ฟิลเลอร์คางอันตรายไหม ช่วยปรับโครงหน้าให้เรียวขึ้นจริงหรือไม่?

การฉีดฟิลเลอร์คางจะใช้สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิคแอซิดฉีดเข้าไป เพื่อช่วยเติมเต็มคางให้ดูสวยอย่างมีมิติโดยไร้บาดแผล ปลอดภัย เห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ

ฟิลเลอร์คาง ปรับคางสวยได้รูปโดยไม่ต้องพึ่งใบมีด ปลอดภัยแน่นอนจริงหรือไม่?

ฟิลเลอร์คาง


ฟิลเลอร์คางเป็นหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปที่คางช่วยให้ใบหน้าของคุณดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติได้โดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่เชื่อว่าก็ยังคงมีผู้ที่สงสัยและมีคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยของฟิลเลอร์คาง ในบทความนี้จะมาสรุปข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อให้คุณสามารถเตรียมตัวก่อนทำฟิลเลอร์ได้อย่างถูกต้อง

ฟิลเลอร์คางคืออะไร ปลอดภัยไหม?


ฟิลเลอร์คาง (Chin Filler) คือ การนำสารไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายอยู่แล้วมาฉีดบริเวณคางเพื่อช่วยแก้ปัญหาคางไม่ได้รูป เช่น คางบุ๋ม คางตัด คางเบี้ยวไม่ได้สัดส่วน ให้มีความสมดุลอย่างเป็นธรรมชาติและดูมีมิติเรียวชัดมากขึ้นได้อย่างปลอดภัย


หลักการทำงานของฟิลเลอร์คาง


เวลาฉีดฟิลเลอร์คาง แพทย์จะนำฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานมาฉีดบริเวณชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูกที่อยู่ลึกลงจากชั้นใต้กล้ามเนื้อ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน โดยฟิลเลอร์จะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ในการเซ็ตตัวให้เข้าที่ และผลลัพธ์ของฟิลเลอร์คางส่วนมากจะคงทนอยู่ที่ 12-18 เดือน

 

ในระหว่างนี้ ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนทรงคางก็สามารถสลายฟิลเลอร์เดิม แล้วจึงเติมฟิลเลอร์คางใหม่เข้าไปได้ หรือถ้าต้องการเสริมคางซ้ำก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อเดิมซ้ำได้เช่นกัน โดยแพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสมกับคนไข้รายคน


การฉีดฟิลเลอร์คางมีข้อดีอย่างไร?


ฟิลเลอร์คางดีไหม? หากสนใจเกี่ยวกับหัตถการนี้ แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะฉีดฟิลเลอร์ดีหรือไม่ ในหัวข้อนี้ก็มีข้อดีที่ทำให้มีผู้สนใจทำฟิลเลอร์คางมากขึ้นในปัจจุบัน ดังนี้

  • เพิ่มความงาม เพิ่มความมั่นใจ

การทำฟิลเลอร์คางจะช่วยปรับสภาพคางที่มีปัญหา เช่น คางบุ๋ม คางตัด หรือคางสั้น ให้ดูเรียว มีมิติ และคมชัดมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ไม่มั่นใจในรูปทรงหน้าของตนเองได้ด้วย
 

  • ปรับทรงคางตามชอบได้

ในกรณีที่ไม่ถูกใจทรงคาง สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์คางเพื่อแก้ไข โดยระยะเวลาสลายตัวของฟิลเลอร์จะอยู่ที่ประมาณ 2 สัปดาห์ และสามารถเติมฟิลเลอร์คางใหม่ให้ได้ทรงตามชอบได้ แต่ควรเว้นระยะให้ผิวฟื้นตัวก่อนฉีดซ้ำอีกครั้ง

  • รอยแผลเล็ก พักฟื้นน้อย

การฉีดฟิลเลอร์เป็นการนำเข็มฉีดบริเวณที่มีปัญหา ทำให้มีโอกาสเกิดรอยแผลหลังฉีดน้อยมาก หรืออาจมองไม่เห็นรอยเข็มฉีดยาเลย อีกทั้งด้วยสภาพหลังฉีด filler คางจะไม่มีรอยแผลเย็บอยู่ จึงไม่จำเป็นต้องใช้เวลาพักฟื้นเยอะ

  • เสริมสิริมงคล

สำหรับผู้ที่มีความเชื่อเรื่องโหงวเฮ้งช่วยเสริมสิริมงคล เพิ่มความเจริญรุ่งเรืองให้กับการใช้ชีวิต การงาน การเงิน และอื่น ๆ ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์คางได้ด้วยเช่นกัน

 

ผู้ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์คาง


ฟิลเลอร์คางจะช่วยแก้ปัญหาคางได้หลากหลาย รวมถึงยังเห็นผลที่ชัดเจนได้หลังทำ ไม่ต้องรอพักฟื้นหลังการผ่าตัด โดยเหมาะกับผู้เข้ารับการรักษา ดังนี้

  • ผู้ที่มีลักษณะคางไม่เท่ากัน คางบุ๋ม คางตัด
  • ผู้ที่อยากมีใบหน้าได้รูป เรียวสวย เห็นขอบหน้าชัด
  • ผู้ที่กลัวการผ่าตัดหรือไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้
  • ผู้ที่ต้องการปรับคางตามโหงวเฮ้งเพื่อเสริมดวง
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาในการพักฟื้น

 

ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังทำฟิลเลอร์คาง


เพื่อให้ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์คางมีประสิทธิภาพ รวมถึงยืดระยะเวลาให้ผลลัพธ์อยู่คงทน ควรปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดดังนี้

 

ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง

  • ศึกษาข้อมูลก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อป้องกันผลข้างเคียง รวมถึงให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นาน
  • แจ้งประวัติการใช้ยาและประวัติโรคประจำตัวกับแพทย์อย่างละเอียด
  • งดยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 7 วัน
  • งดทำเลเซอร์ นวดหน้า สครับหน้า ก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 3-5 วัน
  • งดดื่มแอลกอฮอล์เพื่อไม่ให้เลือดสูบฉีดก่อนฉีดคาง 3-5 วัน

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

  • หลังฉีดฟิลเลอร์มีอาการปวด สามารถทานยาแก้ปวดได้
  • ไม่จับ, แกะ, เกา หรือกดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์เลื่อนอย่างน้อย 14 วัน
  • งดทำหัตถการเลเซอร์อย่างน้อย 14 วัน
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่อากาศร้อน รวมถึงงดล้างหน้าด้วยน้ำร้อนหรือทานของร้อนอย่างน้อย 7 วัน
  • หลีกเลี่ยงไม่โดนแสงแดดอย่างน้อย 7 วัน
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3-5 วัน
  • งดใช้สกิลแคร์ที่มีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อย 3 วัน
  • งดทานอาหารรสเผ็ด อาหารรสหวาน ของดองอย่างน้อย 3 วัน
  • งดออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 2 วัน
  • ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์คงรูปได้ดี
  •  

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์คาง 


ผลลัพธ์หลังฟิลเลอร์คางจะคงอยู่นานไหม?


ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์คางจะคงอยู่นานไหมนั้น มีปัจจัยหนึ่งที่มาจากยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกฉีด โดยส่วนมากผลลัพธ์ฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้นานราว 12-18 เดือน และยังขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองหลังฉีดร่วมด้วย ดังนั้นหลังฉีดฟิลเลอร์แล้วควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นาน

อย่างไรก็ตาม ถ้าเจอโฆษณาว่าฉีดฟิลเลอร์ถาวร นั่นอาจเป็นไปได้ว่าคุณกำลังฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายเองได้เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งฟิลเลอร์ประเภทนี้จะส่งผลให้คางไม่เป็นรูปหรือเป็นพังผืด ทำให้ต้องผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออกเพราะฉีดสลายฟิลเลอร์คางไม่ได้ผล


ฉีดฟิลเลอร์คางราคาเท่าไหร่?


ฉีดฟิลเลอร์คางจะมีราคาขึ้นอยู่กับสถานที่ให้บริการ ยี่ห้อของฟิลเลอร์ และปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ฉีด โดยเฉลี่ยแล้ว ราคาฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะอยู่ที่ 9,000-18,000 บาทขึ้นไปต่อปริมาณ 1 cc ซึ่งปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ก็จะขึ้นอยู่กับลักษณะคางของแต่ละคน ส่วนมากฟิลเลอร์คางจะใช้ 1 cc แต่ในกรณีที่คางสั้นหรือคางตัด ทางแพทย์อาจจะพิจารณาให้ฉีดคาง 2 cc -3 cc ตามความเหมาะสม 


หลังฉีดฟิลเลอร์คางแล้วบวมเป็นก้อนจะเป็นอันตรายไหม?


หลังฉีดฟิลเลอร์คาง หากเป็นก้อนบวม ก็ถือเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป เพราะบางคนหลังฉีดฟิลเลอร์คางอาจพบอาการข้างเคียง เช่น ปวด บวม ช้ำบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการที่มักจะหายได้เองในระยะเวลา 3-7 วัน แต่กรณีพบอาการอื่น ๆ เช่น รู้สึกแสบร้อน, บวมแดงผิดปกติ, มีผื่นขึ้น หรือมีหนอง อาจเป็นอาการที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อหรือแพ้ฟิลเลอร์ ให้รีบพบแพทย์เพื่อไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น


ฟิลเลอร์คางที่ Romrawin Clinic

ฉีดฟิลเลอร์คาง

 

อยากมีคางสวยได้รูป ดูมีมิติน่ามอง ฟิลเลอร์คางเป็นหนึ่งในหัตถการที่ช่วยให้คุณได้ปรับทรงคางตามที่ต้องการได้ แต่เพื่อความปลอดภัย ควรใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ใช้สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิคแอซิดฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์เท่านั้น

 

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาว่าฉีดคางที่ไหนดี? ควรมองหาสถานที่ฉีดฟิลเลอร์คางที่ได้มาตรฐานรับรอง มีทีมแพทย์เฉพาะทางผู้มีประสบการณ์ฉีด และมีราคาสมเหตุสมผล รมย์รวินท์ คลินิกเสริมความงามที่สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ เพราะทางคลินิกได้รับการรองรับมาตรฐานสากล มีทีมงานพร้อมให้ข้อมูลอย่างละเอียด พร้อมดูแลเอาใจใส่ทุกขั้นตอนการให้บริการ ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถอุ่นใจทุกครั้งที่เข้ารักษากับทางคลินิก