- 22 ก.พ. 2566
HKTDC จัดงานสัมมนาอาหารกลางวันเชิงธุรกิจ HongKongisBackinBusiness พร้อมสนับสนุนการขยายธุรกิจไทยไปทั่วโลก
21 กุมภาพันธ์ 2566 องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC)จัดงานสัมมนาอาหารกลางวันเชิงธุรกิจ HongKongisBackinBusiness เพื่อยืนยันบทบาทสำคัญที่ฮ่องกงสามารถช่วยให้ธุรกิจไทยก้าวสู่ระดับโลกและคว้าโอกาสใหม่ในตลาดต่างประเทศ
ยินดีต้อนรับการกลับมาสู่ฮ่องกง
ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางธุรกิจการลงทุนระดับโลกและจุดเริ่มต้นในการขยายธุรกิจระหว่างประเทศนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดใหญ่ของโรคโควิด ฮ่องกงได้เปิดประตูสู่จีนแผ่นดินใหญ่และต่างประเทศทั่วโลกเป็นครั้งแรกในเดือนมกราคมและตอนนี้ฮ่องกงพร้อมแล้วสําหรับการกลับมาของนักธุรกิจที่จะมาแสวงหาโอกาสจากเมืองที่ไม่เคยหยุดพัฒนา
นายโรนัลด์ โฮ ผู้อํานวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ของ HKTDCกล่าวว่า "ด้วยรากฐานพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและแข็งแกร่งระบบกฎหมายระบอบภาษีโครงสร้างพื้นฐานขั้นสูงและการเชื่อมต่อที่มีเสถียรภาพ ทำให้ฮ่องกงเป็นสถานที่ที่ดีในการสนับสนุนต่อยอดบริษัทของไทยที่ต้องการเติบโตและหาโอกาสในการลงทุนทั่วโลก"
งานแสดงสินค้าและการประชุมระดับโลกเต็มรูปแบบ
องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC)ประสบความสําเร็จอย่างมากในงานอีเว้นสําคัญต่างๆในฮ่องกงรวมไปถึงงานประชุมการเงินของเอเชีย งานแสดงสินค้าที่เน้นของเล่นและเกมผลิตภัณฑ์สําหรับเด็ก เครื่องเขียนไวน์และสุราซึ่งในงานได้ต้อนรับนักธุรกิจจาก100ประเทศและภูมิภาค
ด้วยการยกเลิกข้อจํากัดการเดินทางระหว่างประเทศและการเปิดพรมแดนฮ่องกงสู่แผ่นดินใหญ่อีกครั้งองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC)ยังคงสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง(HKSAR)เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศและเสริมสร้างสถานะศูนย์กลางธุรกิจและการลงทุนระดับโลกในปีต่อๆไป
งานแสดงเครื่องประดับอัญมณี เพชร พลอย มุกนานาชาติฮ่องกงประจำปีรวมถึงตลาดภาพยนตร์และโทรทัศน์จะกลับมาในเดือนมีนาคมนี้ ในขณะเดียวกันเทศกาลงานแสดงสินค้าฤดูใบไม้ผลิจะมีการจัดงานขนาดใหญ่ขึ้นอีกมากมาย รวมไปถึง การเปิดตัวของ InnoEX งานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า(ช่วงฤดูใบไม้ผลิ) งานอุปกรณ์ให้แสงสว่าง (ช่วงฤดูใบไม้ผลิ) งานมหกรรมของใช้ในบ้าน งานของขวัญและของพรีเมี่ยมในเดือนเมษายน พร้อมกับงานดูแลสุขภาพนานาชาติในเดือนพฤษภาคม ซึ่งคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าภาคธุรกิจไทยจะมีส่วนร่วมอย่างมากในงานเหล่านี้
การส่งเสริมในประเทศไทยเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางธุรกิจทวิภาคี
เพื่อช่วยให้บริษัทไทยคว้าโอกาสได้มากขึ้น องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) ได้จัดแคมเปญส่งเสริมการขายในประเทศไทยอย่างครบวงจรในปีนี้ คณะผู้แทนผู้นําธุรกิจฮ่องกงนําโดยนายพอล แลม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเขต-บริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) จะเดินทางเยือนกรุงเทพฯ ในวันที่ 16 มีนาคม เพื่อเข้าร่วมงานสัมมนาResolve2Win – การบริการทางกฎหมายของฮ่องกง โอกาสสำหรับทุกแคมเปญซึ่งชี้ให้เห็นถึงความสามารถของฮ่องกงในการให้บริการทางกฎหมายขององค์กรและการค้า รวมถึงการจัดการความเสี่ยงและการระงับข้อพิพาท
นางเชอร์ลี่ย์ อึ้ง ผู้อํานวยการองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC)ประจําประเทศไทยและเอเชียใต้กล่าวเสริมว่า"อีกหนึ่งไฮไลท์ที่สําคัญของปีนี้คืองานใหญ่ ThinkBusinessThinkHong Kongซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่13-14กรกฎาคมเราจะแสดงให้เห็นถึงบทบาทที่เป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการเชื่อมโยงธุรกิจระดับโลกกับโอกาสที่เกิดขึ้นจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)และเขตเศรษฐกิจ อ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า(GBA)"
งานนี้จะรวบรวมงานแสดงสินค้านวัตกรรมคุณภาพจากฮ่องกง การประชุมสัมมนาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้นำทางธุรกิจ ร่วมมือกันเพื่อให้เกิดการเติบโตขยับขยาย รวมไปถึงงานเลี้ยงอาหารค่ำต้อนรับเจ้าหน้าที่และผู้นำทางธุรกิจที่มีชื่อเสียงทั้งจากประเทศไทยและฮ่องกง
องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (สำนักงานกรุงเทพฯ) จะยังคงทํางานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรเพื่อช่วยให้ธุรกิจไทยเชื่อมต่อกับฮ่องกงและขยายไปทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มฮ่องกงสําหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการทํางานของHKTDCสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ https://aboutus.hktdc.com/en/
เกี่ยวกับHKTDC
องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง(HKTDC) เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นในปี 1966 เพื่อส่งเสริม ช่วยเหลือ และพัฒนาการค้าของฮ่องกง ประกอบด้วยสำนักงาน 50 แห่งทั่วโลก ซึ่งมีอยู่ถึง 13 แห่งในจีนแผ่นดินใหญ่ HKTDC ส่งเสริมการลงทุนระดับโลกแบบสองทาง ให้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการลงทุนธุรกิจระดับโลก
HKTDC ได้จัดนิทรรศการการประชุมและงานทางธุรกิจระดับนานาชาติ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในตลาดแผ่นดินใหญ่และต่างประเทศ นอกจากนี้HKTDCยังให้ข้อมูลเชิงลึกของตลาดและข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยผ่านรายงานการวิจัยและช่องทางข่าวดิจิทัลสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม www.hktdc.com/aboutusติดตามเราได้ที่ Twitter @hktdc และ LinkedIn