท้องไขมันที่แทรกตามกล้ามเนื้อและไขมันในหลอดเลือดซึ่งไขมันที่สามารถดูดออกได้มีเพียงไขมันใต้ผิวหนังส่วนไขมันในช่องท้องไม่สามารถดูดออกมาได้จะต้องออกกำลังกายและควบคุมอาหารด้วยตนเองไขมันใต้ผิวหนังที่สามารถดูดออกมาได้มีดังนี้
● ดูดไขมันเหนียง :เป็นไขมันที่อยู่บริเวณคางสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
● ดูดไขมันนมน้อย :เป็นไขมันที่อยู่บริเวณต้นแขนใต้รักแร้
● ดูดไขมันแผ่นหลัง :เป็นไขมันที่อยู่บริเวณแผ่นหลังปีกหลังสามารถแก้ปัญหาตัวหนาได้
● ดูดไขมันต้นแขน :เป็นไขมันที่อยู่บริเวณรอบๆต้นแขนปรับแขนให้เรียวเล็กลง
● ดูดไขมันหน้าท้อง :เป็นไขมันที่อยู่บริเวณใต้ผิวหน้าท้องลีนหน้าท้องให้แบนราบสามารถเพิ่มความเฟิร์มด้วยการสร้าง Six Pack หรือ Sexy Line ได้
● ดูดไขมันเอวเอส :เป็นไขมันที่อยู่บริเวณรอบๆเอวสามารถช่วยลดห่วงยางรอบเอวได้เป็นอย่างดี
● ดูดไขมันน่อง :เป็นไขมันที่อยู่บริเวณน่องขาสามารถทำให้น่องเรียวเล็กได้ในทันที
● ดูดไขมันต้นขา :เป็นไขมันบริเวณรอบๆต้นขาด้านในและด้านนอกสามารถแก้ปัญหาขาเบียดต้นขาใหญ่ได้
● ดูดไขมันข้อเท้า :เป็นไขมันบริเวณรอบๆข้อเท้าช่วยทำให้ข้อเท้าเรียวขึ้นใส่รองเท้าสวย
● ดูดไขมันทั้งตัว :เป็นการดูดไขมันหลายจุดในร่างกายออกภายในครั้งเดียว
เครื่องดูดไขมันมีอะไรบ้าง
เครื่องดูดไขมันมีหลายรูปแบบตามเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาเรื่อยๆ แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปแล้วเครื่องดูดไขมันมีอะไรบ้าง
● Ultrasonic Assisted Liposuction :เป็นการนำคลื่นอัลตราซาวด์มาสร้างพลังงานความร้อนช่วยสลายไขมันสามารถสลายไขมันได้ปริมาณมากปลอดภัยส่งผลกระทบต่อร่างกายน้อยฟื้นตัวได้เร็วเห็นผลรวดเร็วชัดเจนแต่ไขมันที่ดูดออกมาไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เนื่องจากไขมันที่ได้เป็นเซลล์ที่ถูกทำลายแล้วและหากแพทย์ไม่เชี่ยวชาญอาจทำให้เกิดอาการบวมช้ำผิวชาผิวหนังไหม้ได้
● Water Jet Assisted Liposuction :เป็นเครื่องดูดไขมันด้วยพลังงานน้ำทำให้ไขมันหลุดออกมาอย่างนุ่มนวลไขมันนำไปเติมหรือฉีดไขมันต่อได้และยังไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายมากไม่บอบช้ำพักฟื้นน้อยแต่จะใช้ระยะเวลาในการดูดไขมันนานกว่าปกติ
● Power Assisted Liposuction :เป็นเครื่องดูดไขมันด้วยแรงสั่นสะเทือนของเข็มดูดไขมันสามารถดูดไขมันออกมาได้ปริมาณมากรวดเร็วหากแพทย์ไม่มีความชำนาญอาจทำให้มีอาการบวมรอยฟกช้ำตามร่างกายเกิดปัญหาผิวเป็นคลื่นและพักฟื้นนานโดยเครื่องนี้นิยมนำมาใช้คู่กับเครื่องชนิดอื่นๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์
● RF Assisted Liposuction หรือ Body Tite :เป็นเครื่องดูดไขมันด้วยคลื่นความถี่วิทยุสร้างความร้อนที่เนื้อเยื่อผิวเพื่อสลายเซลล์ไขมันช่วยฟื้นฟูผิวให้กระชับเรียบเนียนแข็งแรงลดโอกาสการเกิดไขมันสะสมใหม่แต่มีค่าบริการที่ค่อนข้างสูง
● J Plasma :เป็นเครื่องช่วยยกกระชับผิวสามารถทำควบคู่กับการดูดไขมันโดยใช้พลังงานพลาสม่าทำให้เกิดความร้อนในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังและลดอุณหภูมิลงเพื่อยกกระชับผิวหนังเห็นผลรวดเร็วผู้ป่วยฟื้นตัวได้ไว
Tumescent ตัวช่วยเรื่องดูดไขมัน
การดูดไขมันนอกจากเครื่องมือแล้วยังต้องมีตัวช่วยในการดูดไขมันอย่าง Tumescent เป็นกลุ่มยา Adrenaline ประกอบไปด้วยยาชาน้ำเกลือยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัวและตัวยาอื่นๆ Tumescent จะช่วยทำให้ไขมันแตกตัวเกิดช่องว่างในชั้นไขมันเพิ่มขึ้นหลอดเลือดหดตัวลงเพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากการดูดไขมันเช่นความเจ็บปวดการเสียเลือดมากไขมันอุดตันในหลอดเลือด
การเตรียมพร้อมก่อนดูดไขมัน
ก่อนจะเริ่มดูดไขมันคนไข้ควรเตรียมความพร้อมทางร่างกายและต้องให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมมากๆเพราะจะส่งผลดีทั้งในขณะเวลาทำและหลังจากทำแล้วซึ่งการเตรียมความพร้อมก่อนดูดไขมันมีดังนี้
● ปรึกษาพูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับการดูดไขมันก่อนตัดสินใจ
● แจ้งแพทย์ให้ทราบเกี่ยวกับโรคประจำตัวประวัติการแพ้ยาประวัติการใช้ยา
● หากมีโรคประจำตัวจะต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อนทำการดูดไขมันเพราะผู้ป่วยบางโรคอาจไม่สามารถดูดไขมันได้
● นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
● งดชากาแฟน้ำอัดลม
● งดยาบางชนิด 2 สัปดาห์ก่อนทำการดูดไขมันเช่นยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
● งดบุหรี่ก่อนดูดไขมันอย่างน้อย 6 สัปดาห์และหลังดูดไขมันอย่างน้อย 2 สัปดาห์
● งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดก่อนดูดไขมันอย่างน้อย 24 ชั่วโมงและหลังดูดไขมันอย่างน้อย 1 สัปดาห์
● ในกรณีใช้ยาสลบงดน้ำงดอาหารตามระยะเวลาที่กำหนด
● สวมเสื้อผ้าที่มีสีเข้มใส่สบายไม่ใส่เครื่องประดับไม่แต่งหน้าไม่ทาเล็บ
● ในกรณีที่เป็นผู้หญิงควรหลีกเลี่ยงการดูดไขมันในช่วงที่มีประจำเดือน
● ต้องมีญาติหรือเพื่อนมาด้วยเพื่อพากลับบ้านเนื่องจากผู้ป่วยต้องพักฟื้นหลังจากดูดไขมัน
วิธีดูดไขมัน
การดูดไขมันโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีขั้นตอนดังนี้
● แพทย์จะฉีด Tumescent เข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนังเปรียบเสมือนเป็นยาชาลดความเจ็บปวดและช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการดูดไขมัน
● แพทย์จะใช้เครื่องมือแยกเซลล์ไขมันโดยเครื่องมือแต่ละชนิดก็จะมีวิธีการทำงานที่แตกต่างกันเช่นการฉีดแรงดันน้ำการใช้พลังงานความร้อนการสั่นสะเทือนเพื่อให้เซลล์ไขมันสลายตัวทำให้ง่ายต่อการดูดไขมัน
● แพทย์จะนำท่อขนาดเล็กเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนังทำการดูดไขมันออกมาซึ่งไขมันที่ดูดออกมาหากใช้วิธีสลายไขมันโดยไม่ทำลายเซลล์ไขมันก็จะสามารถนำไขมันที่ดูดออกมาไปใช้ประโยชน์ต่อได้เช่นฉีดไขมันตามส่วนต่างๆของร่างกาย
ผลลัพธ์การดูดไขมัน
ผลลัพธ์ในการดูดไขมันนั้น 2 สัปดาห์แรกหลังดูดไขมันผิวหนังจะมีอาการบวมช้ำระบมซึ่งจะเข้าสู่สภาวะปกติทำกิจกรรมอะไรต่างๆได้และดีขึ้นใน 2 สัปดาห์ถัดไปและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีคนไข้ควรดูแลตัวเองเช่นใส่ชุดกระชับสัดส่วนงดทานอาหารที่มีโซเดียมเยอะอาหารหมักดองอาหารทะเลนวดกระชับผิวเป็นต้น
และสำหรับคนไข้ที่ดูดไขมันด้วยคลื่นความร้อนผลลัพธ์ในเรื่องของสัดส่วนจะเริ่มเข้าที่ใน 1 เดือน ส่วนคนไข้ที่ดูดไข้มันด้วยเครื่องพลังน้ำจะมีระยะเวลาที่สัดส่วนจะเข้าที่มากกว่าเล็กน้อยคือ 1 เดือนครึ่ง
ผู้ชายดูดไขมันได้ไหม
ผู้ชายสามารถดูดไขมันได้ไม่ต่างจากผู้หญิงโดยสามารถดูดไขมันได้ทุกส่วนของร่างกายส่วนใหญ่จะเป็นการดูดไขมันเพื่อยกกระชับทำให้ร่างกายดูมีกล้ามเนื้อเช่นกล้ามเนื้อแขนกล้ามเนื้อขาซิกแพคหรือดูดไขมันสะสมบริเวณหน้าอกสำหรับผู้ชายที่มีหน้าอกใหญ่เกินไป แต่ส่วนใหญ่มักมีปัญหาไขมันในช่องท้องหรือไขมันที่แทรกตามกล้ามเนื้อมากกว่าไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้บางครั้งการดูดไขมันไม่อาจช่วยได้ทั้งหมดจึงต้องปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายเพื่อลดไขมันในส่วนอื่นควบคู่กันไป
สรุปเรื่องดูดไขมัน
การดูดไขมันเรียกได้ว่าเป็นรูปแบบการศัลยกรรมรูปร่างอย่างหนึ่งที่ทำการนำไขมันส่วนเกินออก ช่วยให้คนไข้มีความมั่นใจในรูปร่างมากยิ่งขึ้นทั้งนี้การดูดไขมันไม่นับว่าเป็นการลดน้ำหนักเพราะเมื่อดูดไขมันแล้วอาจไม่ช่วยให้น้ำหนักลดอย่างไรก็ตามการดูดไขมันต้องทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เท่านั้นเครื่องมือที่ใช้ทันสมัยรวมถึงคนไข้ต้องศึกษาหาข้อมูลเตรียมความพร้อมทางร่างกายไปจนถึงด้านอื่นๆเพราะการดูดไขมันมีข้อจำกัดที่คนบางกลุ่มไม่สามารถรับการรักษาได้ด้วยอาจส่งผลอันตรายมากกว่าผลดี